นครศรีธรรมราช - ผกก.ตชด.42 ประชุมเครียดเร่งล่าตัวมือมืดโจรกรรมอาวุธสงคราม ยันสงสัยคนในเป็นไส้ศึก เชื่ออาวุธทั้งหมดยังอยู่ในพื้นที่ พนักงานสอบสวนบี้สอบเงื่อนงำ
วันนี้ (28 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายง่าที่ จ.นครศรีธรรมราช ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.ต.อ.นิคม พลประสิทธิ์ ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 42 ค่ายศรีนครินทราอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช เรียกประชุมนายตำรวจ และผู้เกี่ยวกับกรณีคนร้ายบุกเข้าไปงัดคลังแสง กองร้อย ตชด.427 หมู่ที่ 8 ตำบลหนองหงส์ อำเภอทุ่งสง และทำการโจรกรรมอาวุธสงครามของทางราชการเป็นปืนเอ็ม 16 จำนวน 5 กระบอก เอชเค 33 จำนวน 5 กระบอก และเครื่องยิงเอ็ม 203 ชนิดติดใต้ลำกล้องปืนเอ็ม 16 อีก 1 กระบอก
พ.ต.อ.นิคม พลประสิทธิ์ ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชานแดนที่ 42 ระบุว่า ได้ตั้งกรรมการขึ้นสอบข้อเท็จจริงต่อผู้ที่ต้องมีส่วนรับผิดชอบทุกส่วนแล้ว และเชื่อว่าประเด็นของการสูญหายเกิดขึ้นจากคนภายในที่อาจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ยังไม่พบหลักฐานที่เชื่อมโยงชัดๆ แต่ในทางการข่าวนั้นเราพอรู้ตัวว่าเป็นคนไหนอย่างไร มีพฤติการณ์อย่างไร ซึ่งเชื่อว่าภายใน 7 วันจะมีความชัดเจน
ต่อมา พ.ต.ท.วิษณุ ชนะอักษร ผบ.ร้อย ตชด.427 ได้นำเข้าตรวจสอบบริเวณคลังแสงของกองร้อย พบว่า ตั้งอยู่ภายในรั้วลวดหนาม เป็นอาคารชั้นเดียวมีประตูยืดอยู่ด้านหน้า และมีประตูเหล็กอีกชั้นอยู่ภายใน ทั้งหมดไม่มีระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด โดยเจ้าหน้าที่ได้เก็บเอาอาวุธและวัตถุระเบิดที่อยู่ในคลังแสงไปไว้ที่กองกำกับการ ตชด.42 ทั้งหม ดเนื่องจากเกรงว่าอาจมีการลักลอบเข้ามาก่อเหตุบางอย่างซ้ำโดยเฉพาะวัตถุระเบิด
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน พ.ต.ท.วิษรู ชนะอักษร ผบ.ร้อย ตชด.427 ได้เข้าให้ปากคำต่อ พ.ต.อ.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผกก.สถานีตำรวจภูธรทุ่งสง หลังจากที่ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กรณีการงัดคลังแสดง และโจรกรรมอาวุธปืนสงครามของทางราชการไปรวม 10 กระบอก พร้อมทั้งระบุว่ากรณีที่เกิดขึ้นนั้นเชื่อว่าคนในมีส่วนรู้เห็น หรือก่อเหตุเสียเอง ขณะนี้พอทราบตัวแล้วอยู่ในระหว่างการติดตามทั้งอาวุธปืน และพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้อง
ขณะที่ พ.ต.อ.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรทุ่งสง ระบุว่าได้ประสานกับทุกหน่วยในการติดตามสืบหาอาวุธปืนรวมทั้งการก่อเหตุ ส่วนการสอบสวนตำรวจตระเวนชายแดนนั้นได้เรียกมาสอบปากคำแล้ว 4 ปาก และยังมีที่ต้องสอบอีกราว 10 ปาก ขณะเดียวกัน ได้วางสายกำลังป้องกันการเคลื่อนย้ายอาวุธปืนทั้งหมดออกนอกพื้นที่อำเภอทุ่งสง
ส่วนเงื่อนงำที่ต้องสอบสวนนั้นพบว่า ปืนบางกระบอกที่หายไปมีการทำหนังสือยืมจากกำลังพลที่ไปปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัด แต่เหตุใดจึงไม่เอาไป ขณะที่ผู้ก่อเหตุนั้นในทางการข่าวของเจ้าหน้าที่พบว่า มีอยู่ด้วยกัน 3 คน และการเข้าโจรกรรมปืนทั้ง 10 กระบอกนั้นต้องเข้าก่อเหตุอย่างน้อย 2 ครั้ง เนื่องจากน้ำหนักของปืนทั้ง 10 กระบอก หากเคลื่อนย้ายครั้งเดียวทั้ง 10 กระบอก จะมีน้ำหนักมากเกินไป