สุราษฎร์ธานี - หน.อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น เผยยึดคืนพื้นที่ที่นายทุนถือครองกว่า 1.4 พันไร่ มีพื้นที่ต้องสงสัยว่ามีการกระทำผิดอีกกว่า 4 หมื่นไร่ ขณะที่ผู้บุกรุกนั้นมีทั้งนายทุนกลุ่มผู้มีอิทธิพล รวมถึงชาวบ้านบางรายที่มี จนท.รัฐชักใยเบื้องหลัง
นายพิเชษฐ์ ชัยสวัสดิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น จ.สุราษฏร์ธานี เปิดเผยว่า ได้มีการประชุมคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น ที่ห้องประชุมอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น (น้ำตกดาดฟ้า) ต.ลำพูน อ.บ้านนาสาร เพื่อรับทราบถึงสถานการณ์ ปัญหา และอุปสรรคต่างๆ รวมถึงสถิติการจับกุมตามโครงการป้องกันปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น
ทั้งนี้ สถิติการจับกุมเพื่อรื้อถอนพืชผลอาสินในเขตอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็นนั้น ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งคดีได้สิ้นสุดลงแล้ว สามารถรื้อถอนพืชผลอาสินเพื่อยึดครองพื้นที่คืนให้แก่อุทยานฯ ได้จำนวน 1,485.69ไร่ ดำเนินคดีเสร็จสิ้นไปแล้วกว่า 150 คดี ขณะที่พื้นที่เป้าหมายที่แจ้งความดำเนินคดีแล้ว และอยู่ในระหว่างกระบวนการยุติธรรม และติดตามผลคดี หรือรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมคิดเป็นพื้นที่ 122.24 ไร่ และพื้นที่เป้าหมายต้องสงสัยว่ามีการกระทำผิด และอยู่ระหว่างการตรวจสอบและเจรจา จำนวน 43,713.28 ไร่ โดยพื้นที่รับผิดชอบของอุทยานฯ ในส่วนที่เหลือ และยังคงสภาพป่าที่ต้องป้องกันไม่ให้มีการบุกรุกมีจำนวน 220,303.79 ไร่
นายพิเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ปัญหาภัยคุกคามจากการลักลอบบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า นับวันยิ่งทวีความรุนแรง และเป็นปัญหาที่สั่งสมกันมาเป็นระยะเวลานาน ซึ่งได้สร้างความเสียหายต่อความสมดุลทางธรรมชาติ และระบบนิเวศเกิดปัญหาฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล เกิดอุทกภัย ดินโคลนถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก โดยผู้บุกรุกนั้นมีทั้งนายทุนกลุ่มผู้มีอิทธิพล รวมถึงชาวบ้าน ซึ่งบางรายมีเจ้าหน้าที่รัฐคอยบงการอยู่เบื้องหลัง
สำหรับอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็นนั้น ครอบคลุมพื้นที่ตำบลช้างซ้าย อำเภอกาญจนดิษฐ์ ตำบลทุ่งเตา ตำบลลำพูน ตำบลพรุพี อำเภอบ้านนาสาร และตำบลบ้านส้อง อำเภอเวียงสระ โดยมีเนื้อที่ประมาณ 425 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 265,625 ไร่ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม เช่น น้ำตกดาดฟ้า ถ้ำขมิ้น ซึ่งเป็นถ้ำที่ใหญ่ที่สุดของภาคใต้ น้ำตกเหมืองทวด โครงการจุฬาภรณ์พัฒนา 8 ซึ่งมีทัศนียภาพอยู่บนภูเขาสูงสวยงาม
นายพิเชษฐ์ ชัยสวัสดิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น จ.สุราษฏร์ธานี เปิดเผยว่า ได้มีการประชุมคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น ที่ห้องประชุมอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น (น้ำตกดาดฟ้า) ต.ลำพูน อ.บ้านนาสาร เพื่อรับทราบถึงสถานการณ์ ปัญหา และอุปสรรคต่างๆ รวมถึงสถิติการจับกุมตามโครงการป้องกันปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น
ทั้งนี้ สถิติการจับกุมเพื่อรื้อถอนพืชผลอาสินในเขตอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็นนั้น ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งคดีได้สิ้นสุดลงแล้ว สามารถรื้อถอนพืชผลอาสินเพื่อยึดครองพื้นที่คืนให้แก่อุทยานฯ ได้จำนวน 1,485.69ไร่ ดำเนินคดีเสร็จสิ้นไปแล้วกว่า 150 คดี ขณะที่พื้นที่เป้าหมายที่แจ้งความดำเนินคดีแล้ว และอยู่ในระหว่างกระบวนการยุติธรรม และติดตามผลคดี หรือรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมคิดเป็นพื้นที่ 122.24 ไร่ และพื้นที่เป้าหมายต้องสงสัยว่ามีการกระทำผิด และอยู่ระหว่างการตรวจสอบและเจรจา จำนวน 43,713.28 ไร่ โดยพื้นที่รับผิดชอบของอุทยานฯ ในส่วนที่เหลือ และยังคงสภาพป่าที่ต้องป้องกันไม่ให้มีการบุกรุกมีจำนวน 220,303.79 ไร่
นายพิเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ปัญหาภัยคุกคามจากการลักลอบบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า นับวันยิ่งทวีความรุนแรง และเป็นปัญหาที่สั่งสมกันมาเป็นระยะเวลานาน ซึ่งได้สร้างความเสียหายต่อความสมดุลทางธรรมชาติ และระบบนิเวศเกิดปัญหาฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล เกิดอุทกภัย ดินโคลนถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก โดยผู้บุกรุกนั้นมีทั้งนายทุนกลุ่มผู้มีอิทธิพล รวมถึงชาวบ้าน ซึ่งบางรายมีเจ้าหน้าที่รัฐคอยบงการอยู่เบื้องหลัง
สำหรับอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็นนั้น ครอบคลุมพื้นที่ตำบลช้างซ้าย อำเภอกาญจนดิษฐ์ ตำบลทุ่งเตา ตำบลลำพูน ตำบลพรุพี อำเภอบ้านนาสาร และตำบลบ้านส้อง อำเภอเวียงสระ โดยมีเนื้อที่ประมาณ 425 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 265,625 ไร่ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม เช่น น้ำตกดาดฟ้า ถ้ำขมิ้น ซึ่งเป็นถ้ำที่ใหญ่ที่สุดของภาคใต้ น้ำตกเหมืองทวด โครงการจุฬาภรณ์พัฒนา 8 ซึ่งมีทัศนียภาพอยู่บนภูเขาสูงสวยงาม