สุราษฎร์ธานี - แกนนำม็อบที่ดินสุราษฎร์ฯ เตรียมเคลื่อนพลกว่า 1,000 คน บุกสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ หลังได้คำตอบไม่ชัดเจน จากธนารักษ์พื้นที่ ในขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเตรียมใช้อำนาจประธาน คสช.จังหวัด ยกเลิกนายทุนเก็บเกี่ยวผลผลิตในพื้นที่หมดสัมปทาน
จากกรณีกลุ่มชาวบ้านที่ไร้ที่ทำกินจำนวนกว่า 1,000 คน ที่รวมตัวกันอยู่ในพื้นที่ตำบลตะปาน อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เตรียมเคลื่อนตัวออกมาเรียกร้องกดดันทวงถามความคืบหน้าการเช่าที่ดินที่ทำกินในพื้นที่ราชพัสดุ แปลง 848 ในพื้นที่ ต.อรัญครามวารี อ.เคียนซา จำนวน 4,294 ไร่ ที่ทางบริษัทประจักษ์วิวัฒน์ จำกัด ได้หมดสัญญาเช่าลงไปเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2557 ปีที่ผ่านมา แต่ทาง นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ขอไม่ให้มีการเคลื่อนตัวและขอให้ส่งตัวแทนเข้ามาพบพร้อมยื่นหนังสือร้องเรียนแทน
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (25 ส.ค.) นายวิทยา ศรีภิรมย์มิตร พร้อมด้วยตัวแทนได้ยื่นหนังสือต่อ นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผวจ.สุราษฎร์ธานี เพื่อให้เร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบหมายให้ นายศุภวัชร ศักดา รอง ผวจ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งรับผิดชอบเรื่องนี้อธิบายต่อแกนนำว่า กำลังเตรียมนำเสนอผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธาน คสช.จังหวัด ทำหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมยกเลิกการให้เก็บผลผลิตปาล์มในพื้นที่ราชพัสดุแปลง 848 กว่า 4 พันไร่ เพื่อนำมาจัดสรรให้ชาวบ้านที่ไม่มีที่ดินทำกิน แต่ขณะนี้ต้องรอคำสั่ง คสช.ระดับประเทศที่จะกำหนดคุณสมบัติของผู้เช่า ทางจังหวัดไม่มีอำนาจการตัดสินใจ
ด้าน น.ส.สุวรรณา ทรัพย์มี ธนารักษ์พื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวถึงกรณีที่มีการพาดพิงว่า ธนารักษ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี เอื้อประโยชน์ให้แก่นายทุนนั้นว่า ขอชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยการต่อสัญญาเป็นเรื่องนโยบายกรมธนารักษ์ โดยแบ่งแยกพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน คือ พื้นที่ 50% ให้บริษัทเช่าพื้นที่ต่อ และอีก 50% หรือกว่า 4 พันไร่ จัดสรรให้ชาวบ้านไม่มีที่ทำกิน โดยขณะนี้ คสช.ยังไม่กำหนดคุณสมบัติออกมา จึงอนุญาตให้บริษัทเก็บผลผลิตปาล์มน้ำมัน โดยทางธนารักษ์ได้ค่าตอบแทนไร่ละ 345 บาท ตกเฉลี่ยเดือนละกว่า 1 แสนบาท ซึ่งเป็นการจัดเก็บชั่วคราวเพื่อรอส่งมอบที่ดินให้ราษฎรที่ไม่มีที่ดินทำกิน การดำเนินการดังกล่าวเป็นการบริหารจัดการที่ไม่ขาดช่วง ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้แก่นายทุนแต่อย่างใด ในส่วนที่ว่า ธนารักษ์พื้นที่สุราษฎร์ธานีได้ระบุว่า องค์กรผู้ขอรับการจัดสรรที่ดินทำกินแปลงบริษัทประจักษ์วิวัฒน์ จำกัด (ครอบครองเดิม) ภาคประชาชนไม่มีความพร้อมในการขอเช่าพื้นที่ น.ส.สุวรรณา ยืนยันเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ในขณะที่กลุ่มตัวแทนม๊อบที่ดินทำกิน จำนวน 30 ค นได้เรียกร้องให้ทางจังหวัดส่งคนลงไปเจรจากับกลุ่มชาวบ้านกว่า 1,000 คน ที่รวมตัวกันอยู่ในพื้นที่สวนปาล์มตำบลตะปาน อำเภอพุนพิน พร้อมขู่หากไม่มีตัวแทนจากทางจังหวัดลงพื้นที่ กลุ่มชาวบ้านพร้อมเคลื่อนตัวเดินทางออกจากพื้นที่มายังสำนักงานธนารักษ์ หรือที่ศาลากลางจังหวัดเพื่อกดดันต่อไป
จากกรณีกลุ่มชาวบ้านที่ไร้ที่ทำกินจำนวนกว่า 1,000 คน ที่รวมตัวกันอยู่ในพื้นที่ตำบลตะปาน อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เตรียมเคลื่อนตัวออกมาเรียกร้องกดดันทวงถามความคืบหน้าการเช่าที่ดินที่ทำกินในพื้นที่ราชพัสดุ แปลง 848 ในพื้นที่ ต.อรัญครามวารี อ.เคียนซา จำนวน 4,294 ไร่ ที่ทางบริษัทประจักษ์วิวัฒน์ จำกัด ได้หมดสัญญาเช่าลงไปเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2557 ปีที่ผ่านมา แต่ทาง นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ขอไม่ให้มีการเคลื่อนตัวและขอให้ส่งตัวแทนเข้ามาพบพร้อมยื่นหนังสือร้องเรียนแทน
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (25 ส.ค.) นายวิทยา ศรีภิรมย์มิตร พร้อมด้วยตัวแทนได้ยื่นหนังสือต่อ นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผวจ.สุราษฎร์ธานี เพื่อให้เร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบหมายให้ นายศุภวัชร ศักดา รอง ผวจ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งรับผิดชอบเรื่องนี้อธิบายต่อแกนนำว่า กำลังเตรียมนำเสนอผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธาน คสช.จังหวัด ทำหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมยกเลิกการให้เก็บผลผลิตปาล์มในพื้นที่ราชพัสดุแปลง 848 กว่า 4 พันไร่ เพื่อนำมาจัดสรรให้ชาวบ้านที่ไม่มีที่ดินทำกิน แต่ขณะนี้ต้องรอคำสั่ง คสช.ระดับประเทศที่จะกำหนดคุณสมบัติของผู้เช่า ทางจังหวัดไม่มีอำนาจการตัดสินใจ
ด้าน น.ส.สุวรรณา ทรัพย์มี ธนารักษ์พื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวถึงกรณีที่มีการพาดพิงว่า ธนารักษ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี เอื้อประโยชน์ให้แก่นายทุนนั้นว่า ขอชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยการต่อสัญญาเป็นเรื่องนโยบายกรมธนารักษ์ โดยแบ่งแยกพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน คือ พื้นที่ 50% ให้บริษัทเช่าพื้นที่ต่อ และอีก 50% หรือกว่า 4 พันไร่ จัดสรรให้ชาวบ้านไม่มีที่ทำกิน โดยขณะนี้ คสช.ยังไม่กำหนดคุณสมบัติออกมา จึงอนุญาตให้บริษัทเก็บผลผลิตปาล์มน้ำมัน โดยทางธนารักษ์ได้ค่าตอบแทนไร่ละ 345 บาท ตกเฉลี่ยเดือนละกว่า 1 แสนบาท ซึ่งเป็นการจัดเก็บชั่วคราวเพื่อรอส่งมอบที่ดินให้ราษฎรที่ไม่มีที่ดินทำกิน การดำเนินการดังกล่าวเป็นการบริหารจัดการที่ไม่ขาดช่วง ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้แก่นายทุนแต่อย่างใด ในส่วนที่ว่า ธนารักษ์พื้นที่สุราษฎร์ธานีได้ระบุว่า องค์กรผู้ขอรับการจัดสรรที่ดินทำกินแปลงบริษัทประจักษ์วิวัฒน์ จำกัด (ครอบครองเดิม) ภาคประชาชนไม่มีความพร้อมในการขอเช่าพื้นที่ น.ส.สุวรรณา ยืนยันเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ในขณะที่กลุ่มตัวแทนม๊อบที่ดินทำกิน จำนวน 30 ค นได้เรียกร้องให้ทางจังหวัดส่งคนลงไปเจรจากับกลุ่มชาวบ้านกว่า 1,000 คน ที่รวมตัวกันอยู่ในพื้นที่สวนปาล์มตำบลตะปาน อำเภอพุนพิน พร้อมขู่หากไม่มีตัวแทนจากทางจังหวัดลงพื้นที่ กลุ่มชาวบ้านพร้อมเคลื่อนตัวเดินทางออกจากพื้นที่มายังสำนักงานธนารักษ์ หรือที่ศาลากลางจังหวัดเพื่อกดดันต่อไป