xs
xsm
sm
md
lg

ดร.ธรณ์ โพสต์ซ้ำเจอคราบน้ำมันเกลื่อนทะเลอ่าวมาหยา จ.กระบี่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

กระบี่ - สนั่นโลกโซเชียลอีก หลัง ดร.ธรณ์ โพสซ้ำเจอคราบน้ำมันบริเวณอ่าวมาหยา จ.กระบี่ แนะยกระดับจัดการท่องเที่ยว

วันนี้ (11 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่กลายเป็นที่วิพากษ์จารณ์กันอย่างหนักในโลกโซเชียลมีเดียในเวลาอันรวดเร็ว ภายหลัง ดร.ธรณ์ ธำรงค์นาวาสวัสดิ์ นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ได้โพสต์ภาพขยะจำนวนมากลอยเกลื่อนบริเวณอ่าวปีเละ เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว Thon Thamrongnawasawat พร้อมข้อความ “อ่าวปีเละ...กำลังเละ” และว่าเป็นอ่าวที่สวยที่สุดในประเทศไทย เพราะเป็นแหล่งปะการังใต้ทะเลที่มีความสวยงาม โอบล้อมไปด้วยผาหินปูนที่สวยงาม

แต่ปัจจุบันพบว่าอ่ าวเล็กๆ แห่งนี้มีขยะลอยอยู่จำนวนมาก เกลื่อนเป็นแพอยู่เต็มอ่าว ส่งผลให้เสียบรรยากาศการท่องเที่ยว ซึ่งหลังมีการโพสต์ข้อความดังกล่าวตั้งแต่เมื่อวานนี้ และล่าสุด ทาง ดร.ธรณ์ ได้มีการโพสต์ข้อความต่ออีกว่า “แพขยะอยู่ในปิเละ” ผมกลั้นใจพูด พยายามรักษาระดับความพะอืดพะอมไม่ให้ถึงขั้นอ้วกแตกใส่ ฮ.ช่อง3 มันจะเสียชื่อไปถึงคณะประมง ม.เกษตรศาสตร์ หน่วยงานอันเป็นที่รักยิ่งผมไม่มีปัญหาต่อการนั่ง ฮ.แบบมนุษย์ปุถุชน แต่ ฮ.ที่ตีวงบ้าง ทิ้งดิ่งบ้าง บินเหมือนลูกข่างเหนือเกาะหินปูน ที่สำคัญประตูก็เปิดอยู่ มันจะอ้วก และมันกลัวตายเฟ้ย ผมเบือนหน้าหนีไปอีกทาง มองไปทางมาหยา น้ำลงต่ำ เรือจอดกันเพียบเลย แต่...เฮ้ย นั่นมันอะไร ?

สิ่งที่ลอยจากเรือเป็นคราบสีรุ้งที่ผิวน้ำ กินพื้นที่กว้างเหนือแนวปะการังแห่งสุดท้ายของมาหยาที่ยังไม่ตาย มันคือสิ่งที่ผมรู้จักดี เพิ่งตามดูที่หัวหินมาหยกๆ บัดนี้ปรากฏอยู่ที่นี่ คราบน้ำมัน!!! ช่างมันก่อนแพขยะ ทีมงานตกลงใจพร้อมกัน ฮ.เปลี่ยนทิศไปที่อ่าวมาหยา ก่อนบินเวียนอยู่ตรงนั้นเพื่อเก็บภาพแ ละรายงานข่าว คราบน้ำมันคือมลพิษน่ากลัวสุดอย่างหนึ่งในทะเล และในกรณีนี้ น้ำมันถูกปล่อยในตอนน้ำลงต่ำสุด โอกาสโดนปะการังมีสูง...มากๆ

คราบพวกนี้โดนปะการังเข้าไปจะเกิดการฟอกขาวเฉียบพลัน บทเรียนจากอ่าวพร้าวบอกเราเช่นนั้น เผอิญที่นี่ไม่ใช่อ่าวพร้าว แม้คราบน้ำมันจะน้อยกว่า แต่ที่นี่คือมาหยา แหล่งท่องเที่ยวอันดับ 1 ของพีพี ไม่สิ...อันดับหนึ่งของอันดามัน ของทะเลไทย หากดูจากจำนวนนักท่องเที่ยวเป็นหลักนี่คือหลักฐานล่าสุดที่ผมอยากบอก พีพีมีวิกฤตจริง ทุกเรื่องทุกภาพที่ผมนำมาให้เพื่อนธรณ์ดู ไม่ได้แชร์มา ไม่มีใครส่งมาให้ ผมมาเอง เห็นเอง ถ่ายภาพเอง

จึงอยากขอร้องวิงวอนผู้มีอำนาจทุกท่าน ปัญหาที่พีพีสะสมมาหลายปี การจัดการด้วยระบบธรรมดาไม่มีทางสำเร็จผม ไม่มีตำแหน่งใดในการปฏิรูปเหลือ ช่องทางเดียวที่พวกเราช่วยกระตุ้นรัฐได้ คือ ศูนย์ร้องทุกข์สำนักนายกรัฐมนตรี 1111 (เสิร์ชคำนี้แล้วเจอครับ)

บอกท่านว่า พีพีกำลังจะตายครับ ปัญหาหลักคือ ทิ้งสมอ คราบน้ำมัน ให้อาหารปลา ขยะ และน้ำเสีย เหยียบปะการัง ฯลฯ อุปสรรคสำคัญคือ กำลังคน เรือ การร่วมช่วยกันของหน่วยงาน ไม่ใช่ด้านหนึ่งก็โปรโมตให้คนมา อีกด้านก็พยายามรักษาทรัพยากรแต่ไม่มีงบมีคน จนหมดใจปล่อยให้มันเป็นไป ไม่มีปัญญาดูแลแล้วโว้ยทางออกคือยกระดับการจัดการท่องเที่ยวพีพี เพิ่มศักยภาพทั้งกำลังคน เรือ ทุ่น ให้แก่อุทยาน (ที่มีเรือเหลือ 1 ลำ และกำลังซ่อม) นอกจากนี้ ทุกหน่วยงานจำเป็นต้องมาบูรณาการกัน ท่องเที่ยว กรมทะเล กรมอุทยาน จังหวัด ท้องถิ่น เอกชน ฯลฯ ช่วยพีพีให้ได้ และต้องได้แบบเห็นด้วยสายตา เราเบื่อรายงานโน่นนี่นั่นพอแล้ว

อาจใช้ภูทับเบิกโมเดล แต่รับประกันว่าที่นี่ดุเดือดกว่ามาก ฮ.เราเดินทางกลับจากมาหยา ผมหันไปมองเธอเป็นครั้งสุดท้าย สงสัยเหมือนกันว่าตัวเรากำลังทำอะไรมันอาจเป็นแค่ความเพ้อฝันโง่ๆ ของชายคนหนึ่ง แต่ด้วยความทรงจำที่มีในวันก่อน และเพื่อนๆ ที่เขามีในวันนี้ เพื่อนที่คอยให้กำลังใจ คอยแชร์คอยไลก์ในสิ่งที่เขาทำ ผมอายุห้าสิบ ผมไม่มีอะไรเหลือให้ทำอีกมากมาย จึงเหลือเพียงความเพ้อฝันโง่ๆ ประการนั้น ทวงคืนพีพี !!!
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น