ชุมพร - เกิดเหตุการณ์ระทึก หนุ่มชาวสวนยางพาราขับรถยนต์กระบะ พาเมีย และลูกชายออกไปกรีดยางพาราในสวน เจอโขลงช้างป่าออกมาเดินขวางถนนในระยะประชิด ตกใจกลัวจอดรถอุ้มลูกพาเมียหนีรอดตายออกมาขอความช่วยเหลือ
วันนี้ (5 พ.ย.) นายจตุพล กล่อมทรง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 หมู่ 5 ตำบลปังหวาน อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร พาผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบยังบริเวณถนนหมู่บ้านซึ่งเป็นจุดที่เจอโขลงช้างป่าออกมาเดินขวางถนน บริเวณหมู่ 8 ตำบลหาดยาย อ.หลังสวน พร้อมเล่าเหตุการณ์นาทีชีวิตให้ฟัง ว่า ช่วงเวลาประมาณ 19.00 น.วานนี้ ตนเองได้ขับรถกระบะมาพร้อมกับภรรยา และลูกชายวัย 5 ขวบ เพื่อออกไปกรีดยางพาราในสวนบริเวณหมู่ 8 ตำบลหาดยาย อ.หลังสวน ขณะขับรถยนต์มาจากถนนหมายเลข 4006 สายหลังสวน-ระนอง แล้วเลี้ยวเข้าไปถนนลูกรังได้ประมาณ 500 เมตร ก็เจอกับโขลงช้างป่าประมาณ 5 ตัว ออกมาเดินยืนขวางอยู่บนถนนในระยะประชั้นชิดไม่ถึง 10 เมตร ด้วยความตกใจกลัวจึงพยายามที่จะถอยรถแต่รถเกิดขัดข้องเครื่องดับ จึงตัดสินใจอุ้มลูกชายวัย 5 ขวบ ค่อยๆ เปิดประตูพาลูก และภรรยาลงจากรถยนต์ และวิ่งหนีออกมาอย่างไม่คิดชีวิต และใช้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือพารถยนต์กลับบ้านอย่างปลอดภัย
นายจตุพล กล่าวต่อว่า ตนเข้ากรีดยางพาราที่สวนบริเวณดังกล่าวมานานกว่า 4 ปีแล้ว ชาวบ้านบริเวณนี้ส่วนใหญ่มีอาชีพปลูกยางพารา และต้องออกไปกรีดยางในช่วงกลางคืน เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้งแล้วจนไม่มีใครกล้าออกไปกรีดยาง อีกทั้งยางพาราก็ถูกเหลือแค่ 3 กิโลกรัม 100 บาท ช่วงนี้ฝนก็ตกหนักกรีดยางไม่ได้ พอฝนหยุดตกออกมากรีดยางก็เจอกับโขลงช้างป่าอีก จึงขอวิงวอนให้เจ้าหน้าที่เร่งแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังด้วย
อย่างไรก็ตาม จากตรวจสอบของเจ้าหน้าที่สวนป่าหลังสวน ยังพบว่า ช้างป่าโขลงดังกล่าวยังคงวนเวียนอยู่บริเวณใกล้กับภูเขาตะเคียน เขตรอยต่อ 3 อำเภอ คือ อำเภอหลังสวน อำเภอพะโต๊ะ อำเภอทุ่งตะโก และได้ลงมากินพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านเสียหายไปบางส่วน และขณะนี้ช้างป่าได้เดินออกมาไกลจนถึงถนนลาดยางถนนสายหลังสวน-ระนอง ซึ่งเป็นเขตชุมชนแล้ว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างออกติดตาม และผลักดันโขลงช้างป่าให้เข้าไปในเขตป่าลึกต่อไปแล้ว
วันนี้ (5 พ.ย.) นายจตุพล กล่อมทรง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 หมู่ 5 ตำบลปังหวาน อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร พาผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบยังบริเวณถนนหมู่บ้านซึ่งเป็นจุดที่เจอโขลงช้างป่าออกมาเดินขวางถนน บริเวณหมู่ 8 ตำบลหาดยาย อ.หลังสวน พร้อมเล่าเหตุการณ์นาทีชีวิตให้ฟัง ว่า ช่วงเวลาประมาณ 19.00 น.วานนี้ ตนเองได้ขับรถกระบะมาพร้อมกับภรรยา และลูกชายวัย 5 ขวบ เพื่อออกไปกรีดยางพาราในสวนบริเวณหมู่ 8 ตำบลหาดยาย อ.หลังสวน ขณะขับรถยนต์มาจากถนนหมายเลข 4006 สายหลังสวน-ระนอง แล้วเลี้ยวเข้าไปถนนลูกรังได้ประมาณ 500 เมตร ก็เจอกับโขลงช้างป่าประมาณ 5 ตัว ออกมาเดินยืนขวางอยู่บนถนนในระยะประชั้นชิดไม่ถึง 10 เมตร ด้วยความตกใจกลัวจึงพยายามที่จะถอยรถแต่รถเกิดขัดข้องเครื่องดับ จึงตัดสินใจอุ้มลูกชายวัย 5 ขวบ ค่อยๆ เปิดประตูพาลูก และภรรยาลงจากรถยนต์ และวิ่งหนีออกมาอย่างไม่คิดชีวิต และใช้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือพารถยนต์กลับบ้านอย่างปลอดภัย
นายจตุพล กล่าวต่อว่า ตนเข้ากรีดยางพาราที่สวนบริเวณดังกล่าวมานานกว่า 4 ปีแล้ว ชาวบ้านบริเวณนี้ส่วนใหญ่มีอาชีพปลูกยางพารา และต้องออกไปกรีดยางในช่วงกลางคืน เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้งแล้วจนไม่มีใครกล้าออกไปกรีดยาง อีกทั้งยางพาราก็ถูกเหลือแค่ 3 กิโลกรัม 100 บาท ช่วงนี้ฝนก็ตกหนักกรีดยางไม่ได้ พอฝนหยุดตกออกมากรีดยางก็เจอกับโขลงช้างป่าอีก จึงขอวิงวอนให้เจ้าหน้าที่เร่งแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังด้วย
อย่างไรก็ตาม จากตรวจสอบของเจ้าหน้าที่สวนป่าหลังสวน ยังพบว่า ช้างป่าโขลงดังกล่าวยังคงวนเวียนอยู่บริเวณใกล้กับภูเขาตะเคียน เขตรอยต่อ 3 อำเภอ คือ อำเภอหลังสวน อำเภอพะโต๊ะ อำเภอทุ่งตะโก และได้ลงมากินพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านเสียหายไปบางส่วน และขณะนี้ช้างป่าได้เดินออกมาไกลจนถึงถนนลาดยางถนนสายหลังสวน-ระนอง ซึ่งเป็นเขตชุมชนแล้ว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างออกติดตาม และผลักดันโขลงช้างป่าให้เข้าไปในเขตป่าลึกต่อไปแล้ว
