ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กลุ่มเอสเอ็มอีร้องสื่อ แบงก์ไม่ปล่อยสินเชื่อช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สวนทางต่อมติ ครม. เรียกร้องนายกรัฐมนตรีช่วยเหลือด่วน เนื่องจากต้องพึ่งเงินกู้นอกระบบ
วันนี้ (14 ต.ค.) นายขจร มุสิกะ เจ้าของกิจการจำหน่ายเสื้อผ้าชื่อดัง “เอ็นดู” ซึ่งมีอยู่ 2 สาขาใน อ.หาดใหญ่ ได้เข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมจากนายกรัฐมนตรี ผ่านทางสื่อมวลชน กรณีที่ ครม.มีมติเห็นชอบให้การช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) โดยให้ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือทางการเงินให้มีสภาพคล่องขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (โพลิซี โลน) โดยให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยปล่อยกู้
ซึ่งตนเองได้ทำการขอสินเชื่อดังกล่าวจากธนาคารดังกล่าวของสาขาหาดใหญ่ โดยฝ่ายสินเชื่อของธนาคาร และเจ้าหน้าที่ “สสว.” สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ได้มาดูธุรกิจของตน และให้เตรียมเอกสารต่างๆ ที่ต้องใช้ รวมทั้งให้ทำตามเงื่อนไขของแบงก์ คือ นำเงินฝาก และปรับปรุงโครงสร้างหนี้บัตรเครดิตทั้งหมด ซึ่งตนเองได้ทำตามทุกอย่างที่แบงก์ต้องการ รวมทั้งได้เขียนแผนธุรกิจ และแผนการเรื่องการตลาดตามที่ศูนย์โอเอสเอสเป็นผู้แนะนำ
โดยเริ่มดำเนินการขอสินเชื่อจากเอสเอ็มอีแบงก์ ตั้งแต่ 17 ก.พ.58 เป็นต้นมา ทำตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำทุกอย่าง จนเมื่อวันที่ 26 ส.ค.58 ทางผู้จัดการแบงก์ได้แจ้งให้มายื่นขอสินเชื่อได้ แต่หลังจากยื่นเรื่องขอสินเชื่อแล้วธนาคารกลับปฏิเสธการให้สินเชื่อโดยไม่แจ้งเหตุผล
ซึ่งการปฏิเสธในการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำโพลิซี โลนครั้งนี้ ตนเห็นว่าเป็นการสวนทางต่อนโยบายของ ครม.ที่ต้องการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอี ซึ่งในข้อของมาตรการปล่อยสินเชื่อของ ครม.มีการระบุไว้ชัดว่า แม้แต่ธุรกิจที่มีประวัติเครดิตบูโร ก็ให้ธนาคารเอสเอ็มอีพิจารณาในการปล่อยสินเชื่อด้วย รวมทั้งธุรกิจที่ปิดกิจการไปแล้วแต่ต้องการฟื้นฟูใหม่ ก็อยู่ในข่ายของการได้รับสินเชื่อดอกเบื้ยต่ำ แต่ธุรกิจของตนเองยังดำเนินการอยู่ เพียงแต่ขาดสภาพคล่อง เอสเอ็มอีแบงก์กลับไม่ยอมพิจารณา และไม่ให้เหตุผลในการไม่ให้สินเชื่อ ทั้งที่ถ้าตนได้รับสินเชื่อที่ขอไปตนจะมีสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ โดยไม่ต้องพึ่งเงินนอกระบบที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงมาก
นายขจร กล่าวว่า มีเจ้าของธุรกิจเอสเอ็มอีเป็นจำนวนมากที่ไม่ได้รับการขอสินเชื่อจากเอสเอ็มอีแบงก์ โดยไม่มีเหตุผลเช่นเดียวกับตนเอง ทั้งที่ ครม.มีมติ ให้ทำการช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอี แต่สุดท้ายแล้วเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อใช้อะไรเป็นดุลพินิจในการพิจารณา จึงข้อร้องขอความเป็นธรรมแทนกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ที่มีปัญหา และไม่สามารถได้สินเชื่อตามมติ ครม.เพื่อให้รัฐบาลได้ทราบข้อเท็จจริง และช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีซึ่งมีปัญหาอยู่ในขณะนี้