ปัตตานี - “กษัตริย์ ซัลมาน” แห่งซาอุฯ สั่ง “บริษัท บิน ลาเดน” ก่อสร้างต่อเติมมัสยิดหะรอมมักกะห์ จ่ายสินไหมทดแทนแก่ผู้รับผลกระทบจากเครนยักษ์ถล่ม ชี้เป็นความสะเพร่าของคนงาน
วันนี้ (17 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการดำเนินช่วยเหลือจากเหตุการณ์เครนยักษ์ล้มที่มัสยิดหะรอมมักกะฮ์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 107 ราย และได้รับบาดเจ็บเป็น จำนวน 237 ราย รวมทั้งคนไทยที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 5 ราย และเสียชีวิต 1 ราย
โดยอ้างข้อมูลจากหนังสือพิมพ์อาหรับนิวส์ (ARABNEWS) ได้รายงานการให้ความช่วยเหลือให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุเครนยักษ์ล้มทับผู้แสวงบุญภายในมัสยิดหะรอมมักกะฮ์ ว่า กษัตริย์ ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลสะอูด ได้มีรับสั่งให้ บริษัท บินลาเดน กรุ๊ป ที่รับผิดชอบในการก่อสร้างขยายมัสยิดฮะรอม ดำเนินการให้การช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุบัติเหตุในเหตุการณ์เครนล้มที่มัสยิดหะรอมมักกะฮ์ ดังนี้
1.ช่วยเหลือเงิน 1 ล้านริยาล แก่ผู้เสียชีวิต หรือประมาณ 9 ล้านบาทเศษ 2.ช่วยเหลือเงิน 1 ล้านริยาล แก่ผู้ประสบเหตุทำให้พิการถาวร และ 3.ช่วยเหลือเงิน 5 แสนริยาล หรือประมาณ 4 ล้านบาทเศษ แก่ผู้รับบาดเจ็บ
นอกจากนี้ กษัตริย์ ซัลมาน พระองค์ทรงรับสั่งแก่เจ้าหน้าที่กิจการฮัจญ์ ของประเทศซาอุดีอาระเบีย ให้สิทธิแก่ญาติผู้เสียชีวิต 2 ท่าน ได้มาทำฮัจญ์ในปีต่อไปฮิจเราะห์ 1437 หรือภายในปีหน้า (2559) ในฐานะแขกของกษัตริย์ซาอุดีอาระเบีย
ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และไม่สามารถทำฮัจญ์ได้ในปีนี้ ก็จะได้รับสิทธิมาทำฮัจญ์ในปีต่อไป 1437 ในฐานะแขกของกษัตริย์ซาอุดีอาระเบีย และญาติผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่ต้องคอยดูแลช่วยเหลือ ก็อนุมัติวีซ่าให้อยู่ในประเทศซาอุดีอาระเบียได้โดยไม่มีกำหนด จนกว่าผู้บาดเจ็บจะหายเป็นปกติ ไม่ว่าจะนานเท่าใดก็ตาม
นอกจากนั้น ภายในเนื้อข่าวหนังสือพิมพ์อาหรับนิวส์ (ARABNEWS) อีกด้านหนึ่งได้มีรายงานสรุปการสอบสวนสาเหตุของอุบัติเหตุดังกล่าว ซึ่งเกิดจากลมพายุที่พัดแรงส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งเป็นความสะเพร่าในการตรวจสอบความปลอดภัยของเครื่องมือก่อสร้างของบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง (บริษัท บิน ลาเดน) จึงให้มีการตรวจสอบความปลอดภัยของเครื่องมือทั้งหมดที่บริษัทรับผิดชอบ และได้สั่งฟ้องศาลต่อบริษัท บิน ลาเดน และห้ามผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเดินทางออกนอกประเทศ และให้ทบทวนตรวจสอบโครงการที่มีอยู่ทั้งหมดของบริษัท และห้ามเข้าร่วมในโครงการใหม่จนกว่าจะเสร็จสิ้นการสอบสวน