กระบี่ - รวบอีกแก๊งโชว์ชะนีให้ถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวเก็บเงินที่เกาะพีพี เหตุรายได้จูงใจช่วงไฮซีซันทำรายได้สูงถึงเดือนละ 1 ล้านบาท ขณะที่ช่วงโลว์รายได้ไม่น้อยแค่เดือนละ 60,000 ถึง 1 แสนบาท ค่าปรับถูก
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (12 ต.ค.) นายสุวัฒน์ สุขศิริ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทุ่งทะเล จ.กระบี่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สาขาย่อยเกาะพีพี ได้ควบคุมตัว 3 ผู้ต้องหา ประกอบด้วย นายชัยรักษ์ นิลสมุทร อายุ 20 ปี นายอนุชา บางทราย อายุ 21ปี ชาวจังหวัดกระบี่ และนายอับดุลวาริส อิมือซา อายุ 21 ปี ชาวจังหวัดปัตตานี พร้อมของกลางชะนีมือขาว เพศเมียอายุ 9 เดือน 1 ตัว ชะนีมือขาว เพศผู้ อายุ 1 ปี 5 เดือน 1 ตัว และชะนีมือขาว เพศเมียอายุ ประมาณ 1 ปี จำนวน 1 ตัว นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
หลังเจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่บริเวณหน้าโรมแรมอันดามันรีสอร์ท อ่าวต้นไทร ม.7 เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ขณะที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน กำลังนำชะนีมาบริการให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป พร้อมแจ้งข้อกล่าวหากระทำผิด พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 19 ฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การรับสารภาพ
นายสุวัฒน์ เปิดเผยว่า ก่อนการจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวว่า มีคนไทย จำนวน 3 คน นำชะนีซึ่งเป็นสัตว์สงวน หรือสัตว์ป่าคุ้มครองมาเร่บริการโชว์และถ่ายรูปเพื่อหารายได้โดยคิดค่าบริการครั้งละ 50-100 บาท ที่บริเวณหน้าโรงแรมดังกล่าว จึงได้ประสานตำรวจ สภ.ย่อยเกาะพีพี นำกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ พบผู้ต้องหาทั้ง 3 คนกำลังโชว์ชะนี และให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปจริง จึงได้แสดงตัวทำการจับกุมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพ ว่า ซื้อชะนี้มาเลี้ยงตั้งแต่เล็กๆ และนำชะนีตระเวนโชว์ตามแหล่งท่องเที่ยวเพื่อหารายได้ โดยให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกับชะนี คิดค่าบริการครั้งละ 50-100 บาท ทั้งนี้ช่วงไฮซีซันที่ผ่านมา มีรายได้จากการโชว์ถ่ายรูปชะนีเฉลี่ยสูงสุดเดือนละกว่า 1 ล้านบาท ส่วนในช่วงโลว์ซีซัน นักท่องเที่ยวน้อยมีรายได้ลดลงเหลือวันละ2,000-3,000 บาท รายได้เฉลี่ยเดือนละ 60,000-100,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งเจ้าพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และนำชะนีทั้ง 3 ตัวส่งศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าที่ จ.พังงาต่อไป
นายสุวัฒน์ เปิดเผยอีกว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการจับกุมผู้ที่กระทำในลักษณะดังกล่าวมาแล้วเมื่อเดือนที่ผ่านมา แต่ยังมีชะนีอีกประมาณ 5 ตัว ที่ยังมีการลักลอบตระเวนโชว์ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปอยู่บนเกาะพีพี และแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ในจังหวัดกระบี่ เนื่องจากมีรายได้สูง ขณะที่บทลงโทษสามารถเปรียบเทียบปรับได้ครั้งละ 1,500-2,000 บาท ทำให้ผู้ประกอบการหันมาประกอบอาชีพดังกล่าวมากขึ้น ซึ่งจะได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (12 ต.ค.) นายสุวัฒน์ สุขศิริ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทุ่งทะเล จ.กระบี่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สาขาย่อยเกาะพีพี ได้ควบคุมตัว 3 ผู้ต้องหา ประกอบด้วย นายชัยรักษ์ นิลสมุทร อายุ 20 ปี นายอนุชา บางทราย อายุ 21ปี ชาวจังหวัดกระบี่ และนายอับดุลวาริส อิมือซา อายุ 21 ปี ชาวจังหวัดปัตตานี พร้อมของกลางชะนีมือขาว เพศเมียอายุ 9 เดือน 1 ตัว ชะนีมือขาว เพศผู้ อายุ 1 ปี 5 เดือน 1 ตัว และชะนีมือขาว เพศเมียอายุ ประมาณ 1 ปี จำนวน 1 ตัว นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
หลังเจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่บริเวณหน้าโรมแรมอันดามันรีสอร์ท อ่าวต้นไทร ม.7 เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ขณะที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน กำลังนำชะนีมาบริการให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป พร้อมแจ้งข้อกล่าวหากระทำผิด พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 19 ฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การรับสารภาพ
นายสุวัฒน์ เปิดเผยว่า ก่อนการจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวว่า มีคนไทย จำนวน 3 คน นำชะนีซึ่งเป็นสัตว์สงวน หรือสัตว์ป่าคุ้มครองมาเร่บริการโชว์และถ่ายรูปเพื่อหารายได้โดยคิดค่าบริการครั้งละ 50-100 บาท ที่บริเวณหน้าโรงแรมดังกล่าว จึงได้ประสานตำรวจ สภ.ย่อยเกาะพีพี นำกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ พบผู้ต้องหาทั้ง 3 คนกำลังโชว์ชะนี และให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปจริง จึงได้แสดงตัวทำการจับกุมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพ ว่า ซื้อชะนี้มาเลี้ยงตั้งแต่เล็กๆ และนำชะนีตระเวนโชว์ตามแหล่งท่องเที่ยวเพื่อหารายได้ โดยให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกับชะนี คิดค่าบริการครั้งละ 50-100 บาท ทั้งนี้ช่วงไฮซีซันที่ผ่านมา มีรายได้จากการโชว์ถ่ายรูปชะนีเฉลี่ยสูงสุดเดือนละกว่า 1 ล้านบาท ส่วนในช่วงโลว์ซีซัน นักท่องเที่ยวน้อยมีรายได้ลดลงเหลือวันละ2,000-3,000 บาท รายได้เฉลี่ยเดือนละ 60,000-100,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งเจ้าพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และนำชะนีทั้ง 3 ตัวส่งศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าที่ จ.พังงาต่อไป
นายสุวัฒน์ เปิดเผยอีกว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการจับกุมผู้ที่กระทำในลักษณะดังกล่าวมาแล้วเมื่อเดือนที่ผ่านมา แต่ยังมีชะนีอีกประมาณ 5 ตัว ที่ยังมีการลักลอบตระเวนโชว์ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปอยู่บนเกาะพีพี และแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ในจังหวัดกระบี่ เนื่องจากมีรายได้สูง ขณะที่บทลงโทษสามารถเปรียบเทียบปรับได้ครั้งละ 1,500-2,000 บาท ทำให้ผู้ประกอบการหันมาประกอบอาชีพดังกล่าวมากขึ้น ซึ่งจะได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป