กระบี่ - จังหวัดกระบี่ ยังเข้มดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ทั้ง ตร.น้ำกระบี่ ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง สนธิกำลังจัดเจ้าหน้าที่ดูแลสร้างความปลอดภัย หวังสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยว
พ.ต.ท.อนุรักษ์ ปริญญาสถิรกุล สว.ส.รน.1 กก.9 บก.รน.พร้อมด้วย จนท.ตำรวจน้ำกระบี่ อาสาสมัครตำรวจน้ำกระบี่ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว และประชาชนในแหล่งท่องเที่ยวชายทะเล บริเวณอ่าวนาง และท่าเทียบเรือ อบจ.กระบี่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ว่า สามารถเที่ยวที่กระบี่ได้อย่างปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม สำหรับการลงพื้นที่ดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวนั้น ทางตำรวจน้ำกระบี่ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง แต่หลังเกิดเหตุระเบิดได้มีการเพิ่มความเข้มขึ้น ซึ่งพบว่า ช่วงนี้นักท่องเที่ยวที่ออกมาท่องเที่ยวในช่วงกลางคืนบางตาลงกว่าเมื่อก่อน เนื่องจากช่วงนี้ยังเป็นช่วงโลว์ซีซัน และจากการสอบถามผู้ประกอบการต่างๆ พบว่า มีนักท่องเที่ยวลดลงจำนวนหนึ่ง
ขณะที่การดูแลความปลอดภัยสถานที่สำคัญ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และ อส.ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ยังคุมเข้มสถานที่สำคัญในพื้นที่ จ.กระบี่ สร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว โดยวันนี้ ( 20 ส.ค. ) ทหารจากกรมทหาราบที่ 2 กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (กรม ร.2 พล.นย.)แหลมหางนาค ออกลาดตระเวนเดินเท้าที่บริเวณหาดอ่าวนาง ต.อ่าวนาง อ.เมือง กระบี่ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดกระบี่ เพื่อตรวจตราดูแลความสงบเรียบร้อยตามจุดเสี่ยงที่อาจจะเป็นจุดล่อแหลมต่อการก่อเหตุ
ทั้งรถจักรยานยนต์ที่จอดหน้าชายหาด ย่านการค้า และตามถังขยะที่วางในจุดที่นักท่องเที่ยวเดินพลุกพล่าน เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ไม่หวังดีสร้างสถานการณ์ ภายหลังจากเกิดเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก โดย เรือเอกปรีชา โสภณ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ กล่าวว่า การนำเจ้าหน้าที่ออกมาปฏิบัติงานครั้งนี้เพื่อเฝ้าระวังตรวจหาสิ่งต้องสงสัยในแหล่งท่องเที่ยว เพิ่มความเข้มข้นในการป้องกันสิ่งที่ไม่คาดฝัน ซึ่งผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยวมีความพึงพอใจ และมีความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน ที่ท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดกระบี่ อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 ยังคงจัดกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมกับทางตำรวจ สภ.เหนือคลอง ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ และฝ่ายปกครอง ตรวจรถที่เข้าไปส่งผู้โดยสารภายในท่าอากาศยาน และคอยสอดส่องตามจุดต่างๆ เพื่อป้องกันเหตุร้าย พร้อมกันนี้ ยังขอความร่วมให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาก่อนที่จะไปขึ้นเครื่องอีกอย่างน้อย 30 นาที เพราะอาจต้องเสียเวลาในการตรวจค้นสัมภาระ
ส่วนที่บริเวณท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยวปากคลองจิหลาด ม.7 ต.ไสไทย อ.เมือง ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือโดยสารไปเกาะพีพี และเกาะลันตา ได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ อส.จังหวัดกระบี่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำกระบี่ ผลัดเปลี่ยนเวรยามกันเฝ้าระวังดูแลความเรียบร้อยของท่าเรือ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่เข้าไปใช้บริการเดินทางไปเกาะพีพี ซึ่งเหตุการณ์ยังคงปกติ และยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวตามปกติ