นราธิวาส - สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส พระราชทานรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดผลิตผลทางการเกษตร และพระราชทานถ้วยรางวัลแก่เจ้าของนกเขาที่ชนะการแข่งขัน พร้อมทอดพระเนตรนิทรรศการงานวันลองกอง ในงานของดีเมืองนรา ประจำปี 2558
วันนี้ (21 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง ถึงบริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ ๖ รอบพระชนมพรรษา อำเภอเมืองนราธิวาส เพื่อพระราชทานรางวัลให้แก่ผู้ชนะการประกวดผลผลิต และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ผู้ชนะการประกวดผลิตภัณฑ์ ศิลปาชีพและกระจูด และเจ้าของนกเขาที่ชนะการประชันเสียงนกเขาชวา ชิงถ้วยพระราชทาน และทรงปลูกต้นตะเคียนชันตาแมว 1 ต้น และต้นลองกอง 1 ต้น และเสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการงานวันลองกอง ในงานของดีเมืองนรา ครั้งที่ 40 ซึ่งมีซุ้มนิทรรศการจากหน่วยงานราชการร่วมจัดซุ้มทั้งหมด 29 ซุ้ม โดยในปีนี้มีการจัดนิทรรศการภายใต้หัวข้อ “๑๐๐ ปี ร้อยดวงใจชาวนรา เทิดไท้ ๖๐ พรรษา เจ้าฟ้ามหาจักรี”
สำหรับการประกวดผลผลิตและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร มีผู้เข้ารับพระราชทานรางวัล 70 ราย ส่วนการประกวดผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพและกระจูด ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ใบลาน ใบปาหนัน ย่านลิเภา และการสานเสื่อกระจูด มีผู้เข้ารับพระราชทานรางวัล 7 ราย สำหรับการประชันเสียงนกเขาชวา ประกอบด้วย เสียงใหญ่ เสียงกลาง เสียงเล็ก และดาวรุ่ง มีผู้เข้ารับพระราชทานรางวัล 10 ราย
จากนั้น เวลา 11.30 น. เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งไปยังจวนผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะกรรมการการจัดงาน ๒ เมษารวมใจน้อมเกล้าฯ ประจำปี 2558 เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินรายได้จากการจัด “งาน ๒ เมษารวมใจน้อมเกล้าฯ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ” จำนวน 400,000 บาท จากนั้นพระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาอาชีวศึกษาใต้ 14 จังหวัด เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน 150,000 บาท โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย
จากนั้น พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะเทศบาลเมืองนราธิวาส เข้าเฝ้าฯทูลเกล้าฯ ถวายเงินเพื่อทรงใช้สอยตามพระราชอัธยาศัย จำนวน 200,000 บาท จากนั้นพระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะชมรมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าเฝ้าทูลเกล้าฯ ถวายเงิน 200,000 บาท เพื่อทรงใช้ตามอัธยาศัย
จากนั้น ในเวลา 13.10 น. เสด็จโดยรถยนต์พระที่นั่งไปยังอาคารเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระราชทานพระราชวโรกาสให้ผู้มีจิตศรัทธาทูลเกล้าฯ ถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย จำนวน 9 ราย และพระราชทานพระราชวโรกาสให้เข้ารับพระราชทานเข็มที่ระลึก จำนวน 50 ราย จากนั้นเสด็จไปยังแท่นทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้ายอาคารเฉลิมพระเกียรติ จากนั้นเสด็จทรงปลูกต้นพิกุล
สำหรับอาคารเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ตั้งอยู่ศูนย์ราชการใหม่ ก่อสร้างในปี พ.ศ.2553 และดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2557 โดยมีชื่อเดิมว่าหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชครินทร์ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กขนาด 3 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 11,489 ตารางเมตร สามารถจุคนได้ประมาณ 3,000 คน เป็นอาคารรูปทรงสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นภาคใต้ศิลปะมาลายู และผสมผสานกลมกลืนกับการออกแบบอาคารสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ใช้เป็นสถานที่จัดพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ และประกอบกิจกรรมที่สำคัญของมหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
จากนั้น เวลา 13.15 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเข้าภายในอาคารเฉลิมพระเกียรติ เพื่อพระราชทานปริญญาบัตรให้แก่ผู้ที่สำเร็จการศึกษา ประจำปี 2557 เป็นระดับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ 2 ราย และระดับปริญญาบัณฑิตแก่ผู้สำเร็จการศึกษาบัณฑิตคณะแพทยศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์ และสถาบันอิสลามและอาหรับศึกษา จำนวน 398 ราย
สำหรับมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ จัดการเรียนสอนทั้งหมด 47 หลักสูตร จำแนกเป็นหลักสูตรต่ำกว่าปริญญาตรี 24 หลักสูตร หลักสูตรปริญญาตรี 23 หลักสูตร มีนักศึกษา จำนวน 4,516 คน คณาจารย์ 332 คน และบุคลากรฝ่ายต่างๆ จำนวน 825 คน
และจากนั้น เวลา 14.30 น. เสด็จฯ โดยรถยนต์พระที่นั่งจากมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ไปยังบ้านนายสุรัตร ธรรมขันทา เกษตรกรตัวอย่างด้านเกษตรผสมผสาน เลขที่ 56/4 หมู่ที่ 4 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส เพื่อทอดพระเนตรการดำเนินงานของเกษตรกรตัวอย่าง และกลุ่มเกษตรเครือข่ายศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง จากนั้นประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จไปยังเรือนประทับ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส เพื่อประทับพระอิริยบถ
จากนั้นในเวลา 16.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปอาคารเฉลิมพระเกียรติ (ห้องพิพิธภัณฑ์ดิน) ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ ทรงตัดริบบิ้นเปิดอาคารเฉลิมพระเกียรติ จากนั้นทรงลงนามพระนามาภิไธยในสมุดที่ระลึก และทอดพระเนตรนิทรรศการพิพิธภัณฑ์ดินในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ทอดพระเนตรผลการดำเนินงานโครงการศึกษาการนำจุลินทรีย์ในพื้นที่พรุจังหวัดนราธิวาสไปใช้ประโยชน์ต่างๆ ทอดพระเนตรห้องจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนในพื้นที่ขยายผลของศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ จากนั้นเสด็จไปยัง หองประชุม 1 ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ ทรงพระราชทานพระราชวโรกาสให้ข้าราชการเกษียณอายุราชการ เฝ้าฯ กราบบังคมทูลลา จำนวน 8 คณะ และจากนั้นเสด็จไปยังเรือนรับรองพิกุลทอง และประทับแรม ณ เรือนรับรองพิกุลทอง ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากโครงการพระราชทานดำริ