หนองคาย - เกิดเหตุแพขนานยนต์ สปป.ลาว ที่รับผู้โดยสารชาวลาวข้ามแม่น้ำงึม กระแสน้ำไหลเชี่ยวทำแพล่มกลางลำน้ำ เผยเด็กนักเรียน 10 คนโชคร้ายจมหายไปกับกระแสน้ำ เบื้องต้นคาดแพบรรทุกผู้โดยสารเกินขนาด
วันนี้ (26 พ.ค. 58) นายชาญวิทย์ ปุณยานันต์ นายกสมาคมหนองคายการกุศล กู้ภัยประจักษ์ ได้รับการประสานขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก สปป.ลาว ขอกำลังเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำพร้อมเครื่องมือช่วยค้นหาผู้จมน้ำจากเหตุแพขนานยนต์ที่บรรทุกผู้โดยสารล่มกลางแม่น้ำงึม ซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำโขง ที่บริเวณท่าน้ำบ้านนาบง เมืองปากงึม แขวงกำแพงนครเวียงจันทน์ สปป.ลาว
เบื้องต้นทราบว่ามีเด็กนักเรียนชั้น ป.5 จากโรงเรียนบ้านนาบง สูญหายไปในน้ำ 10 คน นายชาญวิทย์จึงนำเจ้าหน้าที่กู้ภัยประจักษ์ จำนวน 15 นาย พร้อมอุปกรณ์ไปช่วยเหลือ โดยเดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุเวลาประมาณ 14.00 น. ซึ่งขณะนั้นได้มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยนครหลวงเวียงจันทน์, มูลนิธิช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก สปป.ลาว, หน่วยช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุทางท้องถนน สปป.ลาว และกำลังทหารของทางการลาว ช่วยกันค้นหาผู้สูญหายอยู่ในแม่น้ำงึมอย่างขะมักเขม้นท่ามกลางกระแสน้ำไหลเชี่ยว โดยมีประชาชนชาวลาวเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดจำนวนมาก
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 07.15 น. ครูคนหนึ่งได้พานักเรียนชั้น ป.5 จำนวน 10 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 8 คน มาลงแพขนานยนต์เพื่อเดินทางข้ามแม่น้ำงึมไปสอบเข้าเรียนต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่โรงเรียนบ้านท่ากกไฮ และมีประชาชนผู้ร่วมเดินทางไปกับแพขนานยนต์ในครั้งนี้รวมทั้งสิ้น 39 คน โดยแพขนานยนต์ลำดังกล่าวเป็นของนางด่อน ไม่มีนามสกุล เป็นแพขนาดเล็ก ให้บริการรับส่งผู้โดยสารข้ามฟาก โดยใช้เครื่องยนต์เรือหางยาว 1 เครื่องเป็นตัวขับเคลื่อน
เมื่อแพออกจากท่าเทียบประมาณ 100 เมตร ด้วยกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก ประกอบกับแพรับน้ำหนักมากเกินไปจึงทำให้แพค่อยๆ จมลง ผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ต่างพากันแตกตื่นตะเกียกตะกายว่ายขึ้นฝั่งเอาตัวรอด แต่เด็กนักเรียนทั้ง 10 คนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้จมหายไปในกระแสน้ำ ทราบชื่อภายหลังคือ นางกุ้ง อัมพร, นางกม อัมพร, นางแพ ตาเห้อ, นางคัดตี จานสี, นางปูนา จานสี, ท้าวแสงจัน แป๊ะ, นางสีเลียน ไม่มีนามสกุล, ท้าววาสนา สังวาน, นางหมี เสาทอง และนางปทุมมา สมคิด ทั้งหมดอายุประมาณ 11 ขวบ
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายลาวได้ช่วยกันงมหาเด็กที่จมน้ำทั้งหมด โดยท่านสายทอง แก้วดวงดี รองเจ้าครองนครหลวงเวียงจันทน์ ได้เดินทางไปควบคุมการปฏิบัติการค้นหาด้วยตนเอง ซึ่งการค้นหาดำเนินไปจนถึงเวลา 18.00 น. จึงได้ยุติการค้นหา โดยที่ยังไม่สามารถพบร่างของนักเรียนแม้แต่คนเดียว
