xs
xsm
sm
md
lg

รอดหวุดหวิด! หนุ่มชุมพรเข้าป่าขุดหัวมัน เจอช้างแม่ลูกอ่อนทำร้าย วิ่งหนีตกหลุมขาหัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ชุมพร - หนุ่มหลังสวน จ.ชุมพร ไปขุดหัวมันเจอช้างป่าแม่ลูกอ่อนทำร้ายวิ่งตกหลุมขาหัก เผยมีชาวบ้านนับสิบคนโดนมาแล้ว นายอำเภอรุดเยี่ยมถึงโรงพยาบาล วอนอย่าทำร้ายช้าง

เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (27 ต.ค.) ที่โรงพยาบาลหลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร นายชุมพล สุกใส นายอำเภอหลังสวน จ.ชุมพร พร้อมด้วยกิ่งกาดชาดอำเภอหลังสวน เข้าเยี่ยมอาการ นายภาสกร เพชรนิล อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 6 ตำบลวังตะกอ อ.หลังสวน ชาวบ้านซึ่งถูกช้างป่าไล่ทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บขาหัก มอบกระเช้า และเงินสดจำนวนหนึ่งเพื่อช่วยเหลือ และให้กำลังใจ โดยมี นพ.ศักดิ์สิทธิ์ มหารัตนวงศ์ ผอ.โรงพยาบาลหลังสวน คอยดูแลอาการของนายภาสกร กล่าวว่า ได้รับตัวนายภาสกร เข้ารักษาที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.58 ด้วยอาการกระดูกบริเวณช่วงหน้าแข้งขาขวาหักต้องทำการผ่าตัดดามเหล็ก ขณะนี้อาการปลอดภัยแต่ต้องใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 3 เดือน จึงจะหายเป็นปกติ

นายภาสกร เล่าถึงนาทีชีวิตว่า ได้ออกไปตัดหญ้าในสวนทุเรียนที่บริเวณเขาตะเคียนหมู่ที่ 13 ตำบลหาดยาย อ.หลังสวน เขตรอยต่อตำบลวังตะกอ และตำบลหาดยาย เมื่อตัดหญ้าเสร็จช่วงบ่ายของวันที่ 22 ต.ค.58 ได้ออกไปขุดหัวมันป่าเพื่อนำไปให้แม่ต้มกิน ระหว่างนั้นได้มีช้างป่าแม่ลูกอ่อนซึ่งหากินอยู่ที่ป่าไผ่ห่างจากจุดที่ตนขุดหัวมันอยู่ประมาณ 20 เมตร ได้ส่งเสียงร้องขู่ และวิ่งมาที่ตน ด้วยความตกใจกลัวอย่างมากจึงวิ่งหนีลงจากเขาอย่างไม่คิดชีวิต และบังเอิญตกหลุมจนตนล้มฟุบทำให้ขาหักดังกล่าว โชคดีที่ช้างป่าแม่ลูกอ่อนไม่ไล่ตามมาจึงรอดมาได้อย่างหวุดหวิด จนกระทั่งพ่อ และชาวบ้านนับสิบคนที่ออกตามหามาพบตนนอนฟุบอยู่ในป่าและนำส่งโรงพยาบาลหลังสวนอย่างทุลักทุเล พร้อมวิงวอนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหา เพราะที่ผ่านมา มีชาวบ้านถูกช้างป่าไล่ทำร้ายนับสิบรายแล้ว แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือเสียชีวิต

ด้าน นายชุมพล สุกใส นายอำเภอหลังสวน กล่าวว่า ปัญหาระหว่างชาวบ้านกับช้างป่าในพื้นที่อำเภอหลังสวน เกิดมาหลายปีแล้ว ที่ผ่านมา ทางส่วนราชการได้พยายามแก้ไขปัญหา และมีการแต่งตั้งคณะกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกับผู้นำชุมชนเพื่อแก้ปัญหามาอย่างต่อเนื่องแต่ก็ยังเกิดปัญหาขึ้นมาจนได้ หากมองกันด้วยความเป็นจริงชาวบ้านก็ต้องยอมรับว่าบริเวณดังกล่าวเปรียบเหมือนบ้านของช้าง และชาวบ้านจะต้องปรับตัวให้อยู่ร่วมกันกับช้างให้ได้ ส่วนในระยะยาวหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งปลูกป่าไผ่หนาม และเพาะเลี้ยงผึ้งซึ่งเป็นเหมือนกำแพงไว้ไล่ช้างหากรุกล้ำอาณาเขตออกมา เพื่อไม่ให้ลงมากิน และทำลายพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านต่อไป


 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น