ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า ตามจับหญิงชาวโรฮีนจาที่หลบหนีออกจากบ้านพักเด็กและครอบครัวพังงาได้แล้วทั้ง 14 คน พร้อมนำผู้หญิง จำนวน 12 คน ฝากขังที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง หวั่นหลบหนีอีก
วันนี้ (5 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีชาวโรฮีนจา ทั้งเด็ก และผู้หญิง จำนวน 14 คน หลบหนีออกจากจากบ้านพักเด็กและครอบครัว ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เข้าไปหลบซ่อนอยู่ในป่าละเมาะห่างจากที่เกิดเหตุ จนทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตะกั่วป่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาหลัก และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว สามารถควบคุมตัวไว้ได้ จำนวน 9 คน
ล่าสุด ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ (5 ต.ค.) ทางนายมานิต เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่า พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า เจ้าหน้าที่ สภ.เขาหลัก และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว ได้นำกำลังกว่า 30 คน กระจายค้นหาบริเวณรอบๆ ในป่าละเมาะหลังจากมีคนพบเห็นว่า มีกลุ่มว่าชาวโรฮีนจาที่เหลืออีก 5 คน ได้หลบหนีอยู่ในป่าติดกับภูเขา ซึ่งเป็นป่ารกทึบ จึงได้นำกำลังเข้าจับกุม และนำตัวกลับมาที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงา เพื่อทำการสอบสวนหาสาเหตุของการหลบหนีในครั้งนี้ พร้อมทั้งนำตัวชาวโรฮีนจาา จำนวน 12 คน ไปฝากขังที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพังงา ส่วนเด็กอีก 2 คนที่มีอายุระหว่าง 5 ขวบ และ 7 ขวบ จะอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัว
ด้าน นายอนันต์ ดนตรี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพังงา กล่าวว่า หลังจากที่มีเหตุชาวโรฮีนจา จำนวน 14 คน หนีออกจากบ้านพักเด็กและครัวจังหวัดพังงา ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาหลัก และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว ได้ออกตามหาตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา จนสามารถจับกุมชาวโรฮีนจาเมื่อกลางดึก ห่างจากบ้านพักประมาณ 800 เมตร จำนวน 9 คน ขณะชาวโรฮีนจารอขึ้นรถ และขณะนี้สามารถจับกุมชาวโรฮีนจาาส่วนที่เหลือได้อีก 5 คน บริเวณป่าละเมาะ หมู่ที่ 3 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า พร้อมทั้งนำกลับมาที่บ้านพักเด็กฯ ซึ่งได้นำตัวชาวโรฮีนจา จำนวน 12 คน ไปส่งไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพังงา เพื่อดูแล เนื่องจากเป็นสถานที่ควบคุมตัวที่มีความมั่นคง แข็งแรง และมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด
ส่วนเด็กอีก 2 คน ที่มีอายุระหว่าง 5 ขวบ และ 7 ขวบ จะอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัวต่อไป เพื่อป้องกันการหลบหนี ขณะนี้พบปัญหาบ้านพักเด็กเป็นพื้นที่เปิด และมีเจ้าหน้าที่เป็นผู้หญิง ต่อจากนี้ต้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองมาช่วยดูแลในช่วงเวลากลางคืน และต้องเพิ่มมาตรการบุคคลภายนอกที่เข้ามาบ้านพักเด็กฯ ที่อาจจะมาติดต่อมารับชาวโรฮีนจา คาดว่าเหตุที่เกิดขึ้นน่าจะมีกลุ่มนายหน้ามารับเพื่อจะไปประเทศที่ 3 ซึ่งชาวโรฮีนจาต้องการหลบหนีไป และทำให้นายหน้ามาหาช่องทางมาพากลุ่มชาวโรฮีนจาออกไปอย่างแน่นอน
วันนี้ (5 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีชาวโรฮีนจา ทั้งเด็ก และผู้หญิง จำนวน 14 คน หลบหนีออกจากจากบ้านพักเด็กและครอบครัว ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เข้าไปหลบซ่อนอยู่ในป่าละเมาะห่างจากที่เกิดเหตุ จนทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตะกั่วป่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาหลัก และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว สามารถควบคุมตัวไว้ได้ จำนวน 9 คน
ล่าสุด ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ (5 ต.ค.) ทางนายมานิต เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่า พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า เจ้าหน้าที่ สภ.เขาหลัก และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว ได้นำกำลังกว่า 30 คน กระจายค้นหาบริเวณรอบๆ ในป่าละเมาะหลังจากมีคนพบเห็นว่า มีกลุ่มว่าชาวโรฮีนจาที่เหลืออีก 5 คน ได้หลบหนีอยู่ในป่าติดกับภูเขา ซึ่งเป็นป่ารกทึบ จึงได้นำกำลังเข้าจับกุม และนำตัวกลับมาที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงา เพื่อทำการสอบสวนหาสาเหตุของการหลบหนีในครั้งนี้ พร้อมทั้งนำตัวชาวโรฮีนจาา จำนวน 12 คน ไปฝากขังที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพังงา ส่วนเด็กอีก 2 คนที่มีอายุระหว่าง 5 ขวบ และ 7 ขวบ จะอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัว
ด้าน นายอนันต์ ดนตรี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพังงา กล่าวว่า หลังจากที่มีเหตุชาวโรฮีนจา จำนวน 14 คน หนีออกจากบ้านพักเด็กและครัวจังหวัดพังงา ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาหลัก และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว ได้ออกตามหาตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา จนสามารถจับกุมชาวโรฮีนจาเมื่อกลางดึก ห่างจากบ้านพักประมาณ 800 เมตร จำนวน 9 คน ขณะชาวโรฮีนจารอขึ้นรถ และขณะนี้สามารถจับกุมชาวโรฮีนจาาส่วนที่เหลือได้อีก 5 คน บริเวณป่าละเมาะ หมู่ที่ 3 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า พร้อมทั้งนำกลับมาที่บ้านพักเด็กฯ ซึ่งได้นำตัวชาวโรฮีนจา จำนวน 12 คน ไปส่งไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพังงา เพื่อดูแล เนื่องจากเป็นสถานที่ควบคุมตัวที่มีความมั่นคง แข็งแรง และมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด
ส่วนเด็กอีก 2 คน ที่มีอายุระหว่าง 5 ขวบ และ 7 ขวบ จะอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัวต่อไป เพื่อป้องกันการหลบหนี ขณะนี้พบปัญหาบ้านพักเด็กเป็นพื้นที่เปิด และมีเจ้าหน้าที่เป็นผู้หญิง ต่อจากนี้ต้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองมาช่วยดูแลในช่วงเวลากลางคืน และต้องเพิ่มมาตรการบุคคลภายนอกที่เข้ามาบ้านพักเด็กฯ ที่อาจจะมาติดต่อมารับชาวโรฮีนจา คาดว่าเหตุที่เกิดขึ้นน่าจะมีกลุ่มนายหน้ามารับเพื่อจะไปประเทศที่ 3 ซึ่งชาวโรฮีนจาต้องการหลบหนีไป และทำให้นายหน้ามาหาช่องทางมาพากลุ่มชาวโรฮีนจาออกไปอย่างแน่นอน