xs
xsm
sm
md
lg

คนรักในหลวงเชียงใหม่รวมตัวบุกกงสุลสหรัฐฯ ยื่นประท้วงทูตเสียมารยาทวิจารณ์ ม.112 (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ชมรมคนรักในหลวงเชียงใหม่ นรวมตัวหน้าสถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำเชียงใหม่ แถลงการณ์แสดงความไม่พอใจ ยื่นหนังสือประท้วงเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ วิพากษ์ ม.112 พาดพิงสถาบันกษัตริย์ ชี้เป็นการเสียมารยาททางการทูต จี้กระทรวงการต่างประเทศเร่งตรวจสอบ พร้อมปกป้องศักดิ์ศรีและอธิปไตยของชาติ



วันนี้ (30 พ.ย.) ที่สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำเชียงใหม่ รองศาสตราจารย์ธีระ วิสิทธิ์พานิช ประธานชมรมคนรักในหลวงจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยสมาชิกชมรมเครือข่ายคนรักในหลวง และประชาชนจำนวนมาก รวมตัวกันเพื่ออ่านแถลงการณ์แสดงจุดยืนในการปกป้องสถาบันฯ และแสดงความไม่พอใจ รวมทั้งอ่านจดหมายเปิดผนึกประณามและยื่นหนังสือประท้วง

กรณีที่นายกลิน ทาวน์เซนด์ เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย แสดงความคิดเห็นวิจารณ์เกี่ยวกับกฎหมายมาตรา 112 ของไทย เป็นการพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยก่อนหน้าที่จะเดินทางมาที่สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำเชียงใหม่ ทางชมรมได้รวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เข้ายื่นหนังสือประท้วงและแถลงการณ์กรณีเดียวกันนี้ต่อนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่แล้ว โดยเรียกร้องให้กระทรวงการต่างประเทศของไทยตรวจสอบข้อเท็จจริง และพิจารณาในเรื่องนี้ รวมทั้งดำเนินการตามวิถีทางการทูตเพื่อปกป้องศักดิ์ศรี และอธิปไตยของประเทศไทยอย่างเร่งด่วนต่อไป

ทั้งนี้ แถลงการณ์มีเนื้อหาว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 25 พ.ย. นายกลินได้กล่าวในเวทีเสวนาที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ มีข้อความที่วิจารณ์กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งมีข้อความที่สำคัญว่า ป.อาญา มาตรา112 เป็นกฎหมายที่ขัดขวางเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน การแสดงความคิดเห็นอย่างสันติไม่ควรถูกจำคุก และศาลไทยยังได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยด้วยความรุนแรงยาวนานเกินไป

โดยนายกลินกล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ จะให้การสนับสนุนบุคคลหรือองค์กรอิสระที่มีศักยภาพ ค้นคว้า และรายงานในประเด็นกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของไทยโดยไม่ต้องเกรงกลัวอันตรายใดๆ

นายกลินเป็นเอกอัครราชทูต การออกมากล่าวในที่สาธารณะโดยวิจารณ์กฎหมายสำคัญของไทยในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำอยู่แล้ว ยิ่งกว่านั้นการกล่าวในลักษณะยุยงให้บุคคลอื่นๆ กระด้างกระเดื่องต่อกฎหมายฉบับนี้ ย่อมถือว่าเป็นพฤติการณ์ที่ผิดมารยาททางการทูต ทั้งยังสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 116 (3) อีกด้วย ซึ่งสหรัฐฯ ก็มีกฎหมายคุ้มครองประธานาธิบดีเช่นกัน

เมื่อปี 2553 นายสเปนเซอร์ ชาวเมืองหลุยส์วิลส์ มลรัฐเคนทักกี ได้ถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุกนานถึง 33 เดือน จากการกระทาในการเขียนบทกวีพาดพิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดังนั้นก่อนที่จะก้าวก่ายกิจการภายในของประเทศไทย นายกลินควรที่จะได้ดูกฎหมายของประเทศตนเองก่อนว่าขัดขวางเสรีภาพของประชาชนและมีการลงโทษมากเกินไปหรือไม่

โดยชมรมคนรักในหลวงจังหวัดเชียงใหม่ขอเรียกร้องให้กระทรวงการต่างประเทศของไทยตรวจสอบข้อเท็จจริง และพิจารณาในเรื่องนี้ รวมทั้งดำเนินการตามวิถีทางการทูตเพื่อปกป้องศักดิ์ศรี และอธิปไตยของประเทศไทยอย่างเร่งด่วนต่อไป

สำหรับการรวมตัวกันของสมาชิกชมรมคนรักในหลวงจังหวัดเชียงใหม่ และเครือข่ายคนรักในหลวง ที่บริเวณหน้าสถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำเชียงใหม่ในครั้งนี้ ทางชมรมฯ ได้อ่านแถลงการณ์และจดหมายเปิดผนึก พร้อมแสดงเจตนาที่ต้องการจะยื่นหนังสือประท้วงเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ผ่านนายไมเคิล ฮีธ กงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำเชียงใหม่

ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายไมเคิล ฮีธ กงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำเชียงใหม่ ได้เชิญแกนนำของชมรมเข้าไปยื่นหนังสือและพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึงสามครั้ง แต่ทางชมรมปฏิเสธจึงได้มีการยื่นหนังสื่อผ่านนายธงชัย มหาไชย หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงสถานกงสุลสหรัฐอเมริกาประจำเชียงใหม่ เป็นตัวแทนรับหนังสือ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ขณะเดียวกัน มีรายงานด้วยว่า ทางเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กลิน เดวี่ส์ก็เคยพูดแล้วหลายครั้งว่าสหรัฐอเมริกาสนับสนุนและเห็นด้วยกับสิทธิของประชาชนในการชุมนุมโดยสงบเพื่อที่จะแสดงออกซึ่งความคิดเห็นของพวกเขา

อย่างไรก็ตาม หลังจากยื่นหนังสือแล้วชมรมคนรักในหลวงจังหวัดเชียงใหม่ได้ร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงสดุดีมหาราชา ก่อนที่จะแยกย้ายกันโดยสงบ











กำลังโหลดความคิดเห็น