พังงา - ชาวโรฮีนจาผู้หญิง และเด็ก 14 คน แหกลูกกรงห้องนอนชั้น 3 ก่อนใช้ผ้าห่มมัดต่อเป็นเชือกโรยตัวหลบหนีจากบ้านพักเด็กและครอบครัวพังงา เจ้าหน้าที่คาดมีกลุ่มนายหน้ามารอรับ
เมื่อเวลา 00.30 น. วันนี้ (5 ต.ค.) ร.ต.อ.ศิรณัฎฐ์ สาริพัฒน์ รอง สวป.สภ.เขาหลัก ร้อยเวร 20 ได้รับแจ้งจากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงา ว่า มีเหตุชาวโรฮีนจา เด็ก และผู้หญิง จำนวน 14 คน ได้ก่อเหตุหลบหนีออกจากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงา ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา โดยการแหกลูกกรงห้องนอนชั้น 2 ของอาคาร ความสูงประมาณ 3 เมตร ก่อนใช้ผ้าห่มมัดต่อเป็นเชือกโรยตัวลงมาด้านล่าง และหลบหนีออกไปทางกำแพงด้านข้าง
ขณะที่มีรถตู้สีบรอนซ์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มาจอดรอรับอยู่บนถนนเพชรเกษม สายตะกั่วป่า-เขาหลัก และได้มีกลุ่มชาวโรฮีนจาที่หนีออกมาได้รีบวิ่งขึ้นรถ และมีชาวโรฮีนจาอีกส่วนหนึ่งได้วิ่งหลบหนีเข้าไปหลบซ่อนอยู่ในป่าละเมาะห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 800 เมตร
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาหลัก พร้อมด้วยชุดฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว พบว่า มีชาวโรฮีนจา จำนวน 14 คน เป็นเด็กชายอายุ 5 ขวบ 1 คน เด็กหญิงอายุ 7 ขวบ 1 คน และผู้หญิง อายุ 13-32 ปี จำนวน 12 คน ที่หลบหนี จึงได้นำกำลังกระจายค้นหาบริเวณรอบๆ ในป่าละเมาะ พบว่ามีชาวโรฮีนจาเป็นผู้หญิง จำนวน 9 คน ที่หลบซ่อนตัวรอนายหน้ามารับ จึงได้ควบคุมตัวกลับมาที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงา
ส่วนที่เหลืออีก 5 คน ได้หลบหนีไปได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า กำลังเร่งติดตาม และตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดตามถนนจุดต่างๆ เพื่อตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถที่มารับกลุ่มชาวโรฮีนจาหลบหนีอีกครั้ง
ด้าน ร.ต.อ.ศิรณัฎฐ์ สาริพัฒน์ รอง สวป.สภ.เขาหลัก ร้อยเวร 20 กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้ออกตรวจในพื้นที่เขาหลัก และได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงา ว่า มีกลุ่มชาวโรฮีนจาที่เป็นเด็กชายอายุ 5 ขวบ 1 คน เด็กหญิงอายุ 7 ขวบ 1 คน และผู้หญิง อายุ 13-32 ปี จำนวน 12 คน ที่หลบหนี ทั้งหมด 14 คน
จึงรีบมาตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่ามีกลุ่มชาวโรฮีนจาเป็นผู้หญิง จำนวน 9 คน ได้หลบซ่อนตัวอยู่ในป่าละเมาะใกล้กับบ้านพักเด็กฯ จึงได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวทั้งหมดขึ้นรถ ก่อนที่จะให้กำลังอีกส่วนหนึ่งช่วยออกติดตามค้นหาตามชายหาด และป่าละเมาะที่คาดว่ากลุ่มโรฮีนจาที่เหลือจะหลบซ่อน พร้อมจะประสานทางเทศบาลตำบลคึกคัก เพื่อตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดที่มีรถตู้มาจอดรอรับบนถนนเพชรเกษม เพื่อตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถต่อไป