ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ต จัดลงนามในบันทึกข้อตกลง “การลดใช้ถุงพลาสติกของห้างสรรพสินค้า ห้าง ร้าน” เพื่อแสวงหาความร่วมมือในการร่วมกันแก้ปัญหาวิกฤตขยะมูลฝอย
เมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ (17 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมศูนย์ประชุมกลุ่มจังหวัดอันดามัน ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต โดย นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายสุธี ทองแย้ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บริษัท ห้างร้านต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงเพื่อความร่วมมือ (MOU) เรื่อง การลดใช้ถุงพลาสติกของห้างสรรพสินค้า ห้าง ร้าน
นายณัฐกฤชญ์ พลเพชร ผู้อำนวยการส่วนสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการจัดให้มีพิธีลงนามในบันทึกดังกล่าว ว่า จากการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีมติเห็นชอบแนวทางการดำเนินการตาม Roadmap การจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย ตามที่กรมควบคุมมลพิษเสนอ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2557 และจังหวัดภูเก็ต ถูกกำหนดให้เป็นจังหวัดนำร่องในเรื่องการสร้างรูปแบบการจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตรายที่เหมาะสม (การจัดการขยะมูลฝอยแบบใหม่) โดยเน้นการลด และคัดแยกขยะมูลฝอยตั้งแต่ต้นทาง การจัดการขยะมูลฝอยแบบศูนย์รวม
และจังหวัดภูเก็ตได้กำหนดให้เรื่องการจัดการขยะมูลฝอยเป็นวาระเร่งด่วนของจังหวัด ที่จะต้องดำเนินการให้เห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ประกอบกับรัฐบาลได้มีนโยบายในการส่งเสริมการท่องเที่ยว และกำหนดให้จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดหนึ่งที่จะต้องรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้มีปริมาณขยะมูลฝอยเพิ่มมากขึ้นทุกปี แม้ว่าจะได้มีการรณรงค์ในเรื่องการลดและคัดแยกไปยังทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง แต่แนวโน้มอัตราการเพิ่มของปริมาณขยะยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบัน อัตราการเพิ่มของขยะมูลฝอยอยู่ที่ร้อยละ 7 ต่อปี และมีปริมาณขยะเฉลี่ย 750 ตันต่อวัน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องลดอัตราการเพิ่มขึ้นของขยะมูลฝอยลงให้ได้ แต่ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวจะสำเร็จได้ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง เพื่อให้จังหวัดภูเก็ต เป็นเมืองที่มีความสะอาด สวยงาม รองรับการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนตลอดไป
จังหวัดภูเก็ตได้เล็งเห็นว่า ห้างสรรพสินค้า ห้าง ร้านขนาดใหญ่ต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วทั้งเกาะเป็นองค์กรที่มีความสำคัญที่จะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนการดำเนินงานตาม Roadmap การจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย โดยเฉพาะการลด และคัดแยกขยะมูลฝอยตั้งแต่ต้นทาง การลดการใช้ถุงพลาสติก ตลอดจนการนำขยะมูลฝอยไปใช้ประโยชน์ หรือทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อลดอัตราการเพิ่มขึ้นของขยะมูลฝอยลงให้ได้
ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินงานเรื่องการลด คัดแยกขยะมูลฝอย และการลดใช้ถุงพลาสติกของห้างสรรพสินค้า ห้าง ร้านเห็นผลเป็นรูปธรรม มีการปฏิบัติที่ชัดเจน และมีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจแก่ผู้มาใช้บริการในห้างสรรพสินค้า ห้าง ร้าน จึงได้มีข้อตกลงเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาคราชการ และภาคเอกชนในการร่วมกันแก้ปัญหาวิกฤตขยะมูลฝอย เพื่อรณรงค์การลด คัดแยกขยะมูลฝอยและการลดใช้ถุงพลาสติก ของห้างสรรพสินค้าทุกแห่งในจังหวัดภูเก็ต และเพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์ และเสริมสร้างจิตสำนึกที่ดีแก่ผู้ที่มาจับจ่ายสินค้า และประชาชนทั่วไปในการปฏิเสธถุงพลาสติก นายณัฐกฤชญ์ กล่าวในที่สุด
เมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ (17 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมศูนย์ประชุมกลุ่มจังหวัดอันดามัน ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต โดย นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายสุธี ทองแย้ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บริษัท ห้างร้านต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงเพื่อความร่วมมือ (MOU) เรื่อง การลดใช้ถุงพลาสติกของห้างสรรพสินค้า ห้าง ร้าน
นายณัฐกฤชญ์ พลเพชร ผู้อำนวยการส่วนสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการจัดให้มีพิธีลงนามในบันทึกดังกล่าว ว่า จากการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีมติเห็นชอบแนวทางการดำเนินการตาม Roadmap การจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย ตามที่กรมควบคุมมลพิษเสนอ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2557 และจังหวัดภูเก็ต ถูกกำหนดให้เป็นจังหวัดนำร่องในเรื่องการสร้างรูปแบบการจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตรายที่เหมาะสม (การจัดการขยะมูลฝอยแบบใหม่) โดยเน้นการลด และคัดแยกขยะมูลฝอยตั้งแต่ต้นทาง การจัดการขยะมูลฝอยแบบศูนย์รวม
และจังหวัดภูเก็ตได้กำหนดให้เรื่องการจัดการขยะมูลฝอยเป็นวาระเร่งด่วนของจังหวัด ที่จะต้องดำเนินการให้เห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ประกอบกับรัฐบาลได้มีนโยบายในการส่งเสริมการท่องเที่ยว และกำหนดให้จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดหนึ่งที่จะต้องรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้มีปริมาณขยะมูลฝอยเพิ่มมากขึ้นทุกปี แม้ว่าจะได้มีการรณรงค์ในเรื่องการลดและคัดแยกไปยังทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง แต่แนวโน้มอัตราการเพิ่มของปริมาณขยะยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบัน อัตราการเพิ่มของขยะมูลฝอยอยู่ที่ร้อยละ 7 ต่อปี และมีปริมาณขยะเฉลี่ย 750 ตันต่อวัน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องลดอัตราการเพิ่มขึ้นของขยะมูลฝอยลงให้ได้ แต่ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวจะสำเร็จได้ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง เพื่อให้จังหวัดภูเก็ต เป็นเมืองที่มีความสะอาด สวยงาม รองรับการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนตลอดไป
จังหวัดภูเก็ตได้เล็งเห็นว่า ห้างสรรพสินค้า ห้าง ร้านขนาดใหญ่ต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วทั้งเกาะเป็นองค์กรที่มีความสำคัญที่จะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนการดำเนินงานตาม Roadmap การจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย โดยเฉพาะการลด และคัดแยกขยะมูลฝอยตั้งแต่ต้นทาง การลดการใช้ถุงพลาสติก ตลอดจนการนำขยะมูลฝอยไปใช้ประโยชน์ หรือทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อลดอัตราการเพิ่มขึ้นของขยะมูลฝอยลงให้ได้
ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินงานเรื่องการลด คัดแยกขยะมูลฝอย และการลดใช้ถุงพลาสติกของห้างสรรพสินค้า ห้าง ร้านเห็นผลเป็นรูปธรรม มีการปฏิบัติที่ชัดเจน และมีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจแก่ผู้มาใช้บริการในห้างสรรพสินค้า ห้าง ร้าน จึงได้มีข้อตกลงเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาคราชการ และภาคเอกชนในการร่วมกันแก้ปัญหาวิกฤตขยะมูลฝอย เพื่อรณรงค์การลด คัดแยกขยะมูลฝอยและการลดใช้ถุงพลาสติก ของห้างสรรพสินค้าทุกแห่งในจังหวัดภูเก็ต และเพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์ และเสริมสร้างจิตสำนึกที่ดีแก่ผู้ที่มาจับจ่ายสินค้า และประชาชนทั่วไปในการปฏิเสธถุงพลาสติก นายณัฐกฤชญ์ กล่าวในที่สุด