คอลัมน์ : คนคาบสมุทรมลายู
โดย...จรูญ หยูทอง-แสงอุทัย
ในรอบศตวรรษที่ผ่านมา ไม่มีใครในแวดงวงวิชาการทางด้านวัฒนธรรมชาวบ้าน หรือคติชนวิทยา จะไม่รู้จัก “ศาสตราจารย์ สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์” เมธีวิจัยอาวุโส สาขาสังคมศาสตร์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนกานวิจัย (สกว.) อดีตผู้สถาปนา และผู้อำนวยการสถาบันทักษิณคดีศึกษา ผู้มีคุณูปการต่อแวดวงวิชาการด้านวัฒนธรรม โดยเฉพาะคติชนวิทยา หรือวัฒนธรรมพื้นบ้าน
จนได้รับการยอมรับ และเชิดชูยกย่องให้ได้รับรางวัลเกียรติยศ และดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากสถาบันต่างๆ มากมาย เช่น รางวัลพระเกี้ยวทองคำ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในฐานะผู้ส่งเสริมภาษาไทยดีเด่น (๒๕๓๒) รางวัลศิษย์เก่าดีเด่นมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (๒๕๒๓) วิทยาลัยครูจันทรเกษม (๒๕๒๔) รางวัลผู้อนุรักษ์ดีเด่นทางภาษาและวรรณกรรม (๒๕๓๗) รางวัลพระสิทธิธาดาทองคำจากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต ในฐานะผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมด้านการค้นคว้าและเผยแพร่ความรู้ทางวัฒนธรรม (๒๕๓๗) รางวัลอนุสรณ์สงขลานครินทร์ (๒๕๓๗) รางวัลผู้ทำคุณประโยชน์ให้กระทรวงศึกษาธิการ (๒๕๓๘) และล่าสุด ได้รับรางวัลชูเกียรติ อุทกะพันธุ์ (๒๕๕๘)
แม้ว่า ศาสตราจารย์สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์ จะมีผลงานทั้งด้านตำรา พจนานุกรมภาษาถิ่นภาคใต้ สารานุกรมวัฒนธรรมไทยภาคใต้ และงานสร้างงานอย่างการสถาปนาสถาบันทักษิณคดีศึกษา การก่อตั้งพิพิธภัณฑ์คติชนวิทยา วิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน โครงการวิจัย เช่น โครงการวิจัยเรื่องโครงสร้างและพลวัตวัฒนธรรมภาคใต้กับการพัฒนา โครงการวิจัยเรื่องภูมิปัญญาทักษิณจากวรรณกรรมและพฤติกรรม โครงการแผนที่ ๓ มินิทัศน์วัฒนธรรมภาคใต้ : ฐานทางเศรษฐกิจและทุนทางวัฒนธรรม ฯลฯ
แต่ยังไม่เคยมีใคร หรือกลุ่มบุคคลใดให้ความสนใจวิพากษ์ วิจารณ์ หรือวิเคราะห์และสังเคราะห์ผลงานของท่าน เพื่ออธิบาย และขยายผลทั้งในด้านวิธีวิทยา แนวคิดในการศึกษาสังคมวัฒนธรรมภาคใต้ องค์ความรู้ทางวัฒนธรรม และสิ่งที่ศาสตราจารย์สุธิวงศ์ คิดฝันอยากเห็นอยากให้มีขึ้นในสังคมภาคใต้
เราในฐานะผู้เคยร่วมงาน และมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับอาจารย์ในทางส่วนตัว และในทางวิชาการ จึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้น อย่างน้อยเพื่อนเป็นการคารวะครูในวาระอันสำคัญยิ่ง
วัตถุประสงค์ ๑.เพื่อศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ผลงานของศาสตราจารย์สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์ ในทุกด้าน ๒.เพื่อจัดพิมพ์หนังสือวิเคราะห์และสังเคราะห์ผลงานของศาสตราจารย์สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์ เผยแพร่ต่อสาธารณชน ๓.เพื่อเชิดชูเกียรติ ยกย่องผู้มีคุณูปการต่อสังคมภาคใต้ ด้วยหนังสือที่เกิดจากการถอดรหัสทางความคิด ความเห็น และประสบการณ์ที่ได้ชื่อว่าเป็น “คราบน้ำตาบนทางชีวิตและงานของ สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์”
ผู้รับผิดชอบโครงการ ประกอบด้วย ๑.นายจรูญ หยูทอง ๒.นายบุญเลิศ จันทระ ๓.นายสมคิด ทองสง ๔.นายประมวล มณีโรจน์ ๕.รศ.ยงยุทธ ชูแว่น ๖.ดร.พิเชฐ แสงทอง
วิธีดำเนินงาน ๑.นำเสนอโครงการ ๒.จัดทำกรอบเนื้อหาของหนังสือ หรือบทวิเคราะห์-สังเคราะห์ ๓.ประชุมคณะทำงานเพื่อปรึกษาหารือและแบ่งงานกันรับผิดชอบ ๔.เขียนบทวิเคราะห์-สังเคราะห์ผลงาน ๕.ประชุมร่วมพิจารณาต้นฉบับของคณะทำงานแต่ละคน ๖.จัดพิมพ์หนังสือวิเคราะห์-สังเคราะห์ผลงานฯ ๗.เผยแพร่หนังสือต่อสาธารณชน
กรอบเนื้อหาของหนังสือ (ร่างเพื่อร่วมพิจารณาเบื้องต้น) ๑.รากเหง้าและเบ้าหลอม (ถิ่นฐานบ้านเกิด จนถึงเรียนวิทยาลัยครู และวิทยาลัยวิชาการศึกษา) ๒.ก่อร่างสร้างฐาน (ตั้งแต่เก็บข้อมูลวรรณกรรมท้องถิ่น จนถึงสถาปนาสถาบันทักษิณคดีศึกษา) ๓.องค์ความรู้ที่ได้จากผลงานของ ศ.สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์ (ความเข้าใจภาคใต้ อัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชาวใต้ในมุมมองของ ศ.สุธิวงศ์ ผลที่เกิดขึ้นแก่วงวิชาการทางด้านวัฒนธรรมในสังคมภาคใต้และสังคมไทย)
๔.แนวคิดและทฤษฎีในการศึกษาสังคมภาคใต้ของ ศ.สุธิวงศ์ (วิธีวิทยาในการศึกษา แนวคิดและทฤษฎีที่ใช้เพื่อการศึกษา) ๕.ภูมิปัญญาทักษิณจากวรรณกรรมและพฤติกรรม (วรรณกรรมท้องถิ่นภาคใต้ แผนที่ภูมินิทัศน์วัฒนธรรมภาคใต้ : ฐานเศรษฐกิจและทุนทางวัฒนธรรม) ๖.สารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคใต้ (สังเคราะห์) ๗.วิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน และสถาบันทักษิณคดีศึกษา ๘.วิสัยทัศน์ สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์ ในด้านต่างๆ การผลิตบัณฑิต การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม การทำหน้าที่กรรมการด้านวัฒนธรรม ฯลฯ)
ประโยชน์ที่คิดว่าจะได้รับจากโครงการนี้ ประการแรกคือ การได้วิเคราะห์สังเคราะห์งานของ อาจารย์สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์ เชิงวิพากษ์ เพื่อถอดบทเรียนของการทำงานทางด้านส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมตามแนวคิดของอาจารย์ อันจะยังประโยชน์ในการศึกษา ทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม หรือรักษาชาติ
ประการที่สอง สังเคราะห์องค์ความรู้แบบสหวิทยาการ เพื่อศึกษา เข้าใจและพัฒนาสังคมภาคใต้และสังคมไทยด้วยความรู้ ตามหลักวิชาการแบบตะวันออก หรือแนวพุทธศาสตร์ ไม่ใช่ตามความรู้สึกอย่างที่เป็นมา และเป็นอยู่ในปัจจุบัน
ประการที่สาม ได้สืบทอดทฤษฎี วิธีวิทยาตามที่อาจารย์พยายามนำเสนอในการศึกษาสังคมภาคใต้ และสังคมไทย อันเป็นอัตลักษณ์สำคัญของปราชญ์สามัญชน เช่น ทฤษฎีการวิจัยทางสังคมศาสตร์ตามแนวพุทธศาสตร์ ทฤษฎีสาวย่านนับโยด หรือแนวคิดเชิงปรัชญาที่ว่า “กุศลปรุงแต่งกรรม วัฒนธรรมปรงแต่งคน” เป็นต้น
ประการสุดท้าย สาธุชนทั่วไปจะได้รู้แจ้งเห็นจริงว่า อาจารย์สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์ ไม่ได้ “สร้างที่อยู่หรูหราราคาแพงให้เหล็กขูด” หรือ “สร้างกองขยะราคาแพงที่เรียกว่า พิพิธภัณฑ์คติชนวิทยา” อย่างที่อมิตรกล่าวหาท่าน
พวกเราขออาสา และประกาศจัดตั้ง หรือสถาปนา “สำนักคิด สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์” ในนามของลูกศิษย์ลูกหาที่เคารพ และบูชาอาจารย์ด้วยจิตวิญญาณ ไม่ใช่ด้วยปาก จนอาจารย์เคยพึมพำถึงบางคนที่ชอบออกหน้าทำที่เป็นคนสนิทชิดเชื้อกับอาจารย์ว่า “ไม่เห็นมันทำอย่างที่มันพูดสักเรื่อง”
เราจะผลักดันทุกเรื่องที่เสริมสร้างเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรี และเกียรติยศของอาจารย์ ในวันเวลาที่อาจารย์ยังรับรู้อะไรอยู่บ้าง เพราะเราตระหนักดีว่าสิ่งที่อาจารย์รัก และหวงแหนที่สุดในชีวิตคือ “สถาบันทักษิณคดีศึกษา และพิพิธภัณฑ์คติชนวิทยา” แต่เราไม่อาจจะปกปักรักษามันไว้ได้
จึงขอทำหน้าที่อันมีเกียรติในการปกปักรักษา “ความเป็น สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์” ว่า “กว่าโลกจะขานรับ” มันเกิดอะไรขึ้นมาบ้างใน “คราบน้ำตาบนทางชีวิตของ สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์” ครับ
(ใครสนใจสนับสนุนการทำหน้าที่นี้ โดยเฉพาะการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการ แสดงความประสงค์เข้ามาได้นะครับ เพื่อสร้างวิทยาทานแก่สังคมบ้านเกิดเมืองนอนร่วมกันครับ)
(อ่านต่อฉบับหน้า)