นครศรีธรรมราช - “กสทช.” งานเข้า! ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีระบบสายส่งภาคใต้ตอนบน ยื่นฟ้องเพิกถอนมติบังคับมัสแครี่ต่อศาลปกครอง 18 ส.ค.นี้ นัดแนะผู้ประกอบการทั่วประเทศลุยฟ้องศาลปกครองกลางกรุงเทพฯ ด้วย
วันนี้ (11 ส.ค.) ที่ศาลปกครอง จ.นครศรีธรรมราช ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีในส่วนภูมิภาค ซึ่งใช้ระบบสายส่งในจังหวัดภาคใต้ตอนบนรวม 19 ราย นำโดย นายเชี่ยวศักดิ์ ยงค์ตระกูล พร้อมด้วยทนายความ ได้เข้ายื่นฟ้อง กสทช.ต่อศาลปกครอง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อขอให้สั่งเพิกถอนมติของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ครั้งที่ 18/2558 วันที่ 3 มิ.ย.2558 ในมติเห็นควรกำหนดแนวนโยบายในการเผยแพร่บริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไปสำหรับผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ระบบเคเบิลทีวี
นายนวมงคล คูสกุล ทนายความ ระบุว่า กสทช.ได้ใช้อำนาจเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยมตินี้ถือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่ดิจิตอลทีวีที่มีการประมูลไปจาก กสทช. ขณะที่ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีที่มีโครงข่ายเป็นของตัวเองในระบบสายส่งที่ต้องเช่าเสาไฟฟ้าจากการไฟฟ้าในการพาดสายนำสัญญาณไปยังผู้บริโภค โดยใช้เงินทุนของผู้ประกอบการเอง และมีการจัดซื้อลิขสิทธิ์มาเพื่อเผยแพร่ให้แก่สมาชิกเพื่อความแตกต่างทางการตลาด
โดย กสทช.ได้บังคับให้จัดเรียงช่องดิจิตอลทีวีจากหมายเลข 11 จนถึง 46 รวม 36 ช่อง มาจัดในตำแหน่งที่มีความสำคัญต่อการทำธุรกิจ เสมือนถูกแย่งไปโดยมิชอบ และผู้ประกอบการยังไม่สามารถสร้างความแตกต่างได้ ซึ่งล้วนเป็นเหตุผลสำคัญ
ทนายความของผู้ประกอบการรายนี้ยังกล่าวด้วยว่า การดำเนินการตามคำสั่ง กสทช. นอกจากจะส่งผลกระทบจากความเสียหายที่เกิดขึ้น สร้างความไม่เป็นธรรมให้แก่ผู้ประกอบการ และยังส่งผลทางอ้อมต่อสิทธิเสรีภาพในการรับชม หรือเลือกชมรายการโทรทัศน์ของประชาชนอีกด้วย
“ผู้ประกอบการหลายรายต้องทยอยยุติกิจการไปแล้วนับสิบราย เนื่องจากไม่สามารถรับได้ต่อกฎเกณฑ์เหล่านี้ และเชื่อว่าจะมีการทยอยหยุดกิจการต่อไปอีก อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ ผู้ประกอบการทั่วประเทศนับร้อยรายจะเข้าไปยื่นฟ้อง กสทช. ต่อศาลปกครองกลางกรุงเทพฯ ด้วย” ทนายความระบุ
