พัทลุง - ครบ 1 เดือนยิง และแอบเผาศพพระสุชาติที่พัทลุงคดีไม่คืบ ล่าสุด ตำรวจพยายามโยงคนสกุลเส้งเอียดพัวพันฆ่า ผู้ต้องสงสัยร้องขอความเป็นธรรมจากสื่อ เผยตนไม่เคยรู้จักกับพระสุชาติด้วยซ้ำ อย่ายัดเยียดความผิดกันเลย
วันนี้ (16 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีคนร้าย 1 คน มี จยย.ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน สวมหมวกนิรภัย ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. กระหน่ำยิง พระสุชาติ สุชาโต หรือนายสุชาติ รักใหม่ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 ม.9 ต.แหลมโตนด อ.ควนขนุน จ.พัทลุง อดีตผู้อำนวยการวิทยาลัยป่าพะยอม อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง อดีตผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคพัทลุง และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง พรรคมหาชน ซึ่งบวชเป็นพระและจำพรรษาที่วัดควนพนางตุง เสียชีวิตคาที่ในขณะออกเดินบิณฑบาต กับพระสำเร็จ ชูทอง อายุ 74 ปี พระลูกวัดควนพนางตุง โดยเหตุเกิดบนถนนสายพนางตุง-ท่าช้าง ท้องที่ ม.3 ต.พนางตุง อ.ควนขนุน เมื่อเวลาประมาณ 07.30 น. วันที่ 16 ก.ย.58 โดยในเบื้องต้น ประเด็นสังหาร ตร.มุ่งไปในความขัดแย้งเรื่องส่วนตัว แต่จนถึงวันนี้คดียังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
และเมื่อเวลา 21.30 น. ของวันที่ 27 ก.ย.58 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทะเลน้อย จ.พัทลุง ได้รับแจ้งว่า มีเหตุเพลิงไหม้หีบศพบริเวณศาลาคู่เมรุวัดควนพะนางตุง จึ่งรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมรถดับเพลิงจากเทศบาลมะกอกเหนือ 1 คัน พบไฟกำลังลุกไหม้หีบศพ พระสุชาติ จนได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่จึงเร่งฉีดน้ำไฟจึงสงบ พบศพภายในถูกไหม้ดำเป็นตอตะโก และบริเวณใกล้หีบศพมีกลิ่นน้ำมันก๊าดคละคลุ้งไปทั่ว เจ้าหน้าที่จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานพัทลุง เข้าไปตรวจสอบในวันรุ่งขึ้น แต่จนถึงวันนี้คดียังไม่มีข้อสรุปเช่นกัน
และสำหรับศพพระสุชาตินั้น ญาติได้พระราชทานเพลิงศพในวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา ท่ามกลางญาติ และลูกศิษย์ที่เดินทางมาร่วมอย่างหนาตา
และเวลาผ่านไปครบ 1 เดือนของคดีฆ่าพระสุชาติ แต่คดียังไม่คืบหน้าแต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถสเกตช์ภาพผู้ต้องสงสัย หรือหาภาพตามกล้องวงจรปิดได้ จนเป็นที่ต้องสงสัยของชาวบ้านว่า ในที่สุดทางตำรวจพัทลุง จะจับแพะมาเป็นผู้รับผิดชอบในคดีนี้เพื่อปิดคดีให้ได้ และก็จริงตามที่ชาวบ้านคาดการณ์ล่าสุด
นายเอียด เส้งเอียด อายุ 63 ปี อดีตขุนโจรชื่อดังพัทลุง ได้นำหลานชาย นายกรวิรัตน์ สุดแป้น หรืออ๊อด อายุ 38 ปี เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้สื่อข่าว หลังตำรวจชุดสืบสวนภาค 9 ได้นำหมายค้นพร้อมนำตัวมาสอบที่โรงพักว่ามีส่วนพัวพันต่อคดีฆ่า พร้อมกับภรรยา และเตรียมที่จะออกหมายเรียกเพิ่ม
โดย นายเอียด กล่าวว่า ตนเชื่อว่า หลานชายไม่มีส่วนพัวพันต่อคดีดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนพยายามจับแพะ โดยเอาคนในสกุลเส้งเอียดมาเกี่ยวโยง ทั้งที่คนในตระสกุลนี้สนิทและเป็นญาติกันกับครอบครัวพระสุชาติ ที่เสียชีวิต จึงเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อดังกล่าว
ด้าน นายกรวิรัตน์ ผู้ต้องสงสัย กล่าวว่า รู้สึกน้อยใจที่ตนต้องมาโยงกับคดีดังกล่าว ทั้งที่ตนก็ไม่มีส่วนรู้เห็น และรู้จักกับ ผอ.สุชาติ แต่อย่างใด ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนเพิ่งพ้นโทษออกมาหลังจากถูกตำรวจจับกุมตัวคดีเชื่อมโยงฆ่านายก อบต.ที่ จ.นครศรีธรรมราช ทั้งที่ตนไม่ได้ทำ แต่ก็ถูกดำเนินคดีเป็นแพะนานเกือบ 2 ปี ต่อสู้คดีจนศาลยกฟ้อง ตนต้องแบกภาระหนี้ที่ต่อสู้คดี และคราวนี้ก็เช่นกัน ตำรวจพัทลุงพยายามโยงกับคดีฆ่าพระสุชาติ แล้วตนต้องกลับมาเป็นแพะรับบาปอีกหรือ ทั้งที่ตนไม่ได้ทำ
ด้าน นางเฟื่องฟ้า จารีพร อายุ 26 ปี ภรรยานายอ๊อด กล่าวว่า ตำรวจชุดสืบสวนภาค 9 ได้นำตัวตนมาสอบสวนนานหลายชั่วโมง เกี่ยวกับคดีฆ่าพระสุชาติ โดยสงสัยว่าตนมีความสัมพันธ์ด้านชู้สาวกับพระสุชาติ ทั้งที่ตนไม่เคยรู้จักพระสุชาติ มาก่อน และยังถามอีกว่าเด็กในท้องเป็นลูกใคร แล้วบอกสามียังว่าท้อง ตนบอกว่าบอกแล้ว เพราะปกติสามีภรรยากันก็ต้องมีลูกกัน ทำไมตำรวจต้องมาสอบสวนแบบดูหมิ่นว่าตนมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับพระสุชาติ ซึ่งทำให้ตนเองอับอาย ทั้งที่ตนไม่เคยรู้จัก
และวันนี้ก็เช่นกัน ทางชุดสืบสวนได้เรียกตน และสามีไปพบที่กองบังคับการ ซึ่งตนก็ไม่กล้าไป เพราะก่อนหน้านี้ ตำรวจเคยเรียกสามีไปพบแล้วก็จับดำเนินคดีฆ่า ทั้งที่เขาไม่ทำจนต้องติดคุก ตนต้องเลี้ยงลูกวัย 11 เดือนเองตามลำพัง อยากถามตำรวจว่าทำไมต้องมาทำลายครอบครัวของเราด้วย และพยายามโยงให้สามี และตนเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว
