ปัตตานี - ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออกจับ “เรือ 999 นำทรัพย์สมุทร” ทำประมงอวนลากคู่ 2 ลำ พร้อมไต้ก๋ง และ 8 ลูกเรือ หลังออกทะเลไม่แจ้งตามคำสั่ง คสช. แถมพบลูกเรือเป็นชาวพม่า ใบอนุญาตเข้าประเทศหมดอายุ
วันนี้ (31 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณอ่าวไทยปัตตานี ม.8 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี พ.ต.อ.ปราบพาล มีมงคล รองผู้บังคับการตำรวจเมืองปัตตานี ร่วมกับ น.ท.ประเดิม ลิ้มไพบูลย์ หัวหน้าศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออก จ.ปัตตานี ร่วมกันจับกุมเรือ 999 นำทรัพย์สมุทร 3 ประมงอวนลากคู่ จำนวน 2 ลำ โดยมี นายบุญธรรม เจริญจันทร์ อายุ 57 ปี เป็นไต้ก๋งเรือ พร้อมลูกเรือ 8 คน เป็นชาวพม่า 5 คน ชาวลาว 1 คน และชาวไทยอีก 1 คน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบ นายนาย อายุ 35 ปี ชาวพม่า คนงานเรือไม่มีใบอนุญาตทำงาน และใบอนุญาตเข้าประเทศหมดอายุ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา นายบุญธรรม เจริญจันทร์ ในข้อหาใช้เรือโดยไม่แจ้งเข้า-ออกท่าเทียบเรือ ที่ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออก ตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ที่ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ประกาศคำสั่ง คสช.ที่ 10/2558 ลงวันที่ 29 เมษายน. 2558 และข้อกล่าวหา รับบุคคลต่างด้าวทำงานโดยมิได้รับอนุญาต และบุคคลต่างด้าวนั้นไม่มีใบอนุญาตทำงาน พร้อมให้ที่พักอาศัยหลบซ่อนแก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้บุคคลต่างด้าวนั้นพ้นจากการถูกจับ
พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา นายนาย อายุ 35 ปี ชาวพม่า คนงานเรือในข้อหาบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด และเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต เบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้การรับสารภาพต่อเจ้าหน้าที่สอบสวนทุกข้อกล่าวหา
ด้าน น.ท.ประเดิม ลิ้มไพบูลย์ หัวหน้าศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออก จ.ปัตตานี กล่าวว่า ที่มาของการจับกุมครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการประมงที่ช่วยเป็นหูเป็นตาให้แก่เจ้าหน้าที่ จากนั้นได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ของศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออก จ.ปัตตานี เข้าไปซุ่มดู จนกระทั่งสามารถจับกุมเรือ 999 นำทรัพย์สมุทร 3 ซึ่งเป็นเรือที่ใช้อุปกรณ์การประมงอวนลากคู่ 2 ลำ และมี นายบุญธรรม เจริญจันทร์ อายุ 57 ปี เป็นไต้ก๋งเรือ พร้อมลูกเรือที่เป็นพม่า 5 ลาว 2 คนไทยอีก 1 และเมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดพบ นายนาย อายุ 35 ปี ชาวพม่า เป็นคนงานเรือไม่มีใบอนุญาตการทำงาน และเป็นบุคคลต่างด้าวที่บัตรแรงงานต่างด้าวหมดอายุ
จากการตรวจสอบเอกสารเรือ 999 นำทรัพย์สมุทร 3 มีขนาดเกิน 30 ตันกรอส เมื่อออกทำการประมงต้องมีการแจ้งศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออก จากการตรวจสอบการแจ้งเข้า-ออก ไม่พบหลักฐานการแจ้งเข้า-ออกตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ที่ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายกำหนดมาจึงต้องมีการควบคุม
“เราพยายามใช้วิธีให้ผู้ประกอบการด้วยกันเองสืบหาแกะดำในจำนวนผู้ประกอบการ ซึ่ง ปัจจุบันนี้ ทาง คสช.บังคับให้ต้องมีการแจ้งเรือเข้า-ออก ทุกครั้งก่อนที่จะมีการออกทำการประมง เราก็สามารถดูจากตรงนี้อย่างชัดเจนว่า หากมีเรือลำไหนที่ไม่ได้แจ้งการเข้า-ออก แน่นอนเขาต้องมีอะไรผิดปกติบนเรือนลำนั้น เมื่อเข้าตรวจสอบเราก็พบจริงตามที่คาดไว้”
นายบุญธรรม เจริญจันทร์ อายุ 57 ปี ไต้ก๋งเรือ 999 นำทรัพย์สมุทร 3 กล่าวว่า เขาพร้อมลูกเรือ ได้ทำการประมงเป็นปกติเช่นเดิม ซึ่งเดือนนี้ได้ออกทำการประมงมาแล้ว 3 ครั้ง ซึ่งครั้งนี้ก็ได้ออกเหมือนปกติ แต่ไม่ทันได้หาปลาถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมแล้วลากเรือมาที่ท่าเทียบเรือปัตตานีเสียก่อน โดยถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่า เรือ 999 นำทรัพย์สมุทร 3 ไม่ได้ทำการแจ้งเข้า-ออกท่าเทียบเรือ ที่ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออก ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายประกาศ ตามคำสั่งของ คสช.ที่ 10/2558 ลงวันที่ 29 เมษายน 2558 และเจ้าหน้าที่ยังแจ้งว่า รับบุคคลต่างด้าวทำงานโดยมิได้รับอนุญาต และบุคคลต่างด้าวนั้นไม่มีใบอนุญาตทำงาน คือ นายนาย อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นชาวพม่า และเป็นคนงานในเรือ
“ก่อนออกเรือเมื่อวานก็ได้แจ้งให้เถ้าแก่ไปแจ้งศูนย์แจ้งเข้า-ออกเรือ แต่เถ้าแก่บอกว่าไม่เป็นไร เรือไม่ถึง 30 ตันกรอส ไม่ต้องแจ้ง ผมก็พาทุกคนออกไปทำประมงเหมือนปกติ แต่ไปยังไม่ถึงไหนก็ถูกลากกลับมา ผมทำประมงมานานผมรู้ แต่เมื่อเป็นแบบนี้ก็สามารถเข้าใจได้”