พังงา - มือปืนโหดบุกยิงอดีตผู้ใหญ่บ้านชื่อดัง และเป็นพ่อค้าขายน้ำกะทิสด ในตลาดสดบางเนียง ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เสียชีวิตกลางตลาด ตำรวจคาดขัดแย้งเรื่องธุรกิจส่วนตัว
เมื่อเวลา 05.00 น.วันนี้ (5 ต.ค.) พ.ต.ท.ธงชัย มติธรรม พนักงานสอบสวน สภ.เขาหลัก จ.พังงา ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายกระหน่ำยิงพ่อค้าขายน้ำกะทิสดเสียชีวิต บริเวณร้านเกาลี-กะทิสด เป็นแผงขายน้ำกะทิสด ตลาดบางเนียง ม.3 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.บัณฑิต หัตถพิถีพันธุ์ สวป.สภ.เขาหลัก ร.ต.อ.ศิรณัฎฐ์ สาริพัฒน์ รอง สวป.สภ.เขาหลัก ร้อยเวร 20 พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.เขาหลัก เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างคึกคัก เจ้าหน้าที่กู้ภัยปากวีป เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบ นายวโรจน์ โฮ่สกุล อายุ 68 ปี ผู้ใหญ่ตี่ อดีตผู้ใหญ่บ้าน ม.7 บ้านบางสัก ต.บางม่วง อยู่บ้านเลขที่1ม.7 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา
สภาพศพนอนเสียชีวิตคากองเลือด ถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอก และลำตัว จำนวน 5 รู หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบส่วนเบื้องต้น และวิทยุให้ สภ.ใกล้เคียง ช่วยสกัดจับรถต้องสงสัยกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์เงินไม่ทราบหมายเลขทะเบียน หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปทางอำเภอตะกั่วป่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาหลัก กำลังตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดตามจุดที่รถขับผ่านเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี
ทาง นางขวัญตา โสภาคย์ เจ้าของร้านของชำจี้ขวัญ ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ตนกำลังจัดร้านของชำอยู่เยื้องกับร้านขายน้ำกะทิประมาณ 10 เมตร ก่อนจะได้ยินเสียงปืน ด้วยความตกใจตนจึงก้มหลบในร้าน เมื่อสิ้นเสียงปืนจึงลุกขึ้นมาเห็นรถกระบะคล้ายยี่ห้ออีซูซุ ขับออกไปไม่เห็นผู้ที่นั่งอยู่ในรถ ไม่เห็นป้ายทะเบียน ไม่ได้ยินเสียงปิดประตูรถ ซึ่งผู้ใหญ่ตี่ได้มาขายน้ำกะทิอยู่แผงเยื้องกับตนเองที่ตลาดสดบางเนียงเป็นเวลาเกือบ 10 ปี แล้วมีความสนิทสมกันมากนับถือกันเหมือนญาติผู้ใหญ่ยังไม่เคยพบเห็นมีปัญหากับใคร จนกระทั่งได้ยินเสียงปืน และพบเห็นผู้ใหญ่ตี่ล้มลงจึงโทร.ไปแจ้งตำรวจ
จากการสืบสวนเบื้องต้น พบเศษกระสุนปืนลักษณะแตกครึ่งซีกแต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นของปืนอะไร พบรูกลมขนาด 5 มม.ที่ขวดน้ำปลาข วดน้ำมัน และผ้ากันเปื้อนในร้านของชำประกอบกับคำบอกเล่า และจุดที่พบผู้เสียชีวิตทำให้ทราบได้ว่า คนร้ายที่ขับรถกระบะมาได้จอดรถที่ด้านนอกของอาคาร และกระหน่ำยิ่งใส่ผู้เสียชีวิต เมื่อตรวจสอบวิถีกระสุนพบอีกว่าจุดที่จอดรถ และจุดที่พบผู้เสียชีวิตอยู่ห่างกันมาก อีกทั้งยังพบรอยกระสุนถากที่ใต้คาง และที่หน้าอกของผู้เสียชีวิตมีรอยกระสุนถึง 5 รู จึงทำให้คาดได้ว่าคนร้ายต้องมี 2 คนเป็นอย่างน้อย มือปืนต้องมีความถนัดในการใช้ปืนเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถยิงได้เกาะกลุ่มด้วยระยะที่ไกล โดยขณะนี้ได้วิทยุให้พื้นที่ใกล้เคียงสกัดรถต้องสงสัยเอาไว้แล้ว และจะทำการตรวจหารถต้องสงสัยจากกล้องวงจรปิดอีกครั้งเพื่อตามจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว
เมื่อเวลา 05.00 น.วันนี้ (5 ต.ค.) พ.ต.ท.ธงชัย มติธรรม พนักงานสอบสวน สภ.เขาหลัก จ.พังงา ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายกระหน่ำยิงพ่อค้าขายน้ำกะทิสดเสียชีวิต บริเวณร้านเกาลี-กะทิสด เป็นแผงขายน้ำกะทิสด ตลาดบางเนียง ม.3 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.บัณฑิต หัตถพิถีพันธุ์ สวป.สภ.เขาหลัก ร.ต.อ.ศิรณัฎฐ์ สาริพัฒน์ รอง สวป.สภ.เขาหลัก ร้อยเวร 20 พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.เขาหลัก เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างคึกคัก เจ้าหน้าที่กู้ภัยปากวีป เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบ นายวโรจน์ โฮ่สกุล อายุ 68 ปี ผู้ใหญ่ตี่ อดีตผู้ใหญ่บ้าน ม.7 บ้านบางสัก ต.บางม่วง อยู่บ้านเลขที่1ม.7 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา
สภาพศพนอนเสียชีวิตคากองเลือด ถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอก และลำตัว จำนวน 5 รู หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบส่วนเบื้องต้น และวิทยุให้ สภ.ใกล้เคียง ช่วยสกัดจับรถต้องสงสัยกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์เงินไม่ทราบหมายเลขทะเบียน หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปทางอำเภอตะกั่วป่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาหลัก กำลังตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดตามจุดที่รถขับผ่านเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี
ทาง นางขวัญตา โสภาคย์ เจ้าของร้านของชำจี้ขวัญ ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ตนกำลังจัดร้านของชำอยู่เยื้องกับร้านขายน้ำกะทิประมาณ 10 เมตร ก่อนจะได้ยินเสียงปืน ด้วยความตกใจตนจึงก้มหลบในร้าน เมื่อสิ้นเสียงปืนจึงลุกขึ้นมาเห็นรถกระบะคล้ายยี่ห้ออีซูซุ ขับออกไปไม่เห็นผู้ที่นั่งอยู่ในรถ ไม่เห็นป้ายทะเบียน ไม่ได้ยินเสียงปิดประตูรถ ซึ่งผู้ใหญ่ตี่ได้มาขายน้ำกะทิอยู่แผงเยื้องกับตนเองที่ตลาดสดบางเนียงเป็นเวลาเกือบ 10 ปี แล้วมีความสนิทสมกันมากนับถือกันเหมือนญาติผู้ใหญ่ยังไม่เคยพบเห็นมีปัญหากับใคร จนกระทั่งได้ยินเสียงปืน และพบเห็นผู้ใหญ่ตี่ล้มลงจึงโทร.ไปแจ้งตำรวจ
จากการสืบสวนเบื้องต้น พบเศษกระสุนปืนลักษณะแตกครึ่งซีกแต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นของปืนอะไร พบรูกลมขนาด 5 มม.ที่ขวดน้ำปลาข วดน้ำมัน และผ้ากันเปื้อนในร้านของชำประกอบกับคำบอกเล่า และจุดที่พบผู้เสียชีวิตทำให้ทราบได้ว่า คนร้ายที่ขับรถกระบะมาได้จอดรถที่ด้านนอกของอาคาร และกระหน่ำยิ่งใส่ผู้เสียชีวิต เมื่อตรวจสอบวิถีกระสุนพบอีกว่าจุดที่จอดรถ และจุดที่พบผู้เสียชีวิตอยู่ห่างกันมาก อีกทั้งยังพบรอยกระสุนถากที่ใต้คาง และที่หน้าอกของผู้เสียชีวิตมีรอยกระสุนถึง 5 รู จึงทำให้คาดได้ว่าคนร้ายต้องมี 2 คนเป็นอย่างน้อย มือปืนต้องมีความถนัดในการใช้ปืนเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถยิงได้เกาะกลุ่มด้วยระยะที่ไกล โดยขณะนี้ได้วิทยุให้พื้นที่ใกล้เคียงสกัดรถต้องสงสัยเอาไว้แล้ว และจะทำการตรวจหารถต้องสงสัยจากกล้องวงจรปิดอีกครั้งเพื่อตามจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว