นราธิวาส - ปั๊มน้ำมันในสุไหงโก-ลก ประกาศปิดขานรับมติชมรมผู้ค้าน้ำมัน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เรียกร้อง อบจ.ยกเลิกข้อบัญญัติเก็บภาษีจากปั๊มน้ำมันในพื้นที่อย่างไม่เป็นธรรม
วันนี้ (13 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก จำนวน 3 ปั๊ม ประกาศปิดปั๊มตามมติของชมรมผู้ค้าน้ำมัน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ต้องการเรียกร้องให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยกเลิกการออกข้อบัญญัติเพื่อเก็บภาษีน้ำมันจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยบังคับให้ปั๊มบวกภาษีที่จะนำส่งให้แก่ อบจ.เข้าไปในราคาหน้าปั๊ม และให้ทุกปั๊มนำส่งภาษีที่บวกกับราคาหน้าปั๊มให้แก่ อบจ.ทุกเดือน
นางอรุณ เภาทอง ผู้ประกอบการปั๊มน้ำมัน บริษัท ทีซีเอสออยด์คอนสตรัคชั่น จำกัด อ.สุไหงโก-ลก กล่าวว่า ประเด็นสำคัญคือ เป็นการจัดเก็บภาษีที่ไม่เป็นธรรม เอาเปรียบผู้ใช้น้ำมันรายย่อย โดยไม่ได้เก็บกับผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่ประเภทโรงงานอุตสาหกรรม หรือบริษัทขนส่งขนาดใหญ่ ที่สั่งซื้อน้ำมันโดยตรงจากคลังน้ำมันซึ่งเป็นการเลือกปฏิบัติ โดยเป็นการซ้ำเติมผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่ จนไม่สามารถยอมรับข้อบัญญัติดังกล่าวได้
ทั้งนี้ ยืนยันจะปิดให้บริการอย่างต่อเนื่องไปอย่างไม่มีกำหนดจนกว่า อบจ.จะยกเลิกการจัดเก็บภาษีที่ไม่เป็นธรรม ที่ผ่านมา ปั๊มน้ำมันในจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ได้รับความเดือดร้อนมากอยู่แล้ว ทั้งความเสี่ยงจากผู้ก่อความไม่สงบ อีกทั้งปั๊มที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศมาเลเซีย ต้องตกอยู่ในภาวะซบเซาตลอดหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากประชาชนในพื้นที่แห่ไปใช้น้ำมันจากประเทศมาเลเซียที่มีราคาถูกกว่ามาก เมื่อถูกกระทำเช่นนี้จากผู้บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงรับไม่ได้
ด้าน นายดอรอแม จาเวาะ ผู้ให้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะ บริษัท ปัตตานีขนส่ง จำกัด ที่ให้บริการรถตู้โดยสารสุไหงโก-ลก-ยะลา และสุไหงโก-ลก-ปัตตานี ระบุว่า เมื่อปั๊มน้ำมันในพื้นที่ปิดให้บริการอย่างนี้ หากปิดแค่วันเดียวก็ไม่มีผลกระทบอะไร แต่หากปิดในระยะยาวก็จะส่งผลกระทบการภาคบริการ และขนส่งทั้งระบบ จึงอยากวิงวอนให้ทุกฝ่ายเจรจาเพื่อหาข้อสรุปในเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด เพื่อให้ปั๊มน้ำมันใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กลับมาเปิดให้บริการตามปกติโดยเร็ว
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ไปติดตามบรรยากาศตามปั๊มน้ำมันในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก พบว่า ทุกปั๊มปิดให้บริการทั้งหมด โดยมีรถของส่วนราชการ และประชาชนมาจอดอยู่บริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน เพื่อรอเติมน้ำมัน เนื่องจากยังไม่ทราบว่าจะมีการปิดปั๊มน้ำมันในวันนี้ ส่งผลให้หลายคนที่ออกมาเติมน้ำมันเพื่อเตรียมเดินทางไกลต้องปรับแผน ซึ่งบางรายหันไปเติมน้ำมันของประเทศเพื่อนบ้าน แต่บางรายที่ไม่กล้าเสี่ยงเติม เพราะกลัวรถจะเสียหายก็ต้องยกเลิกกำหนดการที่วางไว้