พัทลุง - โรงสีข้าวพัทลุงเกิดไฟไหม้ตู้อบที่มีข้าวเปลือกอยู่ภายในมีอยู่ประมาณ 30 ตัน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ เบื้องต้น คาดน่าจะเกิดจากความร้อนของมอเตอร์พัดลมที่อยู่ภายใน
วันนี้ (29 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.วิชัย ขวัญอ่อน ร้อยเวร สภ.เมือง จ.พัทลุง รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ในตู้อบข้าวโรงสีพิมพ์พรรณพาณิชย์ เลขที่ 33 หมู่ที่ 15 ต.ตำนาน อ.เมือง จ.พัทลุง จึงได้แจ้งขอสนับสนุนรถดับเพลิงเทศบาลเมืองพัทลุง จำนวน 2 คัน วิ่งไปฉีดน้ำดับเพลิงในที่เกิดเหตุ พบไฟกำลังลุกไหม้อยู่ในตู้อบข้าวเปลือก เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันฉีดน้ำด้านนอกเพื่อควบคุมความร้อน ก่อนที่จะเปิดตู้อบฉีดน้ำข้าวดับไฟที่ติดข้าวเปลือกอยู่ในตู้ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ข้าวเปลือกในตู้อบได้รับความเสียหายประมาณ 30 ตัน
นายจรุง ศรียวง อายุ 39 ปี เจ้าของโรงสีข้าวพิมพ์พรรณพาณิชย์ กล่าวว่า ขณะที่ตื่นนอนออกมาสำรวจดูความเรียบร้อยบริเวณโรงสีข้าว ก็พบว่า มีควันไฟพุ่งออกมาจากตู้อบที่มีข้าวเปลือกอบอยู่ในตู้ประมาณ 30 ตัน จึงแจ้งขอความช่วยเหลือไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจนำรถดับเพลิงมาฉีดน้ำดับไฟ เพื่อไม่ให้ลุกลามไฟไหม้ส่วนอื่น ซึ่งมีข้าวเปลือก และข้าวสารอยู่ในโรงสีประมาณ 700 ตัน
สำหรับข้าวเปลือก และข้าวสารที่เก็บไว้ในโรงสี เป็นข้าวเปลือกที่ลงทุนซื้อด้วยเงินกู้จากธนาคาร ไม่ใช่ข้าวเปลือกในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล เพราะก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2454-2555 โรงสีพิมพ์พรรณพาณิชย์ ก็เป็นสถานที่เก็บข้าวเปลือกในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล แต่หลังจากจบโครงการก็ไม่ได้ต่อสัญญากับองค์การคลังสินค้า กระทรวงพาณิชย์ ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ข้าวเปลือกเสียหาย และเครื่องอบข้าวที่ลงทุนติดตั้งระบบใหม่ราคาประมาณ 3 ล้านบาท ได้รับความเสียหาย น่าจะเกิดจากความร้อนของมอเตอร์พัดลมที่อยู่ภายใน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะเก็บรายละเอียดเพื่อตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงต่อไป