คนหลังสวนจับมือต้อนช้างป่ากลับถิ่น หลังทำลายพืชสวนชาวบ้านนานนับปี

ชุมพร - นายอำเภอหลังสวน จ.ชุมพร ระดมเจ้าหน้าที่ ชาวบ้านนับร้อย ต้อนช้างป่ากว่า 10 ตัว กลับเขตอุทยานแห่งชาติ หลังบุกลงมากัดกินทำลายพืชสวนชาวบ้านนานนับปี

วันนี้ (22 พ.ค.) ที่ศาลาหมู่บ้านปากแดง หมู่ 12 ตำบลวังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร นายชุมพล สุกใส นายอำเภอหลังสวน นายบรรชา ขาวศิริ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชพ.5 นายโสพล เครือสาย หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าคลองจาก พร้อมเจ้าหน้าที่สวนป่าหลังสวน กำลัง อส. และชาวบ้านเกือบร้อยคน ร่วมประชุมวางแผนการขับไล่โขลงช้างป่ากว่า 10 ตัว ที่ลงจากเขาเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว มาหากินทำลายพืชผลการเกษตรของชาวบ้านได้รับความเสียหายจำนวนมาก ชาวบ้านหลายรายไม่กล้าออกไปกรีดยางในยามค่ำคืน กลัวเจอช้าง และอาจจะถูกทำร้าย จนขาดรายได้ต้องเดือดร้อนมาอย่างต่อเนื่องนับปี จนจะกลายเป็นปัญหาความรุนแรงกันระหว่างคนกับช้างในที่สุด

นายชุมพล สุกใส นายอำเภอหลังสวน กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้แต่เฝ้าระวังเท่านั้น ยังไม่สามารถแก้ปัญหาให้แก่ชาวบ้านได้ เนื่องจากมีขีดจำกัดเรื่องงบประมาณ กำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานเกี่ยวข้องมีอยู่เพียงไม่กี่คน แต่ครั้งนี้มีกำลัง อส. และชาวบ้านจำนวนมากมาร่วมมือกันผลักดันให้ช้างกลับเข้าสู่ป่าธรรมชาติ ซึ่งโขลงช้างป่ากว่า 10 ตัว ลงมากิน และทำลายพืชสวนชาวบ้านในหมู่ที่ 9 และ หมู่ที่ 13 ตำบลวังตะกอ ที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ทำความเข้าใจต่อชาวบ้านมาตลอดเวลา พร้อมกับดำเนินการสำรวจชดเชยค่าเสียหายให้ตามระเบียบของราชการ พร้อมกับกำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวของ และชาวบ้านห้ามใช้อาวุธ หรือทำร้ายช้างอย่างเด็ดขาด

ขณะที่สัตวแพทย์หญิงกนกวรรณ ตรุยานนท์ นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การต้อนโขลงช้างเข้าป่าจะต้องมีความระมัดระวังสูง ต้องประเมินความเครียดของช้างตลอดเวลา และจะต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปอย่างต่อเนื่อง โดยแยกเป็น 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายนำทาง ฝ่ายขับไล่ และฝ่ายสนับสนุน กำลังทุกฝ่ายต้องทำงานประสานกันอย่างต่อเนื่อง และมืดที่ไหนก็จะต้องนอนที่นั่น คาดว่าประมาณ 1 สัปดาห์ จะสามารถขับไล่กลับเข้าสู่เขตอุทยานน้ำตกหงาว ซึ่งมีพื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์นับแสนไร่ได้ในที่สุด