ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ศาลภูเก็ต อ่านคำพิพากษายกฟ้อง คดีกองทัพเรือฟ้องดำเนินคดีต่อสำนักข่าวภูเก็ตหวาน กรณีเผยแพร่รายงานพิเศษจากสำนักข่าวรอยเตอร์ เรื่อง ทหารไทยรับผลประโยชน์จากการค้ามนุษย์ผู้อพยพทางเรือ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (1 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 4 ศาลจังหวัดภูเก็ต นายชัยวัฒน์ ชยานันตพัฒน์ ผู้พิพากษา ได้อ่านคำพิพากษาคดีที่กองทัพเรือดำเนินคดี ต่อสำนักข่าวภูเก็ตหวาน กรณีเผยแพร่รายงานพิเศษจากสำนักข่าวรอยเตอร์ เรื่อง ทหารไทยรับผลประโยชน์จากการค้ามนุษย์ผู้อพยพทางเรือ โดยดำเนินคดีในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 คดีหมายเลขดำที่ 2161, 2557 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ต โจทก์ กับบริษัท บิ๊กไอส์แลนด์มีเดีย จำกัด โดย นายอลัน จอร์น มอริสัน กรรมการผู้มีอำนาจ กับพวกรวม 3 คน ประกอบด้วย บริษัท บิ๊กไอส์แลนด์มีเดีย จำกัด จำเลยที่ 1 นายอลัน จอร์น มอริสัน จำเลยที่ 2 และ น.ส.ชุติมา สีดาเสถียร จำเลยที่ 3
จากการอ่านคำพิพากษาคดีความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา สรุปความว่า เนื้อหาที่ทางสำนักข่าวภูเก็ตหวานนำมาเผยแพร่นั้น เป็นข้อความที่นำมาจากสำนักข่าวรอยเตอร์ ซึ่งเป็นสำนักข่าวต่างประเทศที่มีความน่าเชื่อถือ และข้อมูลสามารถตรวจสอบได้ โดยข้อความที่นำเสนอก็เป็นข้อความเดียวกัน จึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท ส่วนความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 ซึ่งจากการพิจารณาเนื้อหาแล้วพิเคราะห์ว่า ไม่ปรากฏข้อมูลที่เป็นเท็จ หรือปลอม จึงไม่น่าจะเกิดความเสียหายที่มีผลด้านความมั่นคง และความตื่นกลัวของประชาชน จึงพิจารณายกฟ้อง
อย่างไรก็ตาม ในการมาฟังคำพิพากษาในครั้งนี้ ฝ่ายจำเลยคือ นายอลันจอร์น มอริสัน จำเลยที่ 2 และ น.ส.ชุติมา สีดาเสถียร มีเพื่อนๆ และคนในครอบครัวเดินทางมาร่วมให้กำลังใจด้วย ซึ่งทั้งหมดเดินทางมาพร้อมด้วยทนายความ 3 คน โดยคดีนี้ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศมาร่วมทำข่าวเป็นจำนวนมาก ขณะที่ทางฝ่ายโจทก์มี น.ท.ถนอม ลั่นซ้าย รองหัวหน้ากองพระธรรมนูญ ทัพเรือภาคที่ 3 มารับฟังการอ่านคำพิจารณาด้วย
น.ส.ชุติมา สีดาเสถียร กล่าวภายหลังศาลอ่านคำพิพากษาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ว่า รู้สึกพอใจต่อผลที่ศาลได้ตัดสินออกมาว่า มีการยกฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยศาลฯ ได้จำแนกรายละเอียดเป็นข้อๆ ไว้ ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าประเทศไทยมีการบังคับใช้กฎหมายผิดฝาผิดตัว ซึ่งความจริงคดีหมิ่นประมาทไม่สามารถใช้ร่วมกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ได้ เพราะผิดเจตนารมณ์ของกฎหมาย ซึ่งจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันกรณีหมิ่นประมาท และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์นั้นมีการนำไปใช้ฟ้องร้องร่วมกันมากมาย เช่น กรณีเฟซบุ๊ก ทวิสเตอร์ ต่างๆ ซึ่งผลครั้งนี้จะเป็นคดีตัวอย่างซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายต่อไป
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (1 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 4 ศาลจังหวัดภูเก็ต นายชัยวัฒน์ ชยานันตพัฒน์ ผู้พิพากษา ได้อ่านคำพิพากษาคดีที่กองทัพเรือดำเนินคดี ต่อสำนักข่าวภูเก็ตหวาน กรณีเผยแพร่รายงานพิเศษจากสำนักข่าวรอยเตอร์ เรื่อง ทหารไทยรับผลประโยชน์จากการค้ามนุษย์ผู้อพยพทางเรือ โดยดำเนินคดีในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 คดีหมายเลขดำที่ 2161, 2557 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ต โจทก์ กับบริษัท บิ๊กไอส์แลนด์มีเดีย จำกัด โดย นายอลัน จอร์น มอริสัน กรรมการผู้มีอำนาจ กับพวกรวม 3 คน ประกอบด้วย บริษัท บิ๊กไอส์แลนด์มีเดีย จำกัด จำเลยที่ 1 นายอลัน จอร์น มอริสัน จำเลยที่ 2 และ น.ส.ชุติมา สีดาเสถียร จำเลยที่ 3
จากการอ่านคำพิพากษาคดีความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา สรุปความว่า เนื้อหาที่ทางสำนักข่าวภูเก็ตหวานนำมาเผยแพร่นั้น เป็นข้อความที่นำมาจากสำนักข่าวรอยเตอร์ ซึ่งเป็นสำนักข่าวต่างประเทศที่มีความน่าเชื่อถือ และข้อมูลสามารถตรวจสอบได้ โดยข้อความที่นำเสนอก็เป็นข้อความเดียวกัน จึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท ส่วนความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 ซึ่งจากการพิจารณาเนื้อหาแล้วพิเคราะห์ว่า ไม่ปรากฏข้อมูลที่เป็นเท็จ หรือปลอม จึงไม่น่าจะเกิดความเสียหายที่มีผลด้านความมั่นคง และความตื่นกลัวของประชาชน จึงพิจารณายกฟ้อง
อย่างไรก็ตาม ในการมาฟังคำพิพากษาในครั้งนี้ ฝ่ายจำเลยคือ นายอลันจอร์น มอริสัน จำเลยที่ 2 และ น.ส.ชุติมา สีดาเสถียร มีเพื่อนๆ และคนในครอบครัวเดินทางมาร่วมให้กำลังใจด้วย ซึ่งทั้งหมดเดินทางมาพร้อมด้วยทนายความ 3 คน โดยคดีนี้ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศมาร่วมทำข่าวเป็นจำนวนมาก ขณะที่ทางฝ่ายโจทก์มี น.ท.ถนอม ลั่นซ้าย รองหัวหน้ากองพระธรรมนูญ ทัพเรือภาคที่ 3 มารับฟังการอ่านคำพิจารณาด้วย
น.ส.ชุติมา สีดาเสถียร กล่าวภายหลังศาลอ่านคำพิพากษาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ว่า รู้สึกพอใจต่อผลที่ศาลได้ตัดสินออกมาว่า มีการยกฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยศาลฯ ได้จำแนกรายละเอียดเป็นข้อๆ ไว้ ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าประเทศไทยมีการบังคับใช้กฎหมายผิดฝาผิดตัว ซึ่งความจริงคดีหมิ่นประมาทไม่สามารถใช้ร่วมกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ได้ เพราะผิดเจตนารมณ์ของกฎหมาย ซึ่งจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันกรณีหมิ่นประมาท และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์นั้นมีการนำไปใช้ฟ้องร้องร่วมกันมากมาย เช่น กรณีเฟซบุ๊ก ทวิสเตอร์ ต่างๆ ซึ่งผลครั้งนี้จะเป็นคดีตัวอย่างซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายต่อไป
