บุรีรัมย์-อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับหลายภาคส่วนเปิดเวทีรับฟังความเห็น พร้อมชี้แจงทำความเข้าใจถึงผลดีผลเสียการตั้งโรงงานแป้งมันในพื้นที่ของบริษัทเอกชน เพื่อลดปัญหาขัดแย้งระหว่างชาวบ้าน กลุ่มที่เห็นด้วยกับที่คัดค้าน หลังมีการรวมตัวประท้วงต่อต้านหลายครั้ง หวั่นเกิดปัญหาบานปลาย
เมื่อเร็วๆ นี้ อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับหลายหน่วยงาน ประกอบไปด้วย ผู้แทนจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กลุ่มเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรลำน้ำมาศ และตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังในพื้นที่ อ.ปะคำ
พร้อมด้วยกรรมการผู้จัดการบริษัท สยามมอดิฟายด์ สตาร์ช จำกัด ได้เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นพร้อมชี้แจงทำความเข้าใจถึงผลดี ผลเสีย และผลกระทบในการก่อสร้างโรงงานแป้งมันสำปะหลัง ของบริษัท สยามมอดิฟายด์ สตาร์ช จำกัด ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ในพื้นที่ ต.หนองบัว อ.ปะคำ อยู่ในขณะนี้
การเปิดเวทีในครั้งนี้เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งระหว่างชาวบ้านที่เห็นด้วย กับชาวบ้านที่คัดค้านที่ได้มีการออกมาเคลื่อนไหวประท้วงต่อต้านไม่ให้มีการก่อสร้างโรงงานแป้งมันดังกล่าวหลายครั้งนี้ จึงเกรงจะเกิดปัญหาความขัดแย้งบานปลาย
ทั้งนี้ ชาวบ้านกลุ่มที่เห็นด้วยบอกว่า หากมีการก่อสร้างโรงงานแป้งมันในพื้นที่ก็จะเกิดประโยชน์แก่เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ไม่ต้องขนผลผลิตไปจำหน่ายยังนอกพื้นที่ ซึ่งอยู่ไกลถึง จ.นครราชสีมา เพราะในพื้นที่ไม่มีโรงแป้งมัน
ส่วนกลุ่มที่คัดค้านก็กังวลว่าจะเกิดผลกระทบต่อวิถีชีวิต และสิ่งแวดล้อมในชุมชน โดยเฉพาะการปล่อยน้ำเสียออกจากโรงงานที่จะส่งผลกระทบทั้งพื้นที่การเกษตร และแหล่งน้ำที่ใช้ในการอุปโภคบริโภค อีกทั้งที่ผ่านมาไม่เคยมีการทำประชาคมรับฟังความเห็นจากชาวบ้าน
ขณะที่ ดร.วีรวัฒน์ เลิศวนวัฒนา กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามมอดิฟายด์ สตาร์ช จำกัด ระบุว่า ที่ผ่านมาทางบริษัทได้ดำเนินการขออนุญาตประกอบกิจการและจัดตั้งโรงงานตามพระราชบัญญัติโรงงานอย่างถูกต้องทุกขั้นตอน
ส่วนที่ชาวบ้านกังวลว่าการก่อตั้งโรงงานแป้งมันจะก่อให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมนั้น ยืนยันว่าทางบริษัทมีเทคโนโลยีและระบบในการบริหารจัดการที่ได้มาตรฐานไม่ก่อให้เกิดปัญหาแก่ชุมชนอย่างแน่นอน
ด้านนายเพชร สุพพัตกุล นายอำเภอปะคำ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นอาจจะเกิดจากขาดการประชาสัมพันธ์และการชี้แจงทำความเข้าใจที่ชัดเจนต่อเนื่อง ทั้งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทางบริษัทเอง จึงทำให้ชาวบ้านที่ไม่ทราบข้อมูลที่แท้จริงเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน
ดังนั้น จึงได้มีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นและชี้แจงทำความเข้าใจจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อลดปัญหาความความขัดแย้งบานปลาย
