บุรีรัมย์ - พิษรัฐบาลจัดระเบียบเรือประมงผิดกฎหมายดีเดย์วันนี้ส่งผลสะเทือนถึงแดนอีสานทันควัน ล่าสุดราคาอาหารทะเลสดบุรีรัมย์พุ่งสูง ก.ก.ละ 10-20 บาท และอาหารทะเลหลายชนิดมีปริมาณลดลง ระบุหากหยุดส่งอาหารทะเล 4 ก.ค.ไม่มีกำหนดกระทบพ่อค้าแม่ค้าต้องปิดร้านแน่
วันนี้ (1 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากรัฐบาลออกมาตรการจัดระเบียบเรือประมงผิดกฎหมาย โดยเริ่มดีเดย์ในวันนี้ (1 กรกฎาคม 2558) เป็นวันแรก ส่งผลให้เรือประมงจอดลอยลำแล้วเป็นจำนวนมาก ขณะที่บางส่วนทยอยกลับเข้าฝั่งนั้น จากกรณีดังกล่าวเริ่มส่งผลกระทบต่อพ่อค้าแม่ค้าจำหน่ายอาหารทะเลสดในตลาดสดเทศบาลเมืองบุรีรัมย์แล้ว
โดยล่าสุดขณะนี้ราคาอาหารทะเลได้ปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ยกิโลกรัมละ 10-20 บาท เช่น ปลาหมึกสดเดิมกิโลกรัมละ 150 บาทปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 160 บาท, ปู เดิมกิโลกรัมละ 160 บาทเพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 180 บาท, หอยลาย และหอยแครง เดิมกิโลกรัมละ 60 บาทปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 80 บาท แต่ยังต้องขายให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร และประชาชนที่ซื้อไปบริโภคในราคาเดิมอยู่เพราะยังไม่ได้แจ้งล่วงหน้าว่าจะปรับขึ้นราคา
ทำให้พ่อค้าแม่ค้าต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้น และขณะนี้เริ่มมีอาหารทะเลบางชนิด เช่น ปู มีปริมาณลดลงแล้วเนื่องจากเรือประมงไม่กล้าออกเรือไปหาปลาเกรงจะถูกจับกุม
ขณะที่ผู้ประกอบการขายส่งอาหารทะเลได้แจ้งมาแล้วว่าในวันที่ 4 ก.ค. 2558 นี้จะหยุดส่งอาหารทะเลโดยไม่มีกำหนด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพ่อค้าแม่ค้าไม่มีอาหารทะเลขาย และอาจต้องปิดร้านตามไปด้วยเช่นกัน
นางวรรณ อภัยนอก อายุ 40 ปี และ นางอ้อย คำนอก อายุ 48 ปี แม่ค้าขายอาหารทะเลสดในตลาดสดเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ขณะนี้อาหารทะเลเกือบทุกชนิดได้ปรับราคาสูงขึ้นเฉลี่ยกิโลกรัมละ 10-20 บาทแล้ว แต่ยังต้องขายในราคาเดิมเพราะไม่ได้แจ้งลูกค้าล่วงหน้า แต่หากปรับขึ้นสูงกว่านี้จำเป็นต้องปรับราคาขายขึ้นตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางผู้ประกอบการขายส่งอาหารทะเลที่ตลาดมหาชัยได้แจ้งมาแล้วว่าจะหยุดส่งอาหารทะเลในวันที่ 4 ก.ค.โดยไม่มีกำหนด ซึ่งหากหยุดจริงจะส่งผลกระทบต่อแม่ค้าขายอาหารทะเลอย่างแน่นอน จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร็วด้วย ก่อนที่จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง