ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาเปิดอาคารที่ทำการตำรวจภูธรภาค 8 ที่จังหวัดภูเก็ต เชื่อช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว พร้อมส่ง ฮ. กู้ภัยมาประจำที่กองบังคับการตำรวจภูธร ภาค.8 จำนวน 1 ลำ เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพในการช่วยเหลือประชาชน และนักท่องเที่ยวที่ประสบภัยต่างๆ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (11 ก.ย.) ที่ทำการตำรวจภูธรภาค 8 ถ.เทพกระษัตรี ต.ไม้ขาว อ.ภลาง จ.ภูเก็ต พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารที่ทำการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมประกอบพิธีทางศาสนาเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ข้าราชการตำรวจ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงาน โดยมีข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ข้าราชการตุลาการ หัวหน้าส่วนราชการ กงสุลกิตติมศักดิ์ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน ตลอดจนแขกผู้เกียรติในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และใกล้เคียงเข้าร่วมพิธีจำนวนมาก ซึ่ง พล.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพชร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 8 ให้การต้อนรับ
พล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท ผบก.อก.ภ.8 กล่าวว่า สำหรับอาคารที่ทำการตำรวจภูธรภาค 8 แห่งใหม่ เกิดจากนโยบายของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในปี พ.ศ.2550 ที่มีดำริให้กองบัญชาการต่างๆ หาสถานที่ก่อสร้างกองบัญชาการใหม่ เพื่อรองรับความเจริญเติบโตในอนาคต ซึ่งกรมธนารักษ์ ได้อนุมัติเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2551 ให้ตำรวจภูธรภาค 8 ใช้พื้นที่ จำนวน 159 ไร่ 1 งาน 74 ตารางวา ที่ ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยได้มองเห็นความสำคัญของยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวในฝั่งทะเลอันดามันที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และเป็นรายได้สำคัญของประเทศ จำเป็นต้องสร้างความเชื่อมั่นในด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จึงได้ของบประมาณเพื่อก่อสร้างอาคาร และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ในพื้นที่ดังกล่าว
“ในการพัฒนาพื้นที่นี้มีผู้บังคับบัญชาหลายท่านให้การสนับสนุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่อนุมัติงบประมาณการก่อสร้างเริ่มต้น พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิแก้ว รมว.การกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ อดีตรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ได้กรุณาช่วยแก้ไขปัญหาการก่อสร้าง และให้พัฒนาอย่างเต็มรูปแบบอย่างเต็มที่ รวมทั้ง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ให้ความกรุณาในปี 2558 อนุมัติงบประมาณจัดซื้อครุภัณฑ์ และก่อสร้างอาคารบ้านพักซึ่งมีความจำเป็นเร่งด่วน เป็นเงินกว่า 80 ล้านบาท เพื่อให้พร้อมปฏิบัติงานภายในปี 2558 และยังเสนอของบประมาณในปี 2559 ผูกพันกับปี 2560 อีกกว่า 156 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 และอาคารบ้านพักอีก 270 หน่วย ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว” พล.ต.ต.สมิทธิ กล่าวและว่า
สำหรับอาคารที่ทำการตำรวจภูธรภาค 8 ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีส ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 9,000 ตารางเมตร จากเงินงบประมาณปี 2555 กว่า 83 ล้านบาท โดยได้ลงนามก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2556 และก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2557 รวมระยะเวลาในการก่อสร้าง 555 วัน และตำรวจภูธรภาค 8 ได้เคลื่อนย้ายกำลังพลมาปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมา โดยปัจจุบันมีอาคารบ้านพัก 27 หน่วย อยู่ระหว่างก่อสร้าง 95 หน่วย ได้รับงบประมาณแล้วอีก 270 หน่วย โดยอาคารกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ก็ได้รับงบประมาณปี 2559 ผูกพันกับปี 2560 แล้วเช่นกัน คงเหลืออาคารหอประชุมคุรุภัณฑ์ และบ้านพักบางส่วนก็จะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ตามโครงการ
พร้อมกันนี้ ยังได้สร้างพระพุทธรูปประจำหน่วย ขนาดหน้าตัก 25 นิ้ว ซึ่งราชบัณฑิตยสภาได้ตั้งชื่อให้ว่า “พระศากยมุนีศรีพิทักษ์สันติราษฎร์” ซึ่งประดิษฐานที่หอพระบริเวณทางเข้า พร้อมทั้งพระยอดธงหน้าตัก 3 นิ้ว ประดิษฐานบนยอดเสาธงสูง 29 เมตร นอกจากนี้ ภาคเอกชนหลายหน่วยงานยังสนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างที่ทำการตำรวจภูธรภาค 8 ในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม หลังจากเสร็จพิธีเปิดอาคารแล้ว นายประสงค์ เอี่ยมสกุล ประธาน กต.ตร.สภ.วิชิต และคณะกรรมการ ได้มอบเสื้อเกราะให้แก่ตำรวจภูธรภาค 8 โดย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพชร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ร่วมรับมอบ
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการเปิดที่ทำการตำรวจภูธรภาค 8 ว่า เป็นเรื่องที่ดีที่ที่ทำการตำรวจภูธรภาค 8 มาเปิดอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ภาค 8 มีความเชื่อมั่นในเรื่องของการดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวมากขึ้น
และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการช่วยเหลือประชาชน และนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ขณะนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดส่ง ฮ.กู้ภัย ซึ่งทั้งประเทศมีเพียง 2 ลำเท่านั้น มาประจำที่จังหวัดภูเก็ต 1 ลำ เพื่อที่จะมาเสริมศักยภาพให้แก่จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียงทั้งอันดามัน และอ่าวไทย ในการช่วยเหลือกรณีมีอุบัติภัยต่างๆ เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้ในของเจ้าหน้าที่ประจำ ฮ.กู้ภัยกำลังอยู่ระหว่างการซ้อม และเตรียมความพร้อม และหลังจากซ้อมเสร็จก็สามารถมาประจำการที่ภูเก็ตได้ทันที