xs
xsm
sm
md
lg

“พระชินวรณ์” ติงการศึกษาไทยเหมือนหมาหางด้วน แนะรัฐบาลปฏิรูปก่อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สุราษฎร์ธานี - “พระชินวรณ์” อดีต รมว.ศึกษา แนะรัฐบาลควรปฏิรูปการศึกษาก่อนกฎหมายรัฐธรรมนูญ เน้นคุณภาพคู่คุณธรรม ติงการศึกษาไทยเหมือนสุนัขหางด้วน พร้อมทั้งคัดค้านการจัดตั้งกระทรวงอุดมศึกษา โดยให้เหตุผลว่าปัญหาการศึกษาไทยไม่อยู่ที่กระทรวง

วันนี้ (30 พ.ค.) ที่อาคารเรือ วัดธารน้ำไหล (สวนโมกขพลาราม) อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พระชินวรณ์ จน.ทสาโร บุญเกียรติ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ บรรยายในหัวข้อเรื่อง “ศาสนากับวิถีชีวิตครู” ให้แก่ครูที่เข้าอบรมหลักสูตรเชิงปฏิบัติการโครงการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาใน จ.สุราษฎร์ธานี ประมาณ 134 คน เกี่ยวกับการปฏิรูปการศึกษาไทย ว่า ที่ผ่านมา การศึกษาของไทยเปรียบเสมือนสุนัขหางด้วน โดยเน้นการเรียนการสอนเฉพาะวิชาการเพียงอย่างเดียว ในสมัยที่ตนเองเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้พยายามแก้ไขปรับปรุงมาโดยตลอด เป็นกระบอกเสียงของตัวแทนครูเพราะเข้าใจชีวิตครูเป็นอย่างดี ในขณะที่กระทรวงอื่นๆ ไม่เข้าใจ พยายามที่จะมองในมุมที่ว่า อาชีพครูเป็นอาชีพที่สบาย มีปิดเทอมแต่ความเป็นจริงไม่ใช่ ครูต้องทำงานตลอด นักเรียนปิดเทอม แต่ครูไม่ปิด ต้องทำแผนการเรียนการสอน

อย่างไรก็ตาม ได้ขอฝากไปยัง พล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมาย มาตรา 44 เห็นด้วยต่อ พล.อ.ประยุทธ์ โยกย้ายข้าราชการระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ แต่ขอให้ใช้มาตรา 44 ในเชิงสร้างสรรค์ ปฏิรูปการศึกษา โดยตนได้เสนอแนะว่า 1.ให้คุณภาพผู้เรียน 2.ให้เปลี่ยนพฤติกรรมของครูโดยให้ครูมีจรรยาบัน มีจิตวิญญาณของความเป็นครู 3.ส่งเสริมขวัญกำลังใจครู 4.ขอให้ต่อยอดสิ่งที่ทำมาแล้ว คือ กองทุนครูของแผ่นดินซึ่งเป็นการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และให้ดำเนินการบูรณาการในเรื่องเทคโนโลยี ให้จัดตั้งกองทุนเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา แล้วให้ดำเนินการให้มีการปฏิรูปก่อนกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพราะการศึกษาเป็นเรื่องเดียวที่ไม่สามารถเขียนไว้ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ และจะให้ปฏิรูปได้

รัฐบาลจะต้องเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในการปฏิรูป ต้องกล้าประกาศเลยว่า ระดับประถมการศึกษา มัธยมการศึกษา เป็นระดับขั้นพื้นฐาน จะต้องเน้นให้เด็กมีคุณธรรม มีคุณภาพคู่กับคุณธรรม หรือเน้นพลเมืองศึกษา โดยเอาคนดีก่อน คนเก่งตามมาทีหลัง โดยเน้นว่า ป.1-3 อ่านออกเขียนได้ เคารพพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ มีวินัย ป.4-5-6 อ่านคล่อง เขียนคล่อง มีการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ ม.1-2-3 อ่าคล่อง เขียนคล่อง สื่อสารเป็นภาษอังกฤษได้ ม.4-5-6 ต้องวิเคราะห์เป็น ทำเป็น แก้ปัญหาได้ ในอดีตที่ผ่านมา ผู้ที่จบมาจาก ปวช. ปวส. เมื่อถามว่าทำอะไรได้มั่ง เด็กตอบไม่ถูก

“เราต้องปฏิรูปให้เด็กที่จบมาตอบคำถาม ว่า ทำอะไรได้มั่ง หากจะปฏิรูปก็ขอให้มีปฏิรูปอย่างจริงจัง จึงขอฝากไปยัง เรือเอกณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ถึงแม้ว่าจะเป็นนายทหารเรือ อาตมาเชื่อว่าจะสามารถเรียกนักการศึกษา ผู้รู้ในกระทรวงศึกษาธิการ หรือเอาผลที่เขาเคยศึกษามาแล้วตั้งการปฏิรูปการศึกษาครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ว่า ทำไมทั้ง 2 รอบจึงยังไม่ถึงนักเรียน อะไรก็ตามที่ยังไม่ถึงนักเรียนอาตมาขอร้องเลยว่าอย่าทำ” พระชินวรณ์ กล่าวและว่า

ขอคัดค้านการจัดตั้งกระทรวงอุดมศึกษา ไม่มีผลอะไรต่อนักเรียน นอกจากได้รัฐมนตรี และปลัดกระทรวงเพิ่มขึ้นมา พร้อมระบุว่า ปัญหาการศึกษาไม่ได้อยู่ที่กระทรวง มันอยู่ที่การผลิตนักศึกษาให้เป็นบัณฑิตรูปใหม่ได้อย่างไร ตอนสมัยอาตมาเป็นรัฐมนตรีได้ประกาศว่า 1.บัณฑิตรูปใหม่ต้องมีคุณธรรม มีความเป็นพลเมือง 2.ต้องมีความรู้ความสามารถทำงานได้ 3.ต้องทันต่อเทคโนโลยี และที่สำคัญบัณฑิตยุคใหม่ต้องมีความเป็นพลเมือง ต้องเป็นกำลังของบ้านเมืองหากบุคคลที่จบปริญญาตรีแล้วไม่สามารถเป็นกำลังของบ้านเมืองได้ก็จบเลย ดังนั้น รัฐบาลจะต้องมาเน้น และผลักดันในเรื่องดังกล่าวให้ลุล่วง
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น