รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง สั่งล้อมคอกปัญหารถไฟชนกับรถชนิดต่างๆ บริเวณถนนตัดผ่านทางรถไฟที่ไม่มีเครื่องกั้น เผยปีนี้เกิดอุบัติเหตุมาแล้วหลายครั้ง ย้ำทุกฝ่ายต้องเร่งหามาตรการป้องกันขั้นสูงสุดตรัง -
วันนี้ (19 มิ.ย.) นายทรงพล ใจกริ่ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า ทางจังหวัดได้วางมาตรการป้องกันอุบัติรถไฟชนกับรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ บริเวณถนนตัดผ่านทางรถไฟ หรือทางลักผ่านที่ไม่มีเครื่องกั้น ด้วยการเสนอให้ทำการติดตั้งสัญญาณไฟกะพริบ และติดตั้งเนินสะดุด หรือลูกระนาดเพื่อเตือนให้รถที่ผ่านไปมาชะลอความเร็ว พร้อมจัดการตัดแต่งต้นไม้เพื่อให้มีทัศนวิสัยในการมองเห็นขบวนรถไฟได้อย่างน้อย 60 เมตร ตลอดจนติดตั้งแผงล้อเลื่อนที่สามารถปิดกั้นเมื่อรถไฟวิ่งผ่าน เพื่อสร้างความปลอดภัยให้เกิดขึ้นมากที่สุด โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละแห่งที่มีจุดตัดทางรถไฟจัดเจ้าหน้าที่ หรืออาสาสมัครไปปฏิบัติหน้าที่เลื่อนแผงล้อเลื่อนดังกล่าวเมื่อขบวนรถไฟวิ่งผ่าน
เนื่องจากในปัจจุบันนี้ผู้ที่ขับรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์มักจะใจลอย รวมทั้งมีการใช้โทรศัพท์มือถือพูดคุย รับส่งข้อมูล หรือฟังเพลง โดยไม่สังเกตจุดตัดทางรถไฟ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุมาแล้วหลายครั้งในปี 2558 เช่น วันที่ 25 มีนาคม เหตุเกิดที่ ต.ลำภูรา อ.ห้วยยอด ระหว่างรถไฟขบวนรถด่วนที่ 83 กรุงเทพฯ-ตรัง กับรถยนต์ ทำให้คนขับได้รับบาดเจ็บ ถัดมาวันที่ 26 มีนาคม เหตุเกิดที่ ต.ควนปริง อ.เมือง ระหว่างรถไฟขบวนรถเร็วที่ 167 กรุงเทพฯ-กันตัง ทำให้คนขับเสียชีวิต และล่าสุด เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน เหตุเกิดที่ ถ.พาดคลองน้ำเจ็ด ในเขตเทศบาลนครตรัง ระหว่างรถไฟขบวนรถเร็วที่ 168 กันตัง-กรุงเทพฯ กับรถจักรยานยนต์ ทำให้คนขับเสียชีวิต ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ไม่น่าสูญเสีย และสามารถป้องกันได้
โดยเฉพาะจุดตัดทางรถไฟบริเวณ ถ.พาดคลองน้ำเจ็ด เป็นถนนทางหลวงแผ่นดินที่มีปริมาณรถวิ่งผ่านไปมาวันละหลายหมื่นคัน เพราะเป็นเส้นทางไปยังสนามบินตรัง ไปท่าเรือกันตัง สถานที่ราชการ สถาบันการศึกษา และห้างสรรพสินค้า แต่กลับไม่มีเครื่องกั้นรถ ทั้งๆ ที่มีรถไฟวิ่งผ่านวันละ 2 ขบวน คือ ขบวนรถเร็วที่ 167 และ 168 ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ดังนั้น จากนี้ไปทางจังหวัดจึงต้องขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย เทศบาลนครตรัง แขวงการทางตรัง และทางหลวงชนบทจังหวัดตรัง ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งที่มีขบวนรถไฟวิ่งผ่าน ให้รีบเร่งดำเนินการหามาตรการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุโดยทางรถไฟในขั้นสูงสุดต่อไป
