ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อันดามันเพิ่มความเข้มดูแลความปลอดภัย ผู้ว่าฯ พังงา สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยคุมเข้มตั้งด่านตรวจก่อนเข้าเมืองภูเก็ต และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในจังหวัดพังงา ขณะที่ท่าอากาศยานภูเก็ต ยกระดับการดูแลความปลอดภัยสั่งทุกส่วนละเอียดยิบทั้งภายในภายนอก ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เรียกประชุมหน่วยงานความมั่นคง ย้ำดูแลสถานที่สำคัญ แหล่งท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด ส่วนที่จังหวัดกระบี่ รองผู้ว่าฯ สั่งดูแลเข้มงวดสนามบิน แหล่งท่องเที่ยว
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (18 ส.ค.) นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เรียกประชุมด่วนหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อการท่องเที่ยวในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ไม่ได้ให้สื่อมวลชนเข้าร่วมสังเกตการณ์เหมือนในการประชุมรายการอื่นๆ
นายนิสิต กล่าวภายหลังประชุมว่า จังหวัดภูเก็ต ได้บูรณาการการทำงานด้านการรักษาความปลอดภัยร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น พลเรือน ตำรวจ ทหาร อาสาสมัคร กำนัน ผู้ใหญ่บ้านเข้ามาร่วมดูแลในพื้นที่ เส้นทาง สถานที่สำคัญ และสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวอยู่จำนวนมากๆ เพื่อรักษาความปลอดภัย ซึ่งจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้คนที่เข้ามาและอาศัยอยู่ในเมืองนี้ให้ได้รับความสะดวกสบายและมีความปลอดภัย ในส่วนของสถานที่ ที่มีคนพลุกพล่าน อย่างเช่นห้างสรรพสินค้าต่างๆ เขาก็มีการรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว ในส่วนของราชการเพียงจัดกำลังเข้าไปช่วยดูแลคอยตรวจตรา ขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยกันสอดส่องดูแล แต่อย่างไรก็ตามจังหวัดภูเก็ต ก็ไม่ได้เป็นที่เป้าหมาย เพียงเราต้องช่วยกันดูแลเพื่อสร้างความเชื่อมั่นเป็นหลัก
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวถึงเรื่อง การแชร์ข้อมูลข่าวสาร ในโซเชี่ยลมีเดีย ในโลกออนไลน์ต่างๆนั้น ตน คิดว่าเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังในการที่จะให้ข้อมูลข่าวสารในการแชร์ ควรตรวจสอบข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้องก่อนแชร์ เพราะสถานการณ์เช่นนี้เรื่องข้อมูลจะต้องใช้ข้อมูลด้วยความระมัดระวัง ต้องใช้วิจารณญาณไม่สร้างความตื่นตระหนกให้กับนักท่องเที่ยว เราต้องสร้างความเชื่อมั่นในมาตรการของเรา เพื่อให้นักท่องเที่ยวรับทราบว่า เรามีมาตรการที่ดูแลความปลอดภัยอย่างดีที่สุด
ขณะที่ นางมนฤดี เกตุพันธ์ุ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวถึงมาตรการการดูแลความปลอดภัย ว่า ในส่วนของท่าอากาศยานภูเก็ต สำหรับการดูแลความปลอดภัยบริเวณท่าอากาศยานภูเก็ตนั้น ปกติจะใช้มาตรการในการดูแลความปลอดภัยระดับ 3 อยู่แล้ว แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ระเบิดขึ้นที่สี่แยกราชประสงค์ ก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วย รวมทั้งประสานในส่วนของเจ้าหน้าที่ทหารเรือ ตำรวจในพื้นที่เพิ่มความเข้มในการดูแลมากขึ้น ทั้งภายในอาคาร ภายนอกอาคาร รวมไปถึงบริเวณรอบๆ ท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อให้เกิดความมั่นใจเรื่องของความปลอดภัยสูงสุด รวมทั้งเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้โดยสาร และนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านท่าอากาศยานภูเก็ต
สำหรับภายนอกอาคาร ตั้งแต่บริเวณประตูทางเข้าสนามบิน มีทั้งเจ้าหน้าที่ชุดตรวจวัตถุระเบิดของท่าอากาศยาน เจ้าหน้าที่ทหารเรือ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจรถทุกคันที่เข้าออกบริเวณดังกล่าวอย่างเข้มงวด นอกจากนั้น บริเวณลานจอดรถชั้น 5 ทางเจ้าหน้าที่ก็เพิ่มความเข้มในการตรวจสแกนอีกรอบ ส่วนภายในอาคารได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งพนักงานทำความสะอาด แม่บ้าน เฝ้าตรวจสอบสิ่งของต้องสงสัยตลอดเวลาในทุกพื้นที่ภายในอาคาร หากพบว่ามีสิ่งของต้องสงสัยวางไว้นานจนผิดสังเกต หรือไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของให้แจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบทันที เช่นเดียวกับในส่วนของการตรวจกระเป๋าของผู้โดยสาร จะเพิ่มความเข้ม และเพิ่มความถี่ในการสุ่มตรวจให้มากขึ้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องขอความร่วมมือจากผู้โดยสารในการเผื่อเวลาในการเดินทางด้วย
นางมนฤดี ยังได้กล่าวต่อไปถึงการใช้บริการของผู้โดยสารที่สนามบินภูเก็ต ว่า ขณะนี้ผู้โดยสารยังใช้บริการกันตามปกติ ไม่การยกเลิกการเดินทางแต่อย่างใด ขณะที่ในส่วนของสายการบินจากต่างประเทศก็ไม่พบว่ามีการแจ้งยกเลิกการเดินทาง ทุกสายการบินยังเดินทางเข้ามาตามปกติ
ส่วนที่จังหวัดกระบี่ เมื่อเวลา เวลา 09.30 น. วันนี้ (18 ส.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดกระบี่ นายสาธรวิศิษฎ์ นราวิสุทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานในการประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ประกอบด้วย ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่สำคัญของจังหวัดกระบี่ ภายหลังเกิดเหตุระเบิดที่บริเวณแยกราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงค่ำวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก
นายสาธรวิศิษฎ์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้กำชับเจ้าหน้าที่เกี่ยวเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยสถานที่สำคัญ โดยเฉพาะสนามบิน และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ พร้อมตั้งศูนย์ปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดกระบี่ (ศปภ.) เพื่อติดตามสถานการณ์รับแจ้งเหตุผิดปกติตลอด 24 ชั่วโมง และได้มีการสั่งเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ตั้งจุดตรวจตามสถานที่สำคัญ เช่น สนามบิน สถานที่ราชการ แหล่งท่องเที่ยว ท่าอากาศยาน และศูนย์การค้าต่างๆ และกำชับเจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดตามจุดตรวจต่างๆ นอกจากนี้ ยังได้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วเตรียมความพร้อมออกปฏิบัติหน้าที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
รอง ผวจ.กระบี่ ยังกล่าวด้วย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน กทม.ยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามาจากเรื่องใด ถ้าหากว่าเป็นเรื่องของการเมือง ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ก็สามารถจะเกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวได้เช่นเดียวกัน จึงขอให้ทุกหน่วยเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ และขอความร่วมมือประชาชนแจ้งเหตุผิดปกติด้วย
สำหรับจังหวัดพังงา นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกิดเหตุระเบิดที่ราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร ขณะนี้ทางจังหวัดพังงา ได้ขอความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองในทุกพื้นที่ ให้ช่วยกันเฝ้าระวังเหตุร้ายในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญฝั่งทะเลอันดามัน โดยเฉพาะพื้นที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เช่น แหล่งชอปปิ้งย่านเขาหลัก ห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองพังงา และตามท่าเรือต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อม
รวมทั้งสั่งการให้ให้มีการคุมเข้มในเส้นทางต่างๆ โดยตั้งด่านตรวจกระจายไปตามเส้นทางหลักที่มุ่งสู่จังหวัดภูเก็ต ให้ตรวจค้นรถต้องสงสัยอย่างละเอียด พร้อมทั้งบันทึกภาพทะเบียนรถยนต์ และผู้ขับขี่ไว้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธครบมือไว้ประจำจุดตรวจอีกด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มคนร้ายแฝงตัวเข้าไปในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (18 ส.ค.) นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เรียกประชุมด่วนหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อการท่องเที่ยวในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ไม่ได้ให้สื่อมวลชนเข้าร่วมสังเกตการณ์เหมือนในการประชุมรายการอื่นๆ
นายนิสิต กล่าวภายหลังประชุมว่า จังหวัดภูเก็ต ได้บูรณาการการทำงานด้านการรักษาความปลอดภัยร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น พลเรือน ตำรวจ ทหาร อาสาสมัคร กำนัน ผู้ใหญ่บ้านเข้ามาร่วมดูแลในพื้นที่ เส้นทาง สถานที่สำคัญ และสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวอยู่จำนวนมากๆ เพื่อรักษาความปลอดภัย ซึ่งจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้คนที่เข้ามาและอาศัยอยู่ในเมืองนี้ให้ได้รับความสะดวกสบายและมีความปลอดภัย ในส่วนของสถานที่ ที่มีคนพลุกพล่าน อย่างเช่นห้างสรรพสินค้าต่างๆ เขาก็มีการรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว ในส่วนของราชการเพียงจัดกำลังเข้าไปช่วยดูแลคอยตรวจตรา ขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยกันสอดส่องดูแล แต่อย่างไรก็ตามจังหวัดภูเก็ต ก็ไม่ได้เป็นที่เป้าหมาย เพียงเราต้องช่วยกันดูแลเพื่อสร้างความเชื่อมั่นเป็นหลัก
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวถึงเรื่อง การแชร์ข้อมูลข่าวสาร ในโซเชี่ยลมีเดีย ในโลกออนไลน์ต่างๆนั้น ตน คิดว่าเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังในการที่จะให้ข้อมูลข่าวสารในการแชร์ ควรตรวจสอบข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้องก่อนแชร์ เพราะสถานการณ์เช่นนี้เรื่องข้อมูลจะต้องใช้ข้อมูลด้วยความระมัดระวัง ต้องใช้วิจารณญาณไม่สร้างความตื่นตระหนกให้กับนักท่องเที่ยว เราต้องสร้างความเชื่อมั่นในมาตรการของเรา เพื่อให้นักท่องเที่ยวรับทราบว่า เรามีมาตรการที่ดูแลความปลอดภัยอย่างดีที่สุด
ขณะที่ นางมนฤดี เกตุพันธ์ุ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวถึงมาตรการการดูแลความปลอดภัย ว่า ในส่วนของท่าอากาศยานภูเก็ต สำหรับการดูแลความปลอดภัยบริเวณท่าอากาศยานภูเก็ตนั้น ปกติจะใช้มาตรการในการดูแลความปลอดภัยระดับ 3 อยู่แล้ว แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ระเบิดขึ้นที่สี่แยกราชประสงค์ ก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วย รวมทั้งประสานในส่วนของเจ้าหน้าที่ทหารเรือ ตำรวจในพื้นที่เพิ่มความเข้มในการดูแลมากขึ้น ทั้งภายในอาคาร ภายนอกอาคาร รวมไปถึงบริเวณรอบๆ ท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อให้เกิดความมั่นใจเรื่องของความปลอดภัยสูงสุด รวมทั้งเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้โดยสาร และนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านท่าอากาศยานภูเก็ต
สำหรับภายนอกอาคาร ตั้งแต่บริเวณประตูทางเข้าสนามบิน มีทั้งเจ้าหน้าที่ชุดตรวจวัตถุระเบิดของท่าอากาศยาน เจ้าหน้าที่ทหารเรือ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจรถทุกคันที่เข้าออกบริเวณดังกล่าวอย่างเข้มงวด นอกจากนั้น บริเวณลานจอดรถชั้น 5 ทางเจ้าหน้าที่ก็เพิ่มความเข้มในการตรวจสแกนอีกรอบ ส่วนภายในอาคารได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งพนักงานทำความสะอาด แม่บ้าน เฝ้าตรวจสอบสิ่งของต้องสงสัยตลอดเวลาในทุกพื้นที่ภายในอาคาร หากพบว่ามีสิ่งของต้องสงสัยวางไว้นานจนผิดสังเกต หรือไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของให้แจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบทันที เช่นเดียวกับในส่วนของการตรวจกระเป๋าของผู้โดยสาร จะเพิ่มความเข้ม และเพิ่มความถี่ในการสุ่มตรวจให้มากขึ้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องขอความร่วมมือจากผู้โดยสารในการเผื่อเวลาในการเดินทางด้วย
นางมนฤดี ยังได้กล่าวต่อไปถึงการใช้บริการของผู้โดยสารที่สนามบินภูเก็ต ว่า ขณะนี้ผู้โดยสารยังใช้บริการกันตามปกติ ไม่การยกเลิกการเดินทางแต่อย่างใด ขณะที่ในส่วนของสายการบินจากต่างประเทศก็ไม่พบว่ามีการแจ้งยกเลิกการเดินทาง ทุกสายการบินยังเดินทางเข้ามาตามปกติ
ส่วนที่จังหวัดกระบี่ เมื่อเวลา เวลา 09.30 น. วันนี้ (18 ส.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดกระบี่ นายสาธรวิศิษฎ์ นราวิสุทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานในการประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ประกอบด้วย ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่สำคัญของจังหวัดกระบี่ ภายหลังเกิดเหตุระเบิดที่บริเวณแยกราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงค่ำวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก
นายสาธรวิศิษฎ์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้กำชับเจ้าหน้าที่เกี่ยวเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยสถานที่สำคัญ โดยเฉพาะสนามบิน และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ พร้อมตั้งศูนย์ปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดกระบี่ (ศปภ.) เพื่อติดตามสถานการณ์รับแจ้งเหตุผิดปกติตลอด 24 ชั่วโมง และได้มีการสั่งเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ตั้งจุดตรวจตามสถานที่สำคัญ เช่น สนามบิน สถานที่ราชการ แหล่งท่องเที่ยว ท่าอากาศยาน และศูนย์การค้าต่างๆ และกำชับเจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดตามจุดตรวจต่างๆ นอกจากนี้ ยังได้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วเตรียมความพร้อมออกปฏิบัติหน้าที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
รอง ผวจ.กระบี่ ยังกล่าวด้วย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน กทม.ยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามาจากเรื่องใด ถ้าหากว่าเป็นเรื่องของการเมือง ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ก็สามารถจะเกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวได้เช่นเดียวกัน จึงขอให้ทุกหน่วยเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ และขอความร่วมมือประชาชนแจ้งเหตุผิดปกติด้วย
สำหรับจังหวัดพังงา นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกิดเหตุระเบิดที่ราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร ขณะนี้ทางจังหวัดพังงา ได้ขอความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองในทุกพื้นที่ ให้ช่วยกันเฝ้าระวังเหตุร้ายในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญฝั่งทะเลอันดามัน โดยเฉพาะพื้นที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เช่น แหล่งชอปปิ้งย่านเขาหลัก ห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองพังงา และตามท่าเรือต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อม
รวมทั้งสั่งการให้ให้มีการคุมเข้มในเส้นทางต่างๆ โดยตั้งด่านตรวจกระจายไปตามเส้นทางหลักที่มุ่งสู่จังหวัดภูเก็ต ให้ตรวจค้นรถต้องสงสัยอย่างละเอียด พร้อมทั้งบันทึกภาพทะเบียนรถยนต์ และผู้ขับขี่ไว้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธครบมือไว้ประจำจุดตรวจอีกด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มคนร้ายแฝงตัวเข้าไปในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต