กระบี่ - เอกชนเตรียมผุดโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาดกำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ ในพื้นที่ ต.เหนือคลอง จ.กระบี่ ขณะที่ค้านไม่เอาโรงไฟฟ้าชีวมวล ระบุไม่เคยพูดถึงผลกระทบสิ่งแวดล้อม
วันนี้ (5 มิ.ย.) ที่ลานหน้าที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลนาเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ได้มีการจัดทำประชาคมชุมชนรอบโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาดกำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ ของบริษัทอ่าวลึกคอร์เปอเรชั่น จำกัด ครั้งที่ 3 เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจ ตลอดจนรับฟังความคิดเห็นประชาชนรอบโรงไฟฟ้าในรัศมี 1.5 กิโลเมตร ภายหลังจากทางบริษัทฯ ได้มีโครงการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าชีวมวลขึ้นในพื้นที่ ม.2 ต.นาเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่
โดยมีองค์การบริหารส่วนตำบลนาเหนือ ผู้แทนจากบริษัทอ่าวลึกคอร์เปอเรชั่น จำกัด เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดกระบี่ พลังงานจังหวัด การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้ข้อมูลชี้แจงทำความเข้าใจประชาชนถึงความเป็นมา และผลประโยชน์ที่ชุมชนจะได้รับ รวมทั้งมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งมีทั้งกลุ่มที่สนับสนุน และคัดค้านโครงการก่อสร้างเข้าร่วมประชุมจำนวนกว่า 300 คน
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ นายสุพัฒน์ ธรรมเพชร อดีต ส.ส.จังหวัดพัทลุง ในฐานะที่ปรึกษาบริษัท อ่าวลึกคอร์เปอเรชั่น จำกัด กำลังพูดคุยทำความเข้าใจต่อชาวบ้านถึงกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้าจากชีวมวล โดยจะนำไม้ยางพารามาเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า เพื่อตอบสนองนโยบายส่งเสริมด้านพลังงานของรัฐบาล สร้างงานสร้างรายได้ในชุมชน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพราะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย กลุ่มชาวบ้านที่คัดค้านก็ได้ส่งเสียงตะโกนว่าสิ่งที่กำลังอธิบายมานั้นชาวบ้านเคยได้รับฟังแล้ว ในแต่ส่วนของผลกระทบสิ่งแวดล้อมไม่มีการพูดถึง เพราะที่ตั้งโรงงานอยู่ห่างจากโรงเรียน และชุมชนไม่ถึง 500 เมตร เชื่อว่าจะมีผลกระทบอย่างแน่นอน และไม่เชื่อว่าโรงไฟฟ้าชีวมวลจะมีมาตรการที่ป้องกันผลกระทบดังกล่าวได้ ท่ามกลางเสียงโห่ และเสียงปรบมือจากผู้ที่คัดค้านโรงไฟฟ้าชีวมวล
โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ่าวลึก ดูแลความสงบเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ภายหลังการประชุมผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง เหตุการณ์ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย ทางตัวแทนของบริษัทอ่าวลึกคอร์เปอเรชั่น ก็ได้ขอให้ชาวบ้านที่เข้าร่วมประชุมยกมือโหวตเสียง ว่า เห็นด้วยต่อการสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลหรือไม่ ชาวบ้านที่เข้าประชุมส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ทางบริษัทจึงต้องยุติการทำประชาคมในที่สุด
โดย นายสุพัฒน์ กล่าวว่า ในเมื่อประชาชนไม่เห็นด้วยทางบริษัทก็ต้องยุติการทำประชาคมเพื่อลดความขัดแย้ง ส่วนจะเดินหน้าโครงการต่อไปหรือไม่นั้น ต้องรอหารือกับทางคณะกรรมบริหารของบริษัทอีกครั้ง
วันนี้ (5 มิ.ย.) ที่ลานหน้าที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลนาเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ได้มีการจัดทำประชาคมชุมชนรอบโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาดกำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ ของบริษัทอ่าวลึกคอร์เปอเรชั่น จำกัด ครั้งที่ 3 เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจ ตลอดจนรับฟังความคิดเห็นประชาชนรอบโรงไฟฟ้าในรัศมี 1.5 กิโลเมตร ภายหลังจากทางบริษัทฯ ได้มีโครงการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าชีวมวลขึ้นในพื้นที่ ม.2 ต.นาเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่
โดยมีองค์การบริหารส่วนตำบลนาเหนือ ผู้แทนจากบริษัทอ่าวลึกคอร์เปอเรชั่น จำกัด เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดกระบี่ พลังงานจังหวัด การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้ข้อมูลชี้แจงทำความเข้าใจประชาชนถึงความเป็นมา และผลประโยชน์ที่ชุมชนจะได้รับ รวมทั้งมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งมีทั้งกลุ่มที่สนับสนุน และคัดค้านโครงการก่อสร้างเข้าร่วมประชุมจำนวนกว่า 300 คน
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ นายสุพัฒน์ ธรรมเพชร อดีต ส.ส.จังหวัดพัทลุง ในฐานะที่ปรึกษาบริษัท อ่าวลึกคอร์เปอเรชั่น จำกัด กำลังพูดคุยทำความเข้าใจต่อชาวบ้านถึงกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้าจากชีวมวล โดยจะนำไม้ยางพารามาเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า เพื่อตอบสนองนโยบายส่งเสริมด้านพลังงานของรัฐบาล สร้างงานสร้างรายได้ในชุมชน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพราะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย กลุ่มชาวบ้านที่คัดค้านก็ได้ส่งเสียงตะโกนว่าสิ่งที่กำลังอธิบายมานั้นชาวบ้านเคยได้รับฟังแล้ว ในแต่ส่วนของผลกระทบสิ่งแวดล้อมไม่มีการพูดถึง เพราะที่ตั้งโรงงานอยู่ห่างจากโรงเรียน และชุมชนไม่ถึง 500 เมตร เชื่อว่าจะมีผลกระทบอย่างแน่นอน และไม่เชื่อว่าโรงไฟฟ้าชีวมวลจะมีมาตรการที่ป้องกันผลกระทบดังกล่าวได้ ท่ามกลางเสียงโห่ และเสียงปรบมือจากผู้ที่คัดค้านโรงไฟฟ้าชีวมวล
โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ่าวลึก ดูแลความสงบเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ภายหลังการประชุมผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง เหตุการณ์ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย ทางตัวแทนของบริษัทอ่าวลึกคอร์เปอเรชั่น ก็ได้ขอให้ชาวบ้านที่เข้าร่วมประชุมยกมือโหวตเสียง ว่า เห็นด้วยต่อการสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลหรือไม่ ชาวบ้านที่เข้าประชุมส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ทางบริษัทจึงต้องยุติการทำประชาคมในที่สุด
โดย นายสุพัฒน์ กล่าวว่า ในเมื่อประชาชนไม่เห็นด้วยทางบริษัทก็ต้องยุติการทำประชาคมเพื่อลดความขัดแย้ง ส่วนจะเดินหน้าโครงการต่อไปหรือไม่นั้น ต้องรอหารือกับทางคณะกรรมบริหารของบริษัทอีกครั้ง