ตรัง - สุดยอด! “น้องเดียว” นายหนังตะลุงผู้พิการทางสายตาชื่อดังภาคใต้นำ “พล.อ.ประยุทธ์” นายกรัฐมนตรี มาแสดงเป็นตัวละครใหม่ล่าสุด จนได้รับความนิยมอย่างมาก เผยมีคิวรับงานคืนละนับหมื่นนับแสนบาทยาวถึงปี 2559
วันนี้ (21 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรัง ว่า นายบัญญัติ สุวรรณแว่นทอง อายุ 22 ปี หรือ “น้องเดียวลูกทุ่งวัฒนธรรม” สุดยอดนายหนังตะลุงชื่อดังของภาคใต้ ซึ่งเป็นผู้พิการทางสายตามาตั้งแต่กำเนิด ได้เปิดใจถึงเหตุผลที่นำ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. มาแสดงเป็นตัวละครใหม่ล่าสุดในหนังตะลุงจนเป็นที่ฮือฮาในโลกออนไลน์อย่างมาก หลังจากมีผู้ถ่ายคลิปแล้วเอาไปเผยแพร่นั้น โดยได้ให้เหตุผลว่า เป็นธรรมดาที่นายหนังตะลุงจะต้องสรรหา หรืออัปเดตอะไรที่ดังๆ มาแสดงเพื่อให้โดนใจผู้ชม และยังเป็นความแปลก ความสนุกสนาน ความบันเทิง นอกเหนือไปจากตัวละครที่มีเดิมๆ ในหนังตะลุง เหมือนกับดาราดังๆ บางคนที่เคยนำเสนอมาแล้ว
สำหรับการนำนายกฯ มาแสดงเป็นตัวละครนั้น ไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายใดๆ เพียงแต่ต้องการสื่อให้เห็นถึงเรื่องราวต่างๆ เช่น เรื่องการประหยัด ความพอเพียง ทั้งนี้ จะวางรูปแบบให้ตัวนายกฯ คุยกับชาวบ้านซึ่งไม่มีความรู้อะไร คือ นายพูนแก้ว ตัวละครตลกคนสำคัญ โดยจะเป็นการถาม หรือกระเซ้าเย้าแหย่กับนายกฯ ในเรื่องเศรษฐกิจ เช่น ปัญหาความยากจน ปัญหาข้าวของแพงในแบบที่ต่างฝ่ายต่างไม่เข้าใจกัน เพราะนายกฯ ฟังภาษาใต้ไม่ออก เลยไม่ถามชาวบ้านแบบซ้ำแล้วซ้ำอีก ขณะที่ นายพูนแก้ว เมื่อเจอกับนายกฯ ก็มีอาการหวั่นๆ และกลัวจะติดคุกเพราะตัวเองพูดภาษากลางไม่ค่อยได้ จึงเกิดปัญหาในการสื่อสารทำความเข้าใจกับนายกฯ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ซึ่งเป็นที่รู้จักของคนทุกคน รวมทั้งชาวใต้ ดังนั้น เมื่อนำมาแสดงเป็นตัวละครจึงทำให้คณะของตนได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างมาก จนถึงกับมีผู้ชมบางคนมานั่งรอดึกๆ ดื่นๆ เพื่อชมการแสดงในช่วงนี้โดยเฉพาะ เพราะมีความน่าสนใจดี ส่วนการเลียนเสียง พล.อ.ประยุทธ์ ถือว่าไม่ค่อยยากนัก เพียงแค่ทำเสียงให้ดูแข็งๆ และพยายามเอาบุคลิกส่วนตัวของท่านมาเติมแต่งลงไป ทั้งนี้ หากตนเองได้มีโอกาสเจอกับนายกฯ ก็อยากบอกขอบคุณที่ให้นำท่านมาแสดงเป็นตัวละครในหนังตะลุง ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้วัฒนธรรมการแสดงท้องถิ่นของชาวใต้เป็นที่รู้จักกว้างขวาง และเกิดความยั่งยืน
ในปัจจุบันท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ โดยเฉพาะการที่ราคาพืชผลทางการเกษตรในภาคใต้ เช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน มีราคาตกต่ำอย่างหนัก แต่ “น้องเดียวลูกทุ่งวัฒนธรรม” กลับนำพาคณะหนังตะลุงไปเดินสายแสดงทั่วประเทศ รวมทั้งในภาคเหนือ และภาคอีสาน โดยขณะนี้มีคิวยาวไปจนถึงตลอดปี 2559 แล้ว และยังมีการติดต่อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แถมยังรับค่าแสดงในอัตราที่สูงที่สุดของบรรดาคณะหนังตะลุง นั่นคือ ถ้าเป็นงานแก้บนทั่วไปจะมีอัตราค่าแสดงคืนละไม่ต่ำกว่า 45,000 บาท แต่ถ้าเป็นงานที่เจ้าภาพรับไปเพื่อเก็บค่าเข้าชม จะมีอัตราค่าแสดงที่สูงกว่านี้ และจะมีอัตราค่าแสดงคืนละ 1 แสนบาทขึ้นไป หากติดต่อไปแสดงในภาคอื่นๆ
สำหรับ “น้องเดียว” เป็นผู้พิการทางสายตามาตั้งแต่กำเนิด และเป็นบุตรคนที่ 2 ของครอบครัว ขณะนี้พ่อ และพี่ชายป่วยเสียชีวิตแล้ว แต่ยังคงอยู่กับแม่ และน้องสาวที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช โดยเขาจะชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจตั้งแต่เด็กๆ กระทั่งเมื่ออายุ 10 ปี ญาติๆ ได้พาไปร้องเพลงตามงานต่างๆ ทั้งงานบวชนาค งานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ พออายุประมาณ 15-16 ปี ก็ได้มีโอกาสร้องเพลงในวงดนตรี “เอกชัย ศรีวิชัย” ศิลปินชื่อดังชาวใต้อยู่ประมาณ 1 ปี จนสามารถเก็บเงินสร้างบ้านหลังเล็กๆ อยู่หลังวัดไม้เสียบ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ให้แม่ และน้องสาวได้อยู่อาศัย
อย่างไรก็ตาม นอกจาก “น้องเดียว” จะชอบร้องเพลงแล้ว ยังชื่นชอบหนังตะลุงด้วย ในบางครั้งได้ให้ญาติๆ พาไปฟังหนังตะลุงที่มาแสดงในหมู่บ้าน หรือซื้อวีซีดีหนังตะลุงของคณะต่างๆ มาฟัง จนในที่สุดตัดสินใจฝึกเล่นหนังตะลุงทั้งๆ ที่มองไม่เห็น โดยเอาเงินที่เก็บออมมาไปซื้อรูปหนังตะลุงสะสมไว้ก่อนจะเริ่มรับงานแสดง ซึ่งขณะนี้รับงานแสดงหนังตะลุงมาได้ประมาณ 5 ปี หรือนับตั้งแต่อายุ 17 ปี โดยนำเอาส่วนที่ดีของหนังตะลุงทุกคณะมาประยุกต์ใช้ในการแสดง รวมทั้งติดตามเรื่องราวข่าวสารบ้านเมืองเพื่อนำมาสอดแทรกในการแสดง ซึ่งจุดเด่นของเขาก็คือ มีเนื้อเรื่องกระชับ แต่แฝงไว้ด้วยสาระ และความสนุกสนาน