ตรัง - หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ยันคำสั่งปิดสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเล ทำไปอย่างถูกต้อง เหมาะสม เพื่อความปลอดภัยและฟื้นฟูธรรมชาติ งงไม่เข้าใจผู้ประกอบการออกมาโวยทำไม
นายมาโนช วงษ์สุรีรัตน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จังหวัดตรัง ชี้แจงถึงกรณีที่มีกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวออกมาเคลื่อนไหว อันเนื่องมาจากการที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ได้ออกคำสั่งปิดสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเล ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2558 ถึง 30 กันยายน 2558 ประกอบไปด้วย เกาะมุก เกาะแหวน เกาะเชือก เกาะกระดาน ถ้ำมรกต และพื้นที่ชมปะการังน้ำตื้นทะเลตรังทั้งหมด โดยได้ผ่านความเห็นชอบ และเป็นไปตามประกาศของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ออกคำสั่งมาตั้งแต่เมื่อปี 2556 ซึ่งเป็นข้อปฏิบัติที่อุทยานแห่งชาติในฝั่งทะเลอันดามันทุกแห่งดำเนินการเหมือนกันทั้งหมด
ทั้งนี้ เดิมทางกรมได้ออกประกาศปิดสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเล เป็นระยะเวลาถึง 6 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม ถึง 15 ตุลาคม แต่หลังจากที่ตนมารับตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ควรปิดสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลเพียงแค่ 4 เดือน เฉพาะในช่วงมรสุมที่มีคลื่นลมค่อนข้างรุนแรงจริงๆ เพื่อเปิดโอกาสให้ได้ใช้ประโยชน์ในเขตอุทยานแห่งชาติมากขึ้นเป็นปีละ 8 เดือน ซึ่งก็มีการดำเนินการเช่นนี้มา 2 ปีแล้ว และผู้ประกอบการท่องเที่ยวต่างก็รับรู้ หรือปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวโดยดี แต่จู่ๆ ทำไมในปีนี้จึงได้มีการออกมาเคลื่อนไหว โดยอ้างว่าทำให้เกิดผลกระทบต่อนักท่องเที่ยว
“เมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา มีการประชุมคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ครั้งที่ 1/2558 โดยมีนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง เข้าร่วมด้วยนั้น ได้มีการแจ้งคำสั่งปิดสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลให้รับทราบแล้ว จากนั้น เมื่อกลางเดือนพฤษภาคม ทางอุทยานก็ยังมีการทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ประกอบการท่องเที่ยว และส่วนราชการในจังหวัดตรัง ให้รับทราบหมดแล้วเช่นกัน พร้อมปิดป้ายประชาสัมพันธ์คำสั่ง จำนวน 5 จุด คือ ที่ท่าเรือหาดปากเมง ท่าเรือหาดฉางหลาง ท่าเรือเกาะมุก ท่าเรือหาดยาว และท่าเรือควนตุ้งกู ซึ่งการดำเนินการทุกอย่างมีหลักฐานชัดเจน และไม่ได้ทำโดยพลการแต่อย่างใด"
สำหรับจุดประสงค์สำคัญที่สุดในการออกคำสั่งปิดสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเล ก็เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เพราะในช่วงมรสุม 4 เดือน เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานจะถอนกำลังออกไปทำงานด้านอื่น หากมีเหตุการณ์อะไรขึ้นมากลางท้องทะเลก็จะมีความเสี่ยงเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนั้น ยังช่วยพักการใช้ประโยชน์ทางการท่องเที่ยว หรือให้ธรรมชาติได้ฟื้นตัว ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานทั่วโลก โดยหากผู้ประกอบการ หรือส่วนราชการใดต้องการเดินทางเข้าไปในพื้นที่ จะต้องทำหนังสือให้ทางกรมพิจารณา เพื่อจัดกำลังไปดูแลความปลอดภัย แต่หากผู้ใดฝ่าฝืนลักลอบเข้ามาก็จำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นายประทีป โจ้งทอง นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง กล่าวว่า การออกคำสั่งปิดสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม นอกจากจะสร้างความเสียหายให้แก่ธุรกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดตรังเป็นมูลค่านับร้อยล้านบาทแล้ว ทางอุทยานยังประกาศจะดำเนินการต่อเรือทัวร์ทุกลำที่ฝ่าฝืนคำสั่งอย่างเด็ดขาด รวมทั้งข่มขู่ไม่รับรองความปลอดภัย และจะไม่ได้รับสิทธิคุ้มครองจากบริษัทประกันภัย หากเข้าไปยังสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลในช่วงดังกล่าว จึงขอเรียกร้องให้ทางอุทยานยกเลิกคำสั่ง และเปลี่ยนมาเป็นแค่การเตือนเท่านั้น เพื่อลดผลกระทบต่อผู้ประกอบการ