ผู้ประกอบการลานเทปาล์มชุมพร ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ให้ทบทวนประกาศรับซื้อปาล์ม

ชุมพร - ผู้ประกอบการลานเทรับซื้อปาล์มน้ำมัน ชาวสวน ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ทบทวนประกาศรับซื้อผลผลิตที่ไม่ชัดเจน ทำให้เดือดร้อนหนัก

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (1 ก.ค.) ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดชุมพร ผู้ประกอบการลานเทปาล์มน้ำมันจังหวัดชุมพร เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้รัฐบาลทบทวนประกาศ เรื่องการเปลี่ยนวิธีการรับซื้อผลปาล์มทะลายตามคุณภาพมาตรฐานที่มีเปอร์เซ็นต์น้ำมันไม่ต่ำกว่า 17% ที่ออกโดยคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ พร้อมกับเสนอขอมีส่วนร่วมในการกำหนด พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมัน และน้ำมันปาล์มของสภาเกษตรกรแห่งชาติ เนื่องจากมีผลกระทบต่อการบริหารจัดการปาล์มน้ำมันทั้งระบบ การยื่นหนังสือฉบับดังกล่าวมี นายทิวา ปานจันทร์ นายกสมาคมผู้ประกอบการลานเทปาล์มน้ำมันจังหวัดชุมพร เป็นผู้ยื่นผ่าน นายวงศศิริ พรหมชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

นายทิวา ปานจันทร์ นายกสมาคมผู้ประกอบการลานเทปาล์มน้ำมันจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า ด้วยประกาศคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2558 เรื่องการเปลี่ยนวิธีการรับซื้อผลปาล์มทะลายตามคุณภาพมาตรฐานที่มีเปอร์เซ็นต์น้ำมันไม่ต่ำกว่า17% โดยกำหนดให้โรงงานสกัดน้ำมัน และลานเทรับซื้อผลปาล์มทะลายและผลปาล์มร่วงจากเกษตรกรในราคาเดียว ในอัตราน้ำมันร้อยละ 17% ราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 4.20 บาทและถ้าผลปาล์มทะลายที่นำมาขายมีเปอร์เซ็นต์น้ำมันสูงกว่า 17% ซึ่งทุก 1% ที่เพิ่มขึ้นจะได้ราคาเพิ่มขึ้นอีกกิโลกรัมละ 0.30 บาท ในขณะที่ผลปาล์มมีเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มต่ำกว่า 17% ทุก 1 % ราคาลดลงกิโลกรัมละ 0.25 บาท จากประกาศดังกล่าวทางสมาคมผู้ประกอบการลานเทปาล์มน้ำมันจังหวัดชุมพร ได้พิจารณาแล้วมีความเห็นว่าวิธีการดังกล่าวเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง เพราะไม่มีเครื่องมือวัดมาตรฐานของเปอร์เซ็นต์น้ำมันที่ชัดเจน และแนวทางที่ปฏิบัติในปัจจุบันนั้น ทางโรงงาน และผู้ซื้อใช้การประเมินด้วยสายตา และความรู้สึกเท่านั้น ไม่มีหลักวิทยาศาสตร์รับรองจนก่อให้เกิดช่องว่าง และการเอารัดเอาเปรียบ ทำให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มเสียผลประโยชน์ อีกทั้งทางสมาคมไม่สามารถรับซื้อผลปาล์มตามวิธีดังกล่าวได้

โดยทางสมาคมผู้ประกอบการลานเทปาล์มน้ำมันจังหวัดชุมพร ได้มีข้อเสนอว่าถึงรัฐบาลให้ทบทวนประกาศเรื่องการเปลี่ยนวิธีการรับซื้อผลปาล์มทะลายตามคุณภาพมาตรฐานที่มีเปอร์เซ็นต์น้ำมันไม่ตำกว่า 17% โดยให้กำหนดวิธีการพร้อมรายละเอียดในการรับซื้อผลปาล์มที่ชัดเจนมากกว่านี้ และให้แจ้งกลับมายังสมาคมฯ ภายใน 15 วัน หากพ้นกำหนดวันเวลาดังกล่าวยังไม่ได้รับคำตอบที่สามารถปฏิบัติตามได้ ทางสมาคมฯ จะมีมาตรการขั้นต่อไป นอกจากนี้ สมาคมฯ ยังเสนอในเรื่องของการร่าง พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มของสภาเกษตรกรแห่งชาติ ซึ่งมีผลกระทบต่อการบริหารจัดการปาล์มน้ำมันทั้งระบบ ทางสมาคมฯ ขอมีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตของตัวเอง ด้วยการมีตัวแทนของผู้ประกอบการลานเทในการร่าง พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวด้วย