ชุมพร - เจ้าหน้าที่ดูแลใกล้ชิด เจ้าโทน กระทิงป่าหลงฝูงนานกว่า 3 ปี ผสมวัวบ้านมีลูกกว่า 50 ตัว ที่อำเภอทุ่งตะโก จ.ชุมพร หลังเกิดเหตุเจ้าไข่ดำ กระทิงป่า ที่จังหวัดกระบี่ถูกยิงตาย
จากกรณีที่เจ้าไข่ดำ กระทิงป่าหลงฝูง อายุ 7 ปี ที่ถูก นายปรีดา ปากลาว อายุ 41 ปี ยิงตายภายในสวนปาล์มน้ำมันริมเชิงเขา พื้นที่หมู่ 12 ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น ทำให้หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องตื่นตัว โดยเฉพาะที่อำเภอทุ่งตะโก จ.ชุมพร คณะกรรมการที่จังหวัดชุมพรแต่งตั้งขึ้นมาดูแล เจ้าโทน กระทิงป่าหลงฝูงมาอาศัยอยู่ที่หลังวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชุมพร ในพื้นที่ตำบลทุ่งตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร และผสมพันธุ์กับวัวบ้านจนมีลูกสายพันธุ์ผสมระหว่างกระทิงป่ากับวัวบ้านทั้งที่ลงทะเบียน และแอบนำมาผสมเองเกือบ 50 ตัว นานกว่า 3 ปี จนเป็นข่าวทางสื่อมวลชน และกลายเป็นที่ท่อเที่ยวสำคัญของอำเภอนั้น
จ.ส.ต.วิชิต กัลยาณวัตร พัฒนาการอำเภอทุ่งตะโก นายวิมล เจริญสุข ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ตำบลตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่รอยต่อของหมู่ 4 และหมู่ 8 ตำบลตะโก อ.ทุ่งตะโก จุดที่เจ้าโทนกระทิงป่าหลงฝูงอาศัยอยู่พบว่า เจ้าโทนกระทิงป่าหลงฝูงตัวดังกล่าวมีลำตัวขนาดใหญ่แข็งแรงสมบูรณ์ ยังอยู่วนเวียนอยู่ในสวนปาล์มน้ำมันหลังวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชุมพร ซึ่งมีพื้นที่นับพันไร่ โดยมีวัวตัวเมียที่ชาวบ้านนำมาเลี้ยงไว้อยู่เคียงข้างไม่ห่างเพื่อรอการผสมพันธุ์ และยังพบว่า มีลูกของเจ้าโทนที่ผสมพันธุ์กับวัวบ้านหลายตัวอยู่บริเวณดังกล่าว เมื่อเจ้าโทนเห็นผู้สื่อข่าว และชาวบ้านมาดูก็ไม่ได้แสดงอาการดุร้ายแต่อย่างใด ยังคงเชื่องอยู่เหมือนเดิม และนอนนิ่งๆ ให้ถ่ายภาพในระยะไม่ถึง 5 เมตร
นายประสาร ขาวสุข ประธานคณะกรรมการที่จังหวัดชุมพรแต่งตั้งขึ้นมาดูแลเจ้าโทน กระทิงหลงฝูงตัวดังกล่าว เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุกระทิงป่าหลงฝูงทถูกยิงจนเสียชีวิตที่ จ.กระบี่ ก็มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงมาดูอย่างใกล้ชิด แต่ในความรู้สึกส่วนตัวคงไม่กังวลใจมากนัก เนื่องจากในพื้นที่ตำบลตะโก มีการแจ้งให้ชาวบ้านทุกคนทราบมาโดยตลอด และชาวบ้านทุกคนก็ช่วยกันดูแลเจ้าโทนเป็นอย่างดีเหมือนคนในครอบครัว เชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุเหมือนที่จังหวัดกระบี่อย่างแน่นอน