ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ออกหมายจับ 33 แกนนำม็อบเผาโรงพักถลาง จ.ภูเก็ต แล้ว แต่รอง ผบ.ตร. และผู้การฯ ภูเก็ตยังปฏิเสธ อ้างไม่ได้รับรายงานจากพนักงานสอบสวนที่มีมากกว่า 20 นาย เผยคดีนี้ไม่รีบ หาหลักฐานให้แน่หนาที่สุด พร้อมให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย เน้นย้ำตำรวจกับประชาชนต้องอยู่ร่วมกันได้ ส่วนมีคนตายในรถพยาบาลเพราะติดม็อบนั้นแนะให้ญาติมาพบพนักงานสอบสวน
เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ (16 ต.ค.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรพล คุปตานนท์ รอง ผบช.ภ.8 ผู้บังคับการกองคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจภูเก็ตที่ปฏิบัติงานในวันเกิดเหตุการณ์ชุมนุมที่บริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมมอบเงินเป็นขวัญ และกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 35 ราย รวมทั้งรับประทานอาหารเที่ยงร่วมกัน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ จากนั้นได้ประชุมติดตามความคืบหน้าดำเนินคดีการชุมนุนหน้า สภ.ถลาง ร่วมกับ พล.ต.ต.ธีรพล คุปตานนท์ รอง ผบช.ภ.8 ผู้บังคับการกองคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ผกก.สภ.ถลาง พนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง โดยไม่อนุญาตสื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง
พล.ต.ต.เฉลิมเกียรติ เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ภูเก็ตในวันนี้เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงานในวันเกิดเหตุการณ์ชุมนุมที่หน้าสถานีตำรวจถลาง ชึ่งทางนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.เป็นห่วงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงานในวันเหตุจึงได้ลงมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว และเพื่อลงมาติดตามภาพรวมของการปฏิบัติงานเกี่ยวกับวัตถุพยานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งภาพรวมการดำเนินการเป็นไปตามกรอบกฎหมายที่ทางตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และตำรวจภูธรภาค 8 กำหนดไว้
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (16 ต.ค.) ได้มีรายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานจากภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหวในวันเกิดเหตุขอศาลจังหวัดภูเก็ต ออกหมายจับแกนนำผู้ชุมนุมแล้ว 33 รายแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ (15 ต.ค.) ซึ่งศาลจังหวัดภูเก็ตได้อนุมัติหมายจับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมตามภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหวโดยไม่ได้ระบุชื่อ และที่อยู่ของกลุ่มคนเหล่านั้นแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้เช่นกัน กลุ่มคนที่ถูกออกหมายจับทั้ง 33 คน เป็นกลุ่มคนที่ทุบ ขว้างปากระจกโรงพักถลางจนได้รับความเสียหาย เผารถยนต์ ปิดถนนกีดขวางการจราจร เป็นต้น ในครั้งแรก และกำลังรวบรวมพยานหลักฐานขอออกหมายศาลเพิ่มเติมต่อไป
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวภายหลังการประชุมติดตามความคืบหน้าของคดี ว่า การประชุมหารือในวันนี้ได้มาติดตามภาพรวมของการสอบสวน ทำสำนวน รวบรวมพยานหลักฐาน ให้ปรากฏชัดเจนกับส่วนที่เกี่ยวข้องต่อความเสียหาย และการกระทำความผิดที่เกิดขึ้น และสำคัญที่สุดได้มอบหมายให้ผู้บังคับการกองคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติมาควบคุมดูแลให้เกิดความรัดกุมมากที่สุด
โดยได้มีการรวบรวบข้อเท็จจริง ก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิด ว่ามีพยานหลักฐานอย่างไร มีใครเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายเรื่องใดให้มีความรอบคอบมากที่สุด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย และถึงขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าข้อกล่าวหาที่จะต้องแจ้งดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดมีอะไรบ้างในขณะนี้ ส่วนกรณีที่ระบุว่า มีการขอออกหมายจับแล้วนั้น ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการนัดหารือกับพนักงานสอบสวนรอบสอง หลังจากได้หารือรอบแรกในการประชุมวันนี้ไปแล้วว่าข้อเท็จจริงทั้งหมด มีความผิดด้านใดบ้าง เกี่ยวข้องกับกฎหมายอะไรบ้าง เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
รอง ผบ.ตร.ระบุอีกว่า ภายหลังจากที่มีข่าวลือว่าได้มีการออกหมายจับ 33 แกนนำไปนั้น ได้สั่งการให้ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ต้องปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมาอยู่ในกรอบของกฎหมาย และสื่อสารกันด้วยความละมุนละม่อม และที่สำคัญที่สุดตำรวจต้องอยู่ร่วมกับประชาชนได้
ด้าน พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการออกหมายจับแกนนำทั้ง 33 รายแล้ว ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เรียกประชุมพนักงานสอบสวนกว่า 20 นาย ที่รับผิดชอบคดีการชุมนุมหน้าโรงพักถลาง โดยได้แบ่งพนักงานสอบสวนออกเป็น 3 ชุด ถามว่าคดีนี้ยากไหมในการสอบสวนดำเนินคดี บอกได้เลยว่าไม่ยาก เพราะได้กำหนดตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะล็อกเป้าหมายไว้แล้ว เพียงแต่ขอรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนเพื่อความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายตามที่รัฐบาล ผบ.ตร.และ ผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 8 ได้สั่งการไว้ ว่าสอบสวนรวบรวบพยานหลักฐานให้ชัดเจนแน่ชัดที่สุด เพื่อความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย และการขอออกหมายจับนั้นจะต้องดูในภาพรวมว่าเมื่อขอออกหมายจับแล้ว สามารถนำสำนวนฟ้องต่อศาลเอาผิดต่อผู้กระทำผิดให้ศาลพิจารณษลงโทษให้ได้ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องไม่เร่งรีบ จะต้องหาพยานหลักฐานให้แน่นหนาที่สุด
“ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานจากพนักงานสอบสวน ว่า มีใครไปขอออกหมายศาลบ้างแล้ว มีพนักงานสอบสวนตั้ง 20 กว่านายที่ทำคดีนี้ บางคนยังไม่ได้หลักฐานที่แน่นหนาก็ต้องไปหามาให้ครบ และไม่ได้กำหนดว่าจะต้องขอออกหมายศาลกี่คน แต่ให้ยืนยันใครกระทำอะไรไว้จะต้องได้รับผลนั้น เราจะไม่กล่าวหาใครโดยไม่ได้กระทำ และยืนยันว่าในวันเกิดเหตุนั้นมีกลุ่มหัวรุนแรงไม่กี่คน”
ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอมให้รถพยาบาลซึ่งมีคนป่วยนอนปั๊มหัวใจอยู่ในรถผ่านไปนั้น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ระบุว่า ในส่วนนี้จะต้องสอบปากคำรวบรวมพยานหลักฐานทั้งตัวบุคลล และวัถตุต่างๆ ว่าสามารถดำเนินการอะไรได้บ้าง เมื่อผู้กระทำผิดรู้อยู่แล้วว่าในรถมีคนป่วยอาการหนักอยู่ และยังทุบรถอีกมีเจตนาอยู่แล้ว เข้าองค์ประกอบใดบ้างที่ดำเนินคดีตามกฎหมายได้ แต่ในเบื้องต้น จะต้องให้ญาติผู้เสียชีวิตมาพบพนักงานสอบสวน สภ.ถลาง