พัทลุง - “ผอ.ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวพัทลุง” ระบุ ข้าวสายพันธุ์ใหม่ กข.55 ที่กำลังสร้างปัญหาให้ชาวนาในพื้นที่ไม่ได้มาจากศูนย์ แต่เป็นของ “ศูนย์วิจัยข้าวพัทลุง” ยันองค์กรที่ตนดูแลจะขายเมล็ดพันธุ์คุณภาพให้เกษตรกรเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ชาวนาในพื้นที่ ม.5 ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง โอดครวญหลังจากที่ข้าวนาปรังที่ปลูกไว้กำลังออกรวงในช่วงก่อนพลับพลึง เมื่อเมล็ดข้าวเริ่มแก่ แต่เมล็ดกลับเริ่มร่วงออกจากรวงจนเหลือแต่ฟางข้าว ทำให้ชาวนาที่นี่คาดการณ์ว่า อีก 20 วันก่อนที่จะมีการเก็บเกี่ยวคงไม่เหลือเมล็ดข้าวให้เก็บอย่างแน่นอน ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
ชาวนาใน จ.พัทลุง รายหนึ่งระบุว่า ก่อนหน้านี้ปลูกข้าวขาวพันธุ์ชัยนาท และพันธุ์พิษณุโลก 2 ซึ่งเป็นข้าวไวแสง อายุเก็บเกี่ยว 120 วัน แต่ปีนี้ทางศูนย์วิจัยข้าวพัทลุงได้ส่งเสริมปลูกข้าวสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งเป็นข้าวไวแสงเช่นกัน คือ สายพันธุ์ กข.55 ที่ทางศูนย์วิจัยข้าวพัทลุงได้คิดขึ้นมาใหม่ และมีการรับรองพันธุ์ข้าวชนิดนี้โดยกรมวิชาการเกษตรเมื่อปีที่แล้ว แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงกำลังจะได้เก็บเกี่ยวผลผลิต ในแปลงนามีเมล็ดข้าวสายพันธุ์อื่นปลอมปนจำนวนมาก และข้าวที่ปลูกไว้เมล็ดก็ร่วงทั้งที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยว
“เพียงเอามือไปแตะเบาๆ เมล็ดข้าวก็ร่วงเหลือแต่รวงฟาง ซึ่งในฤดูกาลนาปรังปีนี้คาดว่าชาวนาคงได้รับความเดือดร้อนอย่างแน่นอน เพราะราคาข้าวก็ตกเหลือเกวียนละ 6,000 บาท แถมข้าวก็ร่วงเหลือแต่รวง ไม่คุ้มต่อการลงทุนค่าปุ๋ย ค่าแรง บวกค่าเสียเวลาในการทำนาแปลงสาธิตเพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดต่อหน่วยงานราชการ”
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายสน ฉิมพงษ์ ผอ.ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวจังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า แปลงนาข้าวดังกล่าวที่เกษตรกรชาวนาปลูกข้าวสายพันธุ์ใหม่ กข.55 นั้น เบื้องต้น เกษตรกรไม่ได้ชื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวจากศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวพัทลุง แต่เป็นเมล็ดพันธุ์ที่ทางศูนย์วิจัยข้าวพัทลุงเป็นผู้ดำเนินการเอง โดยนำเมล็ดพันธุ์ที่ปรับปรุงไปส่งเสริมให้เกษตรในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งกำลังเป็นปัญหาให้แก่เกษตรกร
“ในส่วนของเมล็ดพันข้าวที่ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวพัทลุงจะผลิต และควบคุมเมล็ดพันธุ์จากนักวิชาการ โดยเราจะขายแต่เมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพให้แก่เกษตรกรเท่านั้น” นายสน กล่าวยืนยัน