xs
xsm
sm
md
lg

ชาวสตูลโอด! แบ็กโฮเข้าไถกลบป่าเฉลิมพระเกียรติเดือดร้อนไร้ที่ทำกิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
สตูล - ชาวบ้านควนกาหลงสตูลโอด แบ็กโฮเข้าไถกลบป่าเฉลิมพระเกียรติ และป่าชุมชนเตรียมสร้างอ่างเก็บน้ำ ชาวบ้านชี้น้ำมีไม่เคยแล้งควรปล่อยให้ได้ใช้ประโยชน์จากป่า ระบุเดือดร้อนไร้ที่ดินทำกิน

 
วันนี้ (1 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านนิคมสตูลพิบูลย์ล้นเกล้า พื้นที่ ม.9 ต.ควนกาหลง อ.ควนกาหลง จ.สตูล ร่วม 50 คน จูงลูกเด็กเล็กแดงออกมาร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน พร้อมชี้ให้ดูสภาพที่ถูกไถกลบป่าเฉลิมพระเกียรติ และป่าชุมชนที่ล้มระนาบเป็นหน้ากลอง พร้อมอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการไถป่าเฉลิมพระเกียรติที่ชาวบ้านได้ช่วยกันปลูกบนพื้นที่ 30 ไร่ และที่เหลืออีกประมาณ 20 ไร่ ชาวบ้านไม่น้อยกว่า 30 ครัวเรือน

 
ซึ่งในพื้นที่ได้ใช้ประโยชน์จากการปลูกพืชผลอาสิน อย่างแปลงผัก ต้นยางพารา กล้วย เพื่อเก็บผลอาสินกิน ขาย และมีชาวบ้านบางคนได้เข้าพักอาศัยสร้างครอบครัวเล็กๆ ในพื้นที่ป่า 4 ครอบครัว จากการให้พื้นที่ซึ่งเป็นเศษดินของป่านิคมสร้างตนเองเมื่อปี 2532 ได้ปันพื้นที่ให้ก่อนมอบให้หมู่บ้านเป็นผู้ดูแล



 
มาวันนี้มีการนำป้ายมาปักจากกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถึงการเข้าทำโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำพรุหลุมพี โดยให้ผู้รับเหมาเข้าไถกลบพื้นที่ป่า 50 ไร่ นับตั้งแต่วันเริ่มสัญญา 8 กรกฎาคม 2558 ภายในระยะเวลาโครงการ 240 วัน ได้สร้างความตกใจ และไม่สบายใจให้แก่ชาวบ้านที่มีบ้านอาศัยในพื้นที่ 4 ครอบครัว ที่อ้างว่าไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ลูกๆ และครอบครัวจะไปอยู่ที่ไหน ครอบครัวของพวกตนก็ไม่มีที่จะไป แถมยังมีคนในหมู่บ้านบางคนดูหมิ่นดูแคลนว่ามาใช้พื้นที่หมู่บ้านอาศัยอยู่ ซึ่งทางผู้รับเหมาเองก็ยืนยันว่า บ้าน หรือต้นไม้ในพื้นที่โครงการทั้งหมดต้องไถกลบ เตรียมพื้นที่ทำโครงการไม่มีข้อยกเว้น

 
ทำให้ชาวบ้านที่ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ป่าเศษดินของป่านิคมสร้างตนเองแห่งนี้ ได้ออกมาคัดค้าน ซึ่งการเข้าทำโครงการโดยไม่บอกกล่าว และไม่มีการพูดถึงการทำลายผลอาสินของชาวบ้าน ที่บางรายมีต้นยางพาราพร้อมจะกรีดเลี้ยงปากท้อง และต้นไม้ขนาดใหญ่ที่มีการปลูกในป่าเฉลิมพระเกียรติ อย่างต้นกระถินณรงค์ ต้นเทียม ที่อาศัยเวลานับ 10 ปี ช่วยกันปลูก แต่กลับถูกโค่นล้มอย่างน่าเสียดายเพื่อสร้างอ่างน้ำที่ชาวบ้านบอกว่าในละแวกใกล้กันก็มีมากมาย ซึ่งพื้นที่นี้คนในหมู่บ้านก็ไม่เคยขาดน้ำเลยสักฤดูกาล

 
นางกนกวรรณ ช่วยถนอม และนายพิศาล จันทร์ช่วย อายุ 28 ปี เป็น 2 ครอบครัวที่ขออาศัยในพื้นที่ป่าชุมชน กล่าวด้วยน้ำตาคลอ พร้อมยอมรับว่า รู้สึกหวั่น หลังรถแบ็กโฮเข้าไถกลบป่า และยังยืนยันว่าจะต้องไถบ้านที่พวกตนอาศัยออกไปด้วย ทั้งที่พวกตนก็ไม่เคยคิดจะครอบครอง แต่เพียงแค่ขออาศัยป่าชุมชนตรงนี้อยู่เท่านั้น และอยู่มานานหลายปี มาวันนี้ชาวบ้านที่หากินอยู่กับป่าชุมชน และพวกตนได้ร้องขอความเป็นธรรม และขอให้มีการจัดที่อยู่อาศัยของพวกตนให้ด้วย

 
ในขณะที่ นางสุทัศน์ วิชัยดิษฐ์ อายุ 49 ปี ซึ่งมีสวนยางพาราอายุ 4 ปี ที่ไม่นานก็พร้อมจะตัดได้แล้วนั้น เรียกร้องให้มีการชดเชยจากภาครัฐที่เข้ามาไถกลบยางของตนบ้าง พร้อมรู้สึกเสียใจที่ไม่มีการแจ้งล่วงหน้าที่พูดคุยถึงการเข้ามาทำโครงการให้ชัดเจนกว่านี้

 
หลังมีการรวมตัวของลูกบ้าน นายสะกะริย่า มูเก็ม กำนัน ต.ควนกาหลง ได้พยายามเข้าเจรจา และยืนยันว่าจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมหมู่บ้านเพื่อหาข้อยุติในเรื่องนี้ แต่ไม่ได้ผล เนื่องจากชาวบ้านกลุ่มนี้ยืนยันจะพบนายอำเภอควนกาหลง ก่อนพากันเดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอควนกาหลง

 
โดยมีน างอรนงค์ ทิมบัว ปลัดอาวุโสรักษาการแทนนายอำเภอควนกาหลง ได้เข้ามารับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน และยืนยันว่า ให้มีการยุติโครงการไถกลบโครงการนี้ไว้ก่อน และในวันทำการปกติจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมอำเภอ และจะนัดชาวบ้านมาพูดคุยเจรจาเพื่อหาข้อยุติในเรื่องนี้ให้ได้ หลังได้รับคำยืนยันจากทางการอำเภอควนกาหลง จึงสร้างความพึงพอใจให้แก่ชาวบ้านได้



 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น