นราธิวาส - ราคาอาหารทะเล อ.สุไหงโก-ลก ปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 20 บาทต่อกิโลกรัม หวั่นปัญหายืดเยื้อจะกระทบผู้บริโภคมากขึ้น
วันนี้ (10 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีมาตรการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบเรือประมงผิดกฎหมาย ทำให้เรือประมงส่วนหนึ่งที่ยังไม่ได้จัดทำเอกสารต่างหยุดเดินเรือประมงชั่วคราว ซึ่งล่าสุด ได้ส่งผลกระทบต่อราคาอาหารทะเลในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยมีการขยับราคาสูงขึ้น
นายซอและ หวังขเดช พ่อค้าจำหน่ายอาหารทะเลสดริมทางรถไฟ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส กล่าวว่า ในช่วงนี้อาหารทะเลหายาก และมีจำนวนจำกัด ในช่วงแรกที่ชาวประมงหยุดเดินเรือ ตนเองต้องปิดร้านตามไปด้วย เพราะไม่มีสินค้ามาจำหน่ายให้แก่ลูกค้า ส่วนในช่วงนี้ได้รับปลา และอาหารทะเลชนิดต่างๆ จากกลุ่มชาวประมงพื้นที่บ้านในพื้นที่ อ.ตากใบ มาจำหน่ายทดแทนไปก่อน
โดยสินค้าก็มีจำกัดไม่หลากหลายเหมือนการซื้อจากเรือประมงพาณิชย์ ซึ่งเมื่อราคาที่รับซื้อมามีการปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ต้องมีการปรับราคาจำหน่ายแบบปลีกตามไปด้วย โดยราคาที่ปรับขึ้นอยู่ที่กิโลกรัมละ 10-20 บาท โดยปลาทู จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 170 บาท ปลากะพง ราคากิโลกรัมละ 190-200 บาท ทั้งนี้ ยังกังวลว่าหากยังมีปัญหาต่อไปในระยะยาวก็จะทำให้ราคาอาหารทะเลที่เป็นรายได้หลักของทางร้านจะปรับตัวสูงขึ้นมากกว่านี้ จนกระทบไปถึงผู้บริโภคด้วย
ด้าน นางลดาวัลย์ นุชถาวร ชาวบ้านในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ที่มาซื้ออาหารทะเลกล่าวว่า ปกติจะออกมาซื้ออาหารทะเลไปรับประทานสัปดาห์ละครั้ง แต่ละครั้งจะซื้อไปเป็นจำนวนมาก เพื่อเก็บไว้ประกอบอาหารตลอดสัปดาห์ ซึ่งเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างนี้ก็ต้องปรับลดปริมาณการซื้อ และเปลี่ยนไปบริโภคเนื้อสัตว์ประเภทอื่นแทน เพราะคงสู้ราคาไม่ไหวหากต้องซื้ออาหารทะเลในราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 20 บาท
ขณะที่ นายอิบราเฮง ตะดียามู ชาวบ้านจาก จ.ปัตตานี กล่าวว่า ในช่วงนี้อาหารทะเลมีจำนวนจำกัดสวนทางต่อความต้องการของผู้บริโภคที่มีความต้องการซื้อสูงในช่วงเดือนรอมฎอน ซึ่งราคาจำหน่ายที่ปรับตัวสูงขึ้นกระทบต่อประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาทางออกในเรื่องดังกล่าวโดยเร็วที่สุด