ชุมพร - ผบ.หมู่ กองร้อย ตชด.414 ชุมพร ค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ ชุมพร เครียดเป็นหนี้กว่าล้านบาทกู้มารักษาภรรยาที่เป็นะเร็งเม็ดเลือดขาว ตัดสินใจปลิดชีพด้วยการยิงขมับดับคาสวนปาล์ม
เมื่อเวลา 22.00 น.วานนี้ (10 ก.ค.) ร.ต.ท.พงศธร พิชิตชลพันธุ์ พงส.สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งพบศพคนถูกยิงเสียชีวิตที่สวนปาล์มน้ำมันข้างบ้านเลขที่ 26/3 หมู่ 6 ตำบลหาดพันไกร อ.เมืองจ.ชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร พ.ต.ท.วัชระ เผือกจันทร์ สวป. ตำรวจวิทยาการ กำลังตำรวจสายตรวจ สายสืบ แพทย์โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ หน่วยกู้ภัยสายชลมูลนิธิชุมพร
ทีเกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมันอยู่ห่างจากบ้านหลังดังกล่าวประมาณ 60 เมตร พบศพผู้เสียชีวิตนอนตะแคงจมกองเลือดอยู่บนโซฟานั่งเล่นใต้โคนต้นปาล์ม ทราบชื่อคือ ด.ต.สมชาย อ่ำกอง อายุ 44 ปี สภาพศพนุ่งกางเกงยีนส์ขายาว สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีเทา ใส่รองเท้ายางหุ้มส้น ถูกยิงที่ขมับซ้ายทะลุขมับขวา 1 นัด ที่ปลายเท้าบนโซฟาพบซองปืนวางอยู่ ส่วนบนพื้นดินใกล้กับศีรษะมีปืนยี่ห้อกล็อกขนาด 9 มม.ตกอยู่ 1 กระบอก ในลำเพลิงมีกระสุนคาอยู่ 1 นัด และอยู่ในแมกกาซีนอีก 11 นัด ใกล้กันพบปลอกกระสุนยิงแล้ว 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ด.ต.สมชาย อ่ำกอง เป็น ผบ.หมู่ กองร้อย ตชด.414 ชุมพร ค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ เพิ่งจะกลับจากปฏิบัติหน้าที่ดูแลสวนป่าในพื้นที่ตำบลสลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร มาอยู่ที่บ้านหลังใกล้ที่เกิดเหตุ ส่วนภรรยามีโรคประจำตัว (มะเร็งในเม็ดเลือดขาว) นอนรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ โดยที่ผ่านมา ด.ต.สมชาย ซึ่งเป็นคนรักภรรยามากได้ไปกู้เงินเป็นหนี้กว่า 1 ล้านบาท เพื่อนำเงินมารักษาภรรยาที่ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลอยู่เป็นระยะๆ ทำให้เกิดอาการเครียด ก่อนเกิดเหตุ ด.ต.สมชาย ได้นำปืนพกสั้นติดตัวออกจากบ้านหายตัวไปตั้งแต่ช่วงเย็นแล้วไม่กลับเข้าบ้าน จนกระทั่งญาติๆ ออกตามหาไปพบกลายเป็นศพยิงตัวเองเสียชีวิตอยู่บนโซฟาใต้โคนต้นปาล์มใกล้บ้านหลังดังกล่าว
เบื้องต้น ตำรวจสันนิษฐานว่า ด.ต.สมชาย คงจะเกิดอาการเครียดเรื่องภรรยาที่มีโรคประจำตัวรักษาไม่หายขาดต้องหาเงินมารักษาจนเป็นหนี้สินกว่า 1 ล้านบาท ด้วยความเครียดจึงออกจากบ้านไปนั่งอยู่บนโซฟานั่งเล่นใต้โคนต้นปาล์มข้างบ้าน แล้วตัดสินใจจ่อยิงขมับตัวเองจนเสียชีวิตดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ส่งศพไปผ่าชันสูตรที่โรงพยาบาล ซึ่งญาติๆ ไม่ติดใจ จึงมอบศพให้นำกลับไปบำเพ็ญกุลตามประเพณีต่อไป
