ตรัง - เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงใส่เด็กวัย 15 ปี ชาวจังหวัดตรังเสียชีวิต หลังผู้ตายเคยถูกขู่ฆ่าเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา โดยถูกกล่าวหาว่า เป็นคนขโมยยางพารา จำนวน 11 กิโลกรัม ของเจ้าของสวนบริเวณนั้น
เมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท.อัทธ์ ไพสาลี ร้อยเวร สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเหตุมีคนโดนยิงเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 150/3 ม.6 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ภูมิ บาลทิพย์ รอง ผกก. (ป.) สภ.เมืองตรัง พ.ต.ต.สิทธินันท์ พันธ์คีรี สวป.สภ.เมืองตรัง พร้อมชุดสืบ และประสานไปยังเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตรัง แพทย์เวรโรงพยาบาลตรัง เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลสถานตรัง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านอิฐชั้นเดียว ซึ่งเป็นบ้านที่สำนักงานกาชาดจังหวัดตรัง สร้างขึ้นเพื่อมอบให้แก่ผู้ยากไร้ด้อยโอกาส เพื่ออยู่อาศัย มีนางโอน สุดรักษ์ อายุ 58 ปี เป็นเจ้าของ จากการตรวจสอบพบรอยเลือดกองใหญ่อยู่บริเวณประตูบ้าน พร้อมหมอนรองกระสุนปืน 3 ชิ้น ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้เสียชีวิตคือ นายวุฒิชัย งวดงาม อายุ 15 ปี ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้
สอบถาม นางโอน สุดรักษ์ เจ้าของบ้าน กล่าวว่า บ้านดังกล่าวตนอาศัยอยู่กับนายวุฒิชัย หลานชายเพียง 2 คน ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตน และหลานชายคือ นายวุฒิชัย ผู้ตายกำลังดูทีวีอยู่ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงสุนัขเห่า แต่ตนก็ไม่ได้สนใจอะไร หลังดูละครจบตนก็กำลังจะเข้านอน ส่วนนายวุฒิชัย ก็นั่งเล่นอยู่กับสุนัขบริเวณประตูหน้าบ้าน จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ตนก็ออกมาดูปรากฏว่า เห็นหลานชายคือ นายวุฒิชัย นอนจมกองเลือด กระสุนปืนยิงเข้าบริเวณใต้ราวนมซ้ายเสียชีวิตทันที ตนก็วิ่งไปกอดร่างของหลานไว้ และจากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด แต่ไม่โดนผู้ใด ก่อนที่คนร้ายจะขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
นางโอน ผู้เป็นยายของผู้ตาย กล่าวว่า ผู้ตายเคยถูกขู่ฆ่ามาเมื่อประมาณ 2-3 วันที่ผ่านมา เนื่องจากถูกกล่าวหาว่า ผู้ตายเป็นคนขโมยยางพาราของเจ้าของสวนบริเวณนั้น จำนวน 11 กิโลกรัม แต่ก็ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าผู้ตายเป็นคนขโมยหรือไม่ ซึ่งหากหลานตนทำจริงตนก็ยินดีจะชดใช้ค่าเสียหายให้ แต่เจ้าของสวนดังกล่าวกลับบอกว่าไม่ต้องการการชดใช้ใดๆ พร้อมขู่ว่าจะยิงให้ตาย มาถึงวันนี้หลานตนก็ถูกยิงจริงๆ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุน่าจะเป็นปืนลูกซองยาว โดยจะเร่งสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง และติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป