xs
xsm
sm
md
lg

ลงนามสัญญา 2,128 ล้านแล้ว ศูนย์การแพทย์ ม.วลัยลักษณ์ ฉลุย ยันทุกปัญหาในโครงการนี้จบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นครศรีธรรมราช - มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จบปัญหาศูนย์การแพทย์แล้ว ลงนามผู้รับจ้างรายใหม่เร่งเดินหน้าก่อสร้างมูลค่า 2,128 ล้าน หลังชะงักกว่า 1 ปี จากการยกเลิกสัญญากับผู้รับเหมารายเก่า เหตุใช้เอกสารทางการเงินปลอมประกอบสัญญา
 

 
วันนี้ (30 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช สามารถเดินหน้าศูนย์การแพทย์ได้แล้ว หลังจากที่ได้รับผู้รับเหมารายใหม่คือ บริษัทเพาเวอร์ไลน์จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ของประเทศ ได้เข้ามาประมูลงานก่อสร้างศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ โดยชนะการประกวดราคาในวงเงิน 2,128 ล้านบาท ด้วยวิธีการประกวดราคาแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-ออกชัน โดยช่วงเย็นของวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ดร.สุเมธ แย้มนุ่น รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ได้มีการลงในสัญญาว่าจ้างก่อสร้างแล้ว โดยมี นายพิสันต์ จินตนาภักดี กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม ของบริษัทเพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ลงนามเป็นผู้รับจ้าง ซึ่งจะมีเวลาก่อสร้างรวม 1,400 วัน ขณะที่ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ลงนามอนุมัติขยายเวลาผูกพันงบประมาณจากเดิม ปี 2554-2560 เป็น 2554-2562 เรียบร้อยแล้ว
 

 
ดร.สุเมธ แย้มนุ่น รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ กล่าวว่า การก่อสร้างศูนย์การแพทย์ มวล. มุ่งทำประโยชน์เพื่อประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน ทำอย่างถูกต้องชัดเจน ตรงไปตรงมา ด้วยความมุ่งมั่นสุจริต ในที่สุดเห็นผลในวันนี้ที่มีการลงนามก่อสร้างศูนย์การแพทย์ ถือว่าขณะนี้ได้ผ่านวิกฤตมาแล้ว

 

 
“สำหรับเวลา 1,400 วัน ในการก่อสร้างศูนย์การแพทย์ ยังมีความวิตกกังวล อย่างไรก็ตาม คิดว่าเมื่อเริ่มต้นดีแล้ว เชื่อมั่น 100% ว่าจะได้เห็นศูนย์การแพทย์เกิดขึ้น และจะต้องเตรียมพร้อมให้ครูอาจารย์แพทย์ที่เป็นนักวิชาการได้มีประสบการณ์ทางการแพทย์จริง จะสร้างโรงพยาบาลจำลอง มีทุกระบบคล้ายกับโรงพยาบาลขนาดใหญ่ เป็นที่ฝึกฝนของนักศึกษาแพทย์ นักศึกษาพยาบาล เวชศาสตร์ และเภสัชศาสตร์ โดยในช่วงเวลา 1,400 วัน ก่อนศูนย์การแพทย์แล้วเสร็จ จะทำให้เกิดความเข้มแข็ง มีระบบการบริหารจัดการที่ดี ทั้งการผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ และการให้บริการประชาชน”
 

 
รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ยังระบุด้วยว่า สำหรับปัญหาภายในของมหาวิทยาลัยเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีแล้ว ถ้ากระบวนการต่างๆ แล้วเสร็จ มหาวิทยาลัยจะกลับสู่สภาพที่มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน ทำงานด้วยความรัก ความสามัคคี มีความสุข ทุกคนมีความสำคัญ โดยเฉพาะคนที่ทำงานมาตั้งแต่เริ่มต้นมีมหาวิทยาลัย ตนเองจะทำให้ดีที่สุดสำหรับทุกคน
 

 
ขณะที่ นายพิสันต์ จินตนาภักดี กรรมการบริษัทเพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขอให้มั่นใจบริษัทจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ตรงตามเวลา ที่ผ่านมา บริษัทมีประสบการณ์ มีกำลังคนที่มีความเชี่ยวชาญงานในระบบ มีเครื่องมือเครื่องจักรกลพร้อม โดยเฉพาะการก่อสร้างโรงพยาบาล ก่อสร้างมาแล้วหลายแห่ง เรามีทุนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กว่า 1.3 พันล้านบาท ที่สำคัญผลงานการโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ตึกขนาดใหญ่ ก่อสร้างศูนย์การค้า คอนโดมิเนียม ที่พักในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เป็นผลงานที่พิสูจน์ชื่อเสียงของบริษัทแล้ว ขอให้เชื่อมันว่าบริษัทจะทำงานอย่างดี สร้างศูนย์การแพทย์ที่ทันสมัยตามที่ชุมชนต้องการ และเพื่อชื่อเสียงของบริษัทด้วย
 

 
อย่างไรก็ตาม สำหรับปัญหาศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ผู้สื่อข่าวระบุว่า ได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องภายหลังจากการยกเลิกสัญญากับผู้รับเหมารายเก่า เนื่องจากพบเอกสารทางการเงินปลอมเข้ามาประกอบสัญญาจนมีการตรวจพบ และนำไปสู่การยกเลิกสัญญาว่าจ้าง หลังจากนั้น ได้เกิดความวุ่นวายจากความพยายามในการสร้างแรงกดดันให้มหาวิทยาลัยคืนสิทธิสัญญาก่อสร้างให้ผู้รับเหมารายเก่า

ขณะที่มหาวิทยาลัยใช้สิทธิตามกฎหมาย เนื่องจากเห็นว่าสัญญาผู้รับเหมาเป็นโมฆะไปตามกฎหมายแล้ว เนื่องจากการนำเอาเอกสารที่ไม่ชอบตามกฎหมายมาใช้ประกอบนิติกรรมสัญญา ประกอบกับสถาบันการเงินที่ถูกระบุในเอกสารว่าเป็นเจ้าของเอกสารทำหนังสือยืนยันว่า เป็นเอกสารที่ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบ นัยคือ เป็นเอกสารที่ทำขึ้นเองโดยไม่ใช่การออกจากสถาบันการเงิน สัญญาจึงตกเป็นโมฆะไปโดยปริยาย มหาวิทยาลัยจึงยกเลิกสัญญา แล้วจึงเดินหน้าหาผู้รับเหมารายใหม่ท่ามกลางความพยายามในการขัดขวาง จนกระทั่งได้ผู้รับเหมารายใหม่และสามารถเดินหน้าโครงการได้ในที่สุด
 

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น