ชุมพร - โลมาเพศผู้อายุ 30 ปี ยาวกว่า 2 เมตร หนัก 100 กก. เกยตื้นที่อ่าวท้องครก พบตามตัวมีรอยคล้ายถูกเชือกรัด เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือปล่อยทะเลลึกได้ทัน
เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 1 ต.ค. 58 สัตวแพทย์หญิงวัชรา ศากรวิมล สัตวแพทย์ปฏิบัติการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.ชุมพร ได้รับแจ้งจาก นายภิรมย์ สุทธิรักษ์ อายุ 50 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 ตำบลบางน้ำจืด อ.หลังสวน จ.ชุมพร ว่ามีโลมายังมีชีวิตอยู่เข้ามาเกยตื้นอยู่ริมชายหาดในพื้นที่รับผิดชอบ จึงรุดให้การช่วยเหลือ
จุดที่พบอยู่บริเวณอ่าวท้องครก หมู่ที่ 13 ตำบลบางน้ำจืด อ.หลังสวน จ.ชุมพร ห่างจากชายหาดประมาณ 100 เมตร พบชาวบ้านจำนวนมากกำลังมุงดูโลมาที่กำลังอ่อนแรงเกยตื้นในร่องน้ำของอ่าวดังกล่าว เจ้าหน้าที่ และชาวบ้านจึงช่วยกันนำเปลผ้าใบไปใส่โลมาแล้วหามไปที่น้ำลึกประมาณเหนือหัวเข่า เพื่อให้โลมาหายใจได้สะดวกจึงทำการเก็บตัวอย่างเลือดพร้อมให้การรักษาพยาบาลเบื้องต้น
สัตวแพทย์หญิงวัชรา ศากรวิมล กล่าวว่า เป็นโลมาปากขวด เพศผู้ ดูจากฟันแล้วคาดว่าอายุประมาณ 20-30 ปี ความยาวกว่า 2 เมตร หนักประมาณ 100 กิโลกรัม ตรวจตามลำตัวเบื้องต้นพบมีบาดแผลเล็กน้อยคล้ายถูกเชือกรัด ที่ปลายปากมีรอยแผลเก่า ให้ยาปฏิชีวนะ และวิตามินบำรุง ส่วนสาเหตุคาดว่าโลมาน่าจะหลงทิศเลยมาเกยตื้นที่ชายหาด นับว่าโชคดีที่มีชาวบ้านเห็นก่อนจะมืดค่ำ เบื้องต้น จากการประเมินแล้วอาการของโลมาเริ่มดีขึ้นมากจึงเชื่อว่าโลมาน่าจะสามารถว่ายน้ำออกสู่ทะเลได้ จึงนำโลมาขึ้นเรือประมงพื้นบ้านไปปล่อยที่ทะเลลึกต่อไป
ด้าน นายภิรมย์ สุทธิรักษ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 13 ตำบลบางน้ำจืด กล่าวว่า ขณะที่กำลังนั่งเล่นอยู่ที่ชายทะเลเห็นโลมาตัวดังกล่าวกำลังเล่นน้ำ และจู่ๆ พุ่งเข้ามาที่เนินร่องน้ำแล้วก็นิ่งไป จึงเดินออกมาดูก็พบโลมาตัวดังกล่าวเกยตื้น และอ่อนแรง จึงแจ้งให้ นายอำพล ธานีครุฑ ผู้ใหญ่บ้านทราบ และแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ สำหรับอ่าวท้องครกซึ่งอยู่ติดกับเกาะพิทักษ์ ซึ่งเป็นเกาะท่องเที่ยวโฮมสเตย์ชื่อดังของจังหวัด มีโลมาสีชมพู โลมาปากขวด มาหากินอยู่บริเวณดังกล่าวกว่า 20 ตัว เนื่องจากในพื้นที่มีทะเลที่อุดมสมบูรณ์ ประกอบกับชาวบ้านช่วยกันดูแลไม่ให้ใครมาทำร้ายโลมาจึงทำให้โลมาหลายชนิดมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
