กระบี่ - เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทุ่งทะเล จ.กระบี่ รวบแก๊งเร่ชะนีมือขาวบริการให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพบนเกาะพีพี ได้ผู้ต้องหา 2 คน พร้อมชะนีเพศผู้ อายุ 2 ปี 1 ตัว อึ้งรายได้มหาศาล เฉลี่ยเดือนละ 2 ล้านบาท
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (29 ส.ค.) นายสุวัฒน์ สุขสิริ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทุ่งทะเล จังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ดนัย นิยมเดชา สารวัตรหัวหน้า สภ.เมืองกระบี่ สาขาย่อยเกาะพีพี พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายบัญชา ส่งไข่ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่45 ม.6 ต..ตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ และนายอนันต์ หน้าดี อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 135/1ม.1 ต.คลองประสงค์ อ.เมือง จ.กระบี่ พร้อมด้วยของกลางชะนีมือขาวเพศผู้ สีดำ อายุ 2 ปีครึ่ง จำนวน 1 ตัว
โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าโรมแรมอันดามันรีสอร์ท อ่าวต้นไทร ม.7 เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ขณะที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน กำลังนำชะนีมาเร่บริการให้นักท่องดเที่ยวถ่ายรูปตามชายหาด พร้อมแจ้งข้อกล่าวหากระทำผิด พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 19 ฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายสุวัฒน์ กล่าวว่า ก่อนการจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวว่า มีคนนำชะนี ซึ่งเป็นสัตว์สงวน หรือสัตว์ป่าคุ้มครองมาเร่บริการโชว์ และถ่ายรูปเพื่อหารายได้โดยคิดค่าบริการครั้งละ 50-100 บาท ตามชายหาดอ่าวต้นไทร เกาะพีพี จึงได้ประสานตำรวจ สภ.ย่อยเกาะพีพี นำกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ พบผู้ต้องหาทั้ง 2 คน กำลังโชว์ชะนีตัวดังกล่าว และให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปอยู่พอดี จึงได้ทำการจับกุมตัวพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
เบื้องต้น นายอนันต์ หนึ่งในผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่า ได้ซื้อชะนีตัวดังกล่าวมาตั้งแต่อายุประมาณ 1 เดือน จากจังหวัดระนอง ในราคา 35,000 บาท จากนั้นได้นำมาเลี้ยงจนโต ก่อนนำมาตระเวนเร่โชว์ตามแหล่งท่องเที่ยว และให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกับชะนี โดยคิดค่าบริการครั้งละ 50-100 บาท โดยช่วงไฮซีซันที่ผ่านมา มีรายได้จากการโชว์ถ่ายรูปชะนีเฉลี่ยสูงสุดเดือนละประมาณ 2 ล้านบาท ส่วนในช่วงโลว์ซีซันมีรายได้ลดลง เฉลี่ยเดือนละ 60,000-100,000 บาทต่อเดือน
นายสุวัฒน์ เปิดเผยอีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหารายนี้ทราบว่า ยังมีชะนีอีกประมาณ 7 ตัว ที่ยังลักลอบตระเวนเร่โชว์ และให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปบนเกาะพีพี และแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ในจังหวัดกระบี่ ซึ่งจะเร่งติดตามจับกุมโดยเร็ว ส่วนชะนีตัวดังกล่าวนี้ก็จะนำไปปล่อยไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยง จ.พังงา ต่อไป
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (29 ส.ค.) นายสุวัฒน์ สุขสิริ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทุ่งทะเล จังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ดนัย นิยมเดชา สารวัตรหัวหน้า สภ.เมืองกระบี่ สาขาย่อยเกาะพีพี พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายบัญชา ส่งไข่ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่45 ม.6 ต..ตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ และนายอนันต์ หน้าดี อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 135/1ม.1 ต.คลองประสงค์ อ.เมือง จ.กระบี่ พร้อมด้วยของกลางชะนีมือขาวเพศผู้ สีดำ อายุ 2 ปีครึ่ง จำนวน 1 ตัว
โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าโรมแรมอันดามันรีสอร์ท อ่าวต้นไทร ม.7 เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ขณะที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน กำลังนำชะนีมาเร่บริการให้นักท่องดเที่ยวถ่ายรูปตามชายหาด พร้อมแจ้งข้อกล่าวหากระทำผิด พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 19 ฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายสุวัฒน์ กล่าวว่า ก่อนการจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวว่า มีคนนำชะนี ซึ่งเป็นสัตว์สงวน หรือสัตว์ป่าคุ้มครองมาเร่บริการโชว์ และถ่ายรูปเพื่อหารายได้โดยคิดค่าบริการครั้งละ 50-100 บาท ตามชายหาดอ่าวต้นไทร เกาะพีพี จึงได้ประสานตำรวจ สภ.ย่อยเกาะพีพี นำกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ พบผู้ต้องหาทั้ง 2 คน กำลังโชว์ชะนีตัวดังกล่าว และให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปอยู่พอดี จึงได้ทำการจับกุมตัวพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
เบื้องต้น นายอนันต์ หนึ่งในผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่า ได้ซื้อชะนีตัวดังกล่าวมาตั้งแต่อายุประมาณ 1 เดือน จากจังหวัดระนอง ในราคา 35,000 บาท จากนั้นได้นำมาเลี้ยงจนโต ก่อนนำมาตระเวนเร่โชว์ตามแหล่งท่องเที่ยว และให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกับชะนี โดยคิดค่าบริการครั้งละ 50-100 บาท โดยช่วงไฮซีซันที่ผ่านมา มีรายได้จากการโชว์ถ่ายรูปชะนีเฉลี่ยสูงสุดเดือนละประมาณ 2 ล้านบาท ส่วนในช่วงโลว์ซีซันมีรายได้ลดลง เฉลี่ยเดือนละ 60,000-100,000 บาทต่อเดือน
นายสุวัฒน์ เปิดเผยอีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหารายนี้ทราบว่า ยังมีชะนีอีกประมาณ 7 ตัว ที่ยังลักลอบตระเวนเร่โชว์ และให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปบนเกาะพีพี และแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ในจังหวัดกระบี่ ซึ่งจะเร่งติดตามจับกุมโดยเร็ว ส่วนชะนีตัวดังกล่าวนี้ก็จะนำไปปล่อยไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยง จ.พังงา ต่อไป
