กระบี่ - สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ เร่งตรวจสอบก๊าซหัวเราะในเกาะพีพี เบื้องต้นยังไม่พบมีการขาย นายแพทย์ สสจ.กระบี่ ระบุแม้ว่าจะไม่ใช่สารเสพติด แต่ผู้ซื้อ และขายมีความผิดตาม พ.ร.บ.ยา มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 หมื่น
จากรณีที่ได้มีการแชร์ภาพกลุ่มนักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติที่กำลังนอนดมลูกโป่งบรรจุสารบางชนิด บริเวณริมฟุตปาธในย่านสถานบันเทิง บนเกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ กันอย่างแพร่หลายในกลุ่มสังคมออนไลน์ โดยภาพดังกล่าวเป็นภาพที่หญิงสาว 3 คน นอนอยู่ริมฟุตปาธหน้าร้านแห่งหนึ่งในย่านสถานบันเทิงบนเกาะพีพี สภาพนอนหงายยกมือขึ้นอย่างมีความสุข ส่งผลให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานาในเรื่องความไม่เหมาะสม ปล่อยให้มีการจำหน่ายสารเสพติดให้แก่นักท่องเที่ยวอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย เกรงว่าจะส่งผลให้ภาพลักษณ์ของเกาะพีพี และการท่องเที่ยว จ.กระบี่ ภาพรวมเสียหาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด นายแพทย์พนัส โสภณพงศ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบกรณีดังกล่าวที่เกาะพีพี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะพีพี ในเบื้องต้น ไม่พบว่ามีการจำหน่ายสารดังกล่าวบนเกาะพีพี เพียงแต่พบเห็นภาพตามสื่อออนไลน์ เท่านั้น แต่จากข้อมูลที่เคยพบในพื้นที่อื่นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คาดว่าว่าสารที่นักท่องเที่ยวสูดดมเข้าไปน่าจะเป็นไนตรัสออกไซด์ (NitrousOxide) หรือที่เรียกว่าแก๊สหัวเราะ เป็นแก๊สที่อยู่ในรูปของเหลว และนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น ในทางการแพทย์ ใช้ผสมกับออกซิเจนแล้วใช้เป็นยาสลบ แต่มักต้องใช้ร่วมกับยาสลบตัวอื่นๆ ใช้ในการระงับปวดใช้ในทางทันตกรรม สูติกรรม ใช้ในอุตสาหกรรมการทำวิปครีม และเป็นแก๊สที่นิยมใช้กันในวงการแข่งรถยนต์ทำให้เครื่องแรงขึ้น ส่งผลให้แรงม้าเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ผู้ที่สูดดมสารดังกล่าวจะมีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ส่งผลทำให้เกิดอาการเคลิบเคลิ้ม และมีอาการชาตามมือตามเท้า และอาจจะหมดสติ ซึ่งถ้าใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ จึงไม่ควรไปสูดดม
อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวไม่ได้จัดอยู่ในประเภทสารเสพติด แต่จัดอยู่ในบัญชียาที่อยู่ในการควบคุม นำมาใช้ได้เฉพาะในทางการแพทย์ หากบุคลใดนำสารดังกล่าวมาจำหน่ายหรือซื้อ ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 มาตรา 12 ห้ามมิให้ผู้ใดผลิต ขาย หรือนำหรือสั่งเข้ามาใช้ในราชอาณาจักรซึ่งยาแผนปัจจุบัน เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท
จากรณีที่ได้มีการแชร์ภาพกลุ่มนักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติที่กำลังนอนดมลูกโป่งบรรจุสารบางชนิด บริเวณริมฟุตปาธในย่านสถานบันเทิง บนเกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ กันอย่างแพร่หลายในกลุ่มสังคมออนไลน์ โดยภาพดังกล่าวเป็นภาพที่หญิงสาว 3 คน นอนอยู่ริมฟุตปาธหน้าร้านแห่งหนึ่งในย่านสถานบันเทิงบนเกาะพีพี สภาพนอนหงายยกมือขึ้นอย่างมีความสุข ส่งผลให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานาในเรื่องความไม่เหมาะสม ปล่อยให้มีการจำหน่ายสารเสพติดให้แก่นักท่องเที่ยวอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย เกรงว่าจะส่งผลให้ภาพลักษณ์ของเกาะพีพี และการท่องเที่ยว จ.กระบี่ ภาพรวมเสียหาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด นายแพทย์พนัส โสภณพงศ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบกรณีดังกล่าวที่เกาะพีพี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะพีพี ในเบื้องต้น ไม่พบว่ามีการจำหน่ายสารดังกล่าวบนเกาะพีพี เพียงแต่พบเห็นภาพตามสื่อออนไลน์ เท่านั้น แต่จากข้อมูลที่เคยพบในพื้นที่อื่นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คาดว่าว่าสารที่นักท่องเที่ยวสูดดมเข้าไปน่าจะเป็นไนตรัสออกไซด์ (NitrousOxide) หรือที่เรียกว่าแก๊สหัวเราะ เป็นแก๊สที่อยู่ในรูปของเหลว และนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น ในทางการแพทย์ ใช้ผสมกับออกซิเจนแล้วใช้เป็นยาสลบ แต่มักต้องใช้ร่วมกับยาสลบตัวอื่นๆ ใช้ในการระงับปวดใช้ในทางทันตกรรม สูติกรรม ใช้ในอุตสาหกรรมการทำวิปครีม และเป็นแก๊สที่นิยมใช้กันในวงการแข่งรถยนต์ทำให้เครื่องแรงขึ้น ส่งผลให้แรงม้าเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ผู้ที่สูดดมสารดังกล่าวจะมีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ส่งผลทำให้เกิดอาการเคลิบเคลิ้ม และมีอาการชาตามมือตามเท้า และอาจจะหมดสติ ซึ่งถ้าใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ จึงไม่ควรไปสูดดม
อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวไม่ได้จัดอยู่ในประเภทสารเสพติด แต่จัดอยู่ในบัญชียาที่อยู่ในการควบคุม นำมาใช้ได้เฉพาะในทางการแพทย์ หากบุคลใดนำสารดังกล่าวมาจำหน่ายหรือซื้อ ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 มาตรา 12 ห้ามมิให้ผู้ใดผลิต ขาย หรือนำหรือสั่งเข้ามาใช้ในราชอาณาจักรซึ่งยาแผนปัจจุบัน เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท
