xs
xsm
sm
md
lg

สมัชชาฯ สิบหุ้น เหมาะจะเป็นคนส่งรายชื่อบอร์ดการยางแห่งประเทศไทยหรือ!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


โดย..ศิวะ ศรีชาย
แนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยาง สมาคมเกษตรกรชาวสวนยาง 16 จังหวัดภาคใต้

พลันที่ พ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย พ.ศ.๒๕๕๘ มีผลบังคับใช้ไปเมื่อ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา บรรดาขาใหญ่ในวงการยางที่สถาปนาตัวเอง โดยอ้างบัญชาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้ยิ่งใหญ่แห่งชาติในปัจจุบัน อ้างว่าจะเป็นองค์เอกภาพในการทำหน้าที่ “แก้ปัญหายางพาราทั้งระบบ” ในนามของ “สมัชชาสถาบันเกษตรกรแห่งประเทศไทย” อันมีพี่ใหญ่ วัย ๘๑ ปี เป็นหัวขบวน...

ในตอนเริ่มต้น ได้รับเสียงเฮต้อนรับจากกองเชียร์บางส่วนที่ไม่อยากเห็นความวุ่นว่าย และการประท้วงซ้ำซากที่น่าเบื่อหน่าย แต่ยังมีคนอีกจำนวนหนึ่งที่เฝ้ามองอย่างคาดหวังระคนสงสัย อีกบางส่วนก็ยังคงยืนอยู่ในประเด็นราคาที่นับวันตกต่ำอย่างไม่อาจเยียวยา..

สุนทร รักษ์รงค์ เป็นตัวละครตัวใหม่ที่เดินเรื่องอย่างน่าติดตามรับชม นับตั้งแต่ท่าทีต่อสถานการณ์ และจุดยืนในการนำเสนอเรื่องการชดเชยส่วนต่างที่เป็นความหวัง ขอยาบรรเทาทุกข์ชั่วคราวในการประกันราคายาง ๖๐ บาท เพื่อป้องกันโรค “ยางถูก ลูกอด รถถูกยึด” และเยียวยาคนตัดยางรายย่อย รวมทั้งคนตัดยางหวะ (ตัดยางแบบแบ่งปันผลผลิต) ด้วยการเสนอ “กองทุนข้าวสาร” ที่คนนอกวงการไม่เข้าใจ แต่คนในป่า (สวน) ยาง เป่าปากเชียร์ถึงความเข้าใจ ในหัวอกคนจนโดยแท้ ทำให้ “อำนวย ปะติเส” รัฐมนตรียางในขณะนั้นถึงกับประกาศวาระชาวสวนยางของ ครม.ประยุทธ์ ๑ “คนจน ต้องได้กินก่อน!!” เป็นสุดยอดวาทกรรม..

ในขณะที่ สุนทร เพลิดเพลินต่อการเข้าถึง “อำนาจ” และ “ผู้มีอำนาจ” บรรดากลุ่มหัวโต๊ะในสมัชชาฯ ก็เริ่มบท “สุนัขจิ้งจอก” เพื่อ “ควบรวมความไว้วางใจ” ทั้งของรัฐบาล และชาวสวนยางที่ถูกเลี้ยงกระแสไว้ด้วยความหวังใน “พ.ร.บ.ยาง ฉบับใหม่” ด้วยการเปลี่ยนสถานภาพ “สมัชชาฯ” จากที่ “รวมความเห็น” “เวทีร่วมจัดการความหลากหลาย” มาเป็น “กลุ่มผูกขาดความชอบธรรมในอาชีพ” โดยจัดให้กลุ่มความเห็นต่าง (อย่าง เพิก เลิศวังพง อดีตกรรมการ กนย.) และไม่เชื่อถือกลุ่มเฒ่าตำนานยาง (ที่สถาปนาตัวเองขึ้นมา) ให้เป็นพวกปฏิกิริยา ที่ต้องกำจัด อีกทั้งเริ่มบท “มือล้วง” เข้าไปล้วงลูกในองค์กรยางสององค์กร คือ “อสย.” และ “กสย.” ที่อยู่ในภาวะหัวขาด ไม่มีผู้บริหารตัวจริง เนื่องจากรัฐบาลรอ “การยางฯ” ที่เกิดใหม่ต้องควบรวมองค์กร ทำให้ย่ามใจถึงขั้นเรียกข้าราชการ และพนักงานฝ่ายประจำ โดยเฉพาะฝ่ายบริหารบางคนที่สมยอม และฝ่ายการเงินมารับใช้งาน “สมัชชาฯ” (แต่ไม่เคยมีดอกผลใดตกถึงท้องชาวบ้านเลย )

ในทางจัดตั้ง พวกหัวโต๊ะก็หาทางกำจัดพวกหัวแข็ง และซื่อสัตย์ต่อชาวสวนผู้ยากจน โดยการหักด่านให้หลานชาย รมช.อำนวย ใช้รัศมี อดีต รมช.พรรคเนวิน (ซึ่งไม่รู้กลายร่างเป็นชาวสวนยางแต่ปางใด) สถาปนาให้นั่งในที่นั่งสำรองหัวโต๊ะ..จนถูกพวกเสรีชนปลายแถวตอบโต้ในที่ประชุมอย่างแตกหัก ไม่ยอมกลัวกลิ่นสาบสุนักจิ้งจอก ภายใต้หนังราชสีห์ ว่าผิดหลักการ สมัชชาฯ ในวันก่อตั้งคือ จะทำการใด หรือรับสมาชิกสถาบันใดเข้ามาต้องเข้าที่ประชุม และมีมติก่อน ซึ่งมติในที่ประชุมมี ๗ สถาบันๆ ละ ๒ เสียง รวม ๑๔ เสียง ไม่ใช่จะใช้ความแก่เฒ่า มาข่มขู่ข่มขืนเอา? ทำให้ครั้งนั้นกลุ่มหัวโต๊ะต้องล่าถอยไป เกรงสมัชชาฯแตก ความใคร่ของตนจะถูกล่มปากอ่าว..แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังความเคียดแค้นแก่สิงห์เฒ่าเป็นที่ยิ่ง...

เส้นทางสายบุกเบิก “การยางแห่งประเทศไทย” โล่งแจ้ง สว่างโร่ เมื่อ พ.ร.บ.การยาง พ.ศ.๒๕๕๘ ถูกประกาศในราชกิจจานุเบกษา ในขณะที่ฝ่ายคนชายขอบกำลังดีใจในมิติใหม่ที่เป็นการ “ปลดปล่อยพลังการผลิต” ครั้งสำคัญ ทุกคนมัวแต่มุ่งหวัง..จนลืมไปว่า สุนัขจิ้งจอกได้เตรียมแผนขย้ำลูกแกะไว้เสร็จสิ้นแล้ว ในขณะที่สุนทร รักษ์รงค์ มัวประชุมสมาคมชาวสวนยางนอกเขตเอกสารสิทธิ เพื่อชี้แจง “สิทธิ-หน้าที่-ดอกผลพึงได้” อยู่ที่สุราษฎร์ ธานี “อุทัย สอนหลักทรัพย์” เรียกประชุมด่วน โดยให้ “ขวัญใจคนใหม่” ทำหน้าที่เลขานุการ ไม่ทันที่สุนทรจะหายงง ก็เกิดคำประกาศ “สมัชชา ๑๐ สถาบัน” โดยลบทิ้งพี่น้องของสุนทร และสถาปนาเพื่อนร่วมร่วมรบ ๒ คน (ของสุนทร) ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมาในถนนคนสู้ชาวสวนยางที่ยังไม่ได้ปรับ “ใจ” กัน..

ยุทธการ “เสร็จนาฆ่าโคถึก” จึงเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์ !!!

รายการ “ปรับยศ-ปลดตำแหน่ง”ต่ออดีตนักสู้จากสมาพันธ์นักศึกษา ๑๖ สถาบันจากปักษ์ใต้ ผู้เกือบเอาชีวิตไม่รอดจากหลายสมรภูมิยังไม่เบ็ดเสร็จนัก ยังปล่อยให้งง และ “เดาลม” ไปสักพักก่อน ป้องกันข้อครหาที่ติดตัวมาตลอดชีพที่ยาวนานในฐานะ “นักหลอกใช้และหักหลัง” มืออาชีพ

เมื่อมีการปรับ ครม.ก็อาศัยการชุลมุนจัดงานชุมนุมไปแสดงตนให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี โดยอ้างว่า “ขอบคุณที่ผ่าน พ.ร.บ.การยาง”? อันที่จริงม็อบนี้เตรียมไว้เพื่อค้ำบัลลังก์ “รมช.อำนวย ปะติเส” ต่างหาก แต่รายการแต่งตัวครั้งนี้เพื่อเสริมขวัญแกนนำสวนยางที่มี “ปมด้อย” เชิงอำนาจต่างหาก นัยว่า ถ้าไม่ได้ท่านประธาน อันตัวข้าฯ ก็ไม่ถึงจุดนี้?

นิทานของนักต้มตุ๋นยังได้แต้มเพิ่มเมื่อรวมตัวกันเข้าพบ รมว.เกษตรคนใหม่จากนายทหาร คสช. ที่ยังงงๆ กับตำแหน่งหน้าที่ จิ้งจอกเฒ่าภายใต้การรู้จักเวลาเรียกน้ำใจจากอดีต รมช.ที่ถูกปลดหมาดๆ..นำรายชื่อ “ทหารใหม่” ใส่มือรัฐมนตรีให้สถาปนาขึ้นเป็น “คณะกรรมการพัฒนายางพาราทั้งระบบ” อะไรประมาณนั้น โดยไม่สนใจในความรู้ความสามารถ หรือความชำนาญเฉพาะด้านมาจากไหน..เอาเป็นว่า อาศัยสถานการณ์ฉุกละหุก ฝากเลี้ยง “คนรับใช้” ให้กินดีอยู่ดี นอนโรงแรมดี ขี่เครื่องบินฟรี ได้อีกระยะหนึ่ง..

แต่นัยสำคัญไม่ได้อยู่ตรงนั้น เป้าหมายคือ การสร้างภาพ และให้รัฐมนตรีทหารอ่อนหัด และถือสัตย์มอบอำนาจ ให้ “สมัชชาฯ ใหม่” (ที่ไม่มีก้างขวางคอแล้ว) เป็นผู้รับเหมา เสนอรายชื่อ “บอร์ดการยาง” แต่ผู้เดียวทั้ง ๕ คน เปรียบเสมือนได้สถาปนาขึ้นเป็น “รัฐฐาธิปัตย์ของการยางไทย”!! โดยไม่สนใจฟ้าดินกันแล้ว..

ในฐานะ “คนหน้าด้าน” ถ้าวางเฉยถือว่ายอมรับ การดำเนินการคัดเลือกบอร์ดการยาง โดย “สมัชชาใหม่” เป็นไปอย่างเนียนๆ แต่เดชะฟ้าดินมีจริง พระสยามเทวาธิราชคุ้มครองบ้านเมือง พระบิดายางพระยารัษฎานุประดิษฐ์ ยังไม่เปิดทาง อาการ “ฝันเปียกของคนแก่” เกิดขึ้น เมื่ออยากเป็นใหญ่จนไม่ได้ดูระเบียบกฎหมาย ผลคือ เป้าหมายกินยางโดยตรงไม่สำเร็จ เมื่อบอร์ดการยางจะต้องมีอายุไม่เกิน ๖๕ ปี แต่เอาเถอะถึงตรงนี้แล้ว ฝนตกขี้หมูไหล คนจัญไรก็ยังทำบาปต่อไป โดยจัดการเลือกตั้งกำมะลอ สับขาหลอกทหารโง่ๆ ด้วยการจัดเตรียมลิ่วล้อเข้ารับการคัดเลือก โดยไม่รู้ใช้คำสั่งอะไร และใครสั่ง เอาหลักการแบบแผนที่ไหนมาทำ..

ผลสุดท้ายก็ออกมาไม่ผิดโผ แต่ผิดใหญ่ผิดโต คือ ภาคเหนือได้อดีต ส.จ.สอบตก ความสามารถพิเศษ เลียดาก และอดีตเคยหิ้วกระเป๋ารัฐมนตรีเสื้อแดง (ลัดดาวัลย์ วงศ์ศรีวงศ์) ภาคอีสาน ได้ตามเป้า ตัวแทนที่เคยพูดในสมัชชาฯ (เก่า) ว่า ผมไม่เอาอะไร ผมมาช่วย อีโต้อีสานกลับลำมารับใช้การยางด้วยปากมันแผล็บ เรื่องการยึดสหกรณ์ยางที่รกร้างให้เอกชนทำรวย (สมใจพี่เน หมาป่าสีน้ำเงินเขาหละ”)

ในขณะที่เขียนบทความนี้ ผลการเลือกตั้งข้างถนนของสมัชชาใหม่ยังไม่ออก แต่ยังไงก็ไม่พ้นเด็กในคาถา ผู้เฒ่าเขาหละ..

วาระสำคัญมาอยู่ที่ภาคใต้ แม้ว่าจะเป็นการเลือกตั้งเถื่อน แต่ก็มีผู้กระหายเข้าร่วมไม่ใช่น้อยด้วยความเป็นคนผ่านร้อนหนาวมาเกือบร้อยปี ย่อมชำนาญเกม ต้องได้คน และแก้แค้นให้สำเร็จ ล้างอายเด็กไร้นามไร้ชื่อจากปักษ์ใต้ที่บังอาจรู้ทัน และถอนหงอกกลางคน..

เกมแทงลูกขาวเข้าไปในกลุ่มลูกสีบนโต๊ะสนุ้กให้แตกพ่าน และตามเก็บทีละตัว..เริ่มที่มีเสียงกระซิบทางไกลไปยัง ทศพล ขวัญรอด (ผู้เคยประกาศว่าไม่รับตำแหน่ง) เพื่อยื่นดาบให้แทง สุนทร รักษ์รงค์ เพื่อนเก่ากลางถนน โดยก่อนหน้านี้ ได้ขอทวงสิทธิค่าแต่งตั้งให้เป็นนายใหม่ โดยให้ลงเสียงในฝั่งตรงข้ามกับทศพล แต่อีกด้านหนึ่งกดดันไปยังเชนทร์ มนัส ว่าจะยกเลิกถอนคดี (ที่ฟ้องร้องกันอยู่) ให้ หากไม่โหวตให้สุนทร โดยในการนี้เมื่อจัดลงตัวแล้วก็จะให้บุญส่งนับทองเป็นผู้จัดประชุม โดยผลจากการล็อบบี้ต้องไม่ให้สุนทร รักษ์รงค์ หลุดเข้ามาถึงมือเพื่อเสนอรัฐมนตรีว่าการเกษตร เสนอ ครม.แต่งตั้ง ตามที่ดับไพ่ไว้ดังกล่าว? นี่เป็นการฆ่าบุญส่ง ในฐานะ ระมุขยางใต้ ที่คบค้ากันมาจนแก่หง่อมได้อีก..เซียนชั้นอ๋องจริงๆ งานนี้อำมหิตมากกว่าในราชสำนักราชวงศ์ชิงเสียอีก..สุดยอดขันทีจริง..ๆ

กลเกมกินยางก็เป็นเช่นนี้แล นายทหารใหญ่ที่ว่าเก่งๆ ยังไม่หายใจคล่องจากการถูกปรับออกจาก รมว.พาณิชย์ พอมายังไม่ถึงกระทรวงก็เจอแก๊งต้มตุ๋นกินยาง ต้มเสียเปื่อย ชนิดสิบแปดมงกุฎเรียกพี่..การคืนความสุขให้ชาวสวนยางตามความตั้งใจของนายทหารน้ำดี ใน สนช. ที่กล้าหาญเสนอที่นั่งในบอร์ดการยางให้ชาวสวนยางถึง ๕ คน โดยหวังว่า พ.ร.บ.การยางฯ ที่คั่งค้างมาจากสภาของนักการเมือง จะถึงมือคนจน เยียวยาคนชายขอบ สร้างสวัสดิการ อาชีพเกษตรเป็น ต้นแบบ ความปรารถนาดี บุญกุศลอันนี้ถูกลบล้างสิ้นแล้ว..

ด้วยแก๊งคนบาปในนาม “สมัชชาชาวสวนยาง ๑๐ องค์กร”..ผมรับรองว่า คนดีๆ อย่างลุงประยงค์ รณรงค์, พงศา ชูแนม หรือแม้แต่นักเกษตรกรรมอย่าง ธารน้ำทิพย์ หรือแม้แต่คนหนุ่มพลังช้างยางไทย อย่างเพิก เลิศวังพง ก็ไม่อาจเล็ดลอด ไม่มีทางได้เข้ามาในการยางแห่งประเทศไทย ตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.นี้ ไม่มีวันเป็นจริง !

ถ้าท่าน ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้ฉลาดปราดเปรื่อง ถืออำนาจล้นฟ้า จะตีโง่! คืนความสุขให้พี่เน พรรคสีน้ำเงิน ที่กระฉ่อนชื่อเรื่องฉ้อฉล หรือจะคืนความสุขให้กลุ่มคนเสื้อแดง ลัดดาวัลย์ สาขาทักษิณแห่งภาคเหนือ หรือไม่ก็จะส่งเสริมให้นายหน้าซีพี ได้ทั้งเงิน ทั้งกล่อง ก็แล้วแต่เวรแต่กรรมประเทศไทยครับ!!
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น