นครศรีธรรมราช - ม.วลัยลักษณ์ เดินหน้าอีออกชันศูนย์การแพทย์มูลค่ากว่า 2 พันล้านตามแผนในวันที่ 3 กรกฎาคม 2558 ยันต้องเกิดประโยชน์ต่อชาวภาคใต้ตอนบนสูงสุด ขณะที่นายกสมาคมศิษย์เก่ากังวลกระบวนการถ่วงเวลา
วันนี้ (2 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้เร่งแก้ไขปัญหาศูนย์การแพทย์ที่เกิดปัญหาเมื่อปีกลาย จนต้องยกเลิกสัญญาจากเหตุการณ์การใช้เอกสารปลอมเข้าทำนิติกรรมสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง ขณะที่ผู้บริหารชุดรักษาการได้เข้าเร่งแก้ไขปัญหาโดยการจัดวางแผน หรือโรดแมปเงื่อนเวลาในกระบวนการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาทั้งภายใน และภายนอก เพื่อเข้าสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างขึ้นใหม่ โดยใช้วิธีประกวดราคาแบบวิธีอิเล็กทรอนิกส์ หรือที่เรียกว่า “อีออกชัน” โดยจะมีขึ้นในวันที่ 3 กรกฎาคม 2558 เพื่อหาผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหม่ที่จะเข้ามาก่อสร้างศูนย์การแพทย์มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท ให้เกิดขึ้นให้ได้ตามแผนงาน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการเรียนการสอนนักศึกษาแพทย์ รวมทั้งเป็นสถานพยาบาลที่จะกลายเป็นศูนย์กลางความเชี่ยวชาญของภาคใต้ตอนบน
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ก่อนที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์จะเดินหน้าจัดซื้อจัดจ้างโครงการก่อสร้างศูนย์การแพทย์ครั้งใหม่นี้ ได้มีกระบวนการทางกฎหมาย และสอบทานความถูกต้องของขั้นตอนไปที่สำนักงานอัยการสูงสุด ในเรื่องการหาผู้รับจ้างรายใหม่ และกรมบัญชีกลาง ในเรื่องการคำนวณราคากลางครั้งใหม่ รวมทั้งเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมบัญชีกลาง เนื่องจากงบประมาณที่ใช้ในการนี้ยังไม่ได้ถูกเบิกจ่ายออกไปยังคงอยู่ครบทั้งหมด และยังมีดอกเบี้ยที่ได้รับจากสถาบันการเงินของรัฐที่ดูแลระบบการเงินของมหาวิทยาลัย ซึ่งส่วนนี้มหาวิทยาลัยสามารถนำดอกผลไปบริหารจัดการได้อีก
สำหรับคดีปกครองที่บริษัทร่วมค้าผู้รับเหมารายเดิมได้ยื่นฟ้อง ม.วลัยลักษณ์ ต่อศาลปกครองนครศรีธรรมราช ในคดีหมายเลขดำที่ 6/2558 และในระหว่างที่มีการพิจารณาคดี ทางพีวีทีซึ่งเป็นผู้รับเหมายื่นขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษาคดี ขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ดำเนินการใดๆ เพื่อจัดหาผู้รับจ้างรายใหม่มาแทน และขอให้สัญญาจ้างที่มีเอกสารประกอบสัญญาไม่ชอบด้วยกฎหมายยังมีผลบังคับใช้ต่อไป โดยอ้างว่า เพื่อรักษาผลประโยชน์ของรัฐไม่ให้เกิดความเสียหาย
ต่อมา เมื่อวันที่ 10 เม.ย.58 ที่ผ่านมา ศาลได้มีคำสั่งให้ยกคำขอคุ้มครองชั่วคราวของกิจการร่วมค้า ผู้รับเหมาที่ถูกยกเลิกสัญญา ในขณะนี้เป็นหน้าที่โดยชอบธรรมของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ที่จะต้องดำเนินการก่อสร้างศูนย์การแพทย์ต่อไปให้แล้วเสร็จตามแผน และได้เล็งเห็นแล้วว่าหากศาลมีมาตรการ หรือสั่งให้มีการคุ้มครองชั่วคราวจะเกิดปัญหากระทบตามมาอีกมหาศาล
นายประสิทธิชัย หนูนวล นายกสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ระบุว่า ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จากการเฝ้ามองการเข้ามาในมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ของเจ้าหน้าที่องค์กรตรวจสอบรายหนึ่ง ซึ่งทุกคนรู้ดีว่าเป็นหน่วยงานไหน ทุกฝ่ายต่างเห็นตรงกันว่า เจ้าหน้าที่คนนี้มีความพยายาม และความตั้งใจในการตรวจสอบเรื่องการก่อสร้างศูนย์การแพทย์จนผิดสังเกต
“บุคคลคนเดียวกันยังเข้ามาอีกหลายครั้งด้วยท่าทีที่ไม่ควรปฏิบัติในสถานที่ราชการ จนพนักงานหลายคนในมหาวิทยาลัยรู้สึกอึดอัดต่อการกระทำเช่นนี้ และต่างเห็นตรงกันว่า เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และล่าสุด เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาได้มีหนังสือด่วนจากผู้อำนวยการต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่คนนี้ส่งมาถึงมหาวิทยาลัย ให้ทบทวนเรื่องการประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้างการก่อสร้างศูนย์การแพทย์ใหม่ เห็นว่าแล้วจะหยุด หรือทบทวนด้วยเหตุผลใด” นายกสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ กล่าว
นายกสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ยังให้ความเห็นส่วนตัวในเรื่องนี้อีกว่า เรื่องการเดินหน้าศูนย์การแพทย์ เป็นการดำเนินการตามอำนาจศาลก่อนหน้านี้แล้วว่า ให้เดินหน้าศูนย์การแพทย์ได้ในฐานะของประชาชนคนหนึ่งที่ต้องการให้เกิดศูนย์การแพทย์ และเป็นประโยชน์สาธารณะ ดังนั้น การดำเนินใดๆ ขององค์กรตรวจสอบทางการเงินแห่งนี้ต้องพิจารณาถึงอำนาจศาลด้วย มิฉะนั้น ทั้งหน่วยงานจะไม่มีความน่าเชื่อถือในสายตาคนทั่วไป แต่หากดำเนินการด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม ก็เป็นสิ่งที่ควรยกย่องชื่นชม
นายประสิทธิชัย หนูนวล นายกสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ระบุว่า ขอเรียกร้องให้ประชาคมใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจด้วยว่าการกระทำโดยการส่งหนังสือมาให้มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ทบทวนการจัดหาผู้รับจ้างก่อสร้างรายใหม่นี้ ผู้ออกหนังสือฉบับนี้คิดอะไรอยู่ ขออย่าทำลายความหวังของชาวภาคใต้ตอนบนที่จะได้มีโรงพยาบาลที่มีคุณภาพ เช่นเดียวกับโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ที่เป็นที่พึ่งของชาวภาคใต้ตอนล่าง ขออย่าทำลายความหวังของลูกหลานที่เป็นนักเรียนนักศึกษาที่มุ่งหวังที่ได้เข้าศึกษาต่อในสถาบันที่มีความพร้อมแห่งนี้ ข้าราชการที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดขอให้สำนึกว่า ท่านคือข้าราชการของพระราชา ประชาชนยังเชื่อมั่นในความเป็นคนดี