ระนอง - ชาวบ้านระนอง ร้องเรียนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจสอบบ่อฝังกลบขยะของเอกชนในพื้นที่ ม.5 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง ส่งกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง และปล่อยน้ำเสียจากกองขยะลงสู่คลองธรรมชาติที่เป็นป่าชายเลน แหล่งทำมาหากินของชาวประมง
วันนี้ (11 ก.ย.) พ.อ.ศานติ สกุนตนาค ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี ได้สั่งการให้ ร.ท.ศักดิ์เขตต์ บุญพิทักษ์ หัวหน้าฝ่ายการข่าว หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ว่า ได้รับความเดือดร้อนจากบ่อฝังกลบขยะของเอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.5 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง ส่งกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง และมีการปล่อยน้ำเสียจากบ่อขยะลงสู่คลองธรรมชาติ และป่าชายเลน ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำวัยอ่อน หรือปฐมวัย
ร.ท.ศักดิ์เขต บุญพิทักษ์ ได้นำกำลังลงพื้นที่พร้อมเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ป่าชายเลน สาธารณสุขจังหวัด เทศบาลตำบลปากน้ำท่าเรือ ร่วมกันเข้าทำการตรวจสอบบ่อฝังกลบขยะของเอกชนที่ได้รับการร้องเรียน ซึ่งมีเนื้อที่ จำนวน 5 ไร่เศษ มีการดำเนินการขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย รองรับขยะจาก 3 พื้นที่ คือ เทศบาลตำบลปากน้ำท่าเรือ เทศบาลตำบลปากน้ำ และเทศบาลเมืองระนอง เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้กลิ่นขยะที่ส่งกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง จากนั้นได้เชิญตัวแทนเจ้าของผู้ประกอบการ และผู้ที่เกี่ยวข้องมาพูดทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่มีการเข้ามาตรวจสอบในครั้งนี้
จากนั้นออกเดินตรวจสอบบ่อฝังกลบขยะ บ่อพักน้ำเสีย บ่อกักเก็บน้ำ พบรอยรั่วขนาดใหญ่จากบ่อกักเก็บน้ำเสียจากขยะ ซึ่งน้ำได้ไหลออกจากตัวบ่อไหลลงคลองธรรมชาติ และป่าโกงกาง ซึ่งเป็นจุดที่ชาวบ้านให้ข้อมูลว่า พื้นที่ดังกล่าวมีสัตว์น้ำวัยอ่อน หรือปฐมวัยอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และที่สำคัญเป็นที่อยู่อาศัยของหอยจุ๊บแจง สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน สามารถเก็บไปขาย หรือเก็บมาบริโภคในครัวเรือนได้ตลอดทั้งปี
หลังจากการตรวจสอบสรุปมีความเห็นร่วมกันว่า เจ้าของบ่อขยะฝังกลบจะต้องทำการแก้ไขเรื่องกลิ่นขยะเน่าเหม็น และน้ำเสียน้ำเน่าจากบ่อขยะที่ไหลลงสู่คลองธรรมชาติโดยกำหนดให้แก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จะมาร่วมกันตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งหากยังไม่มีการแก้ไขให้ถูกต้องจะต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งชาวบ้านบางส่วนที่เข้ามาสังเกตการณ์ และรับฟังข้อสรุปต่างก็พอใจ