ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้าคลี่คลาคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา ล่าสุดอัยการสูงสุดได้ส่งพนักงานอัยการมาร่วมสอบสวนกับตำรวจ เนื่องจากเหตุเกิดเชื่อมโยงหลายพื้นที่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่วนด้านคดียังไม่มีการออกหมายจับหรือมีผู้ต้องหาเข้ามอบตัวเพิ่มเติม
วันนี้( 23 พ.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมประชุมกับ พล.ต.ท.มนตรีโปตระนันท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และ พล.ต.ต.พุทธิชาติ เอกฉันท์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เพื่อสรุปความคืบหน้าการสืบสวนสวน
โดยในส่วนของคดียังไม่มีการออกหมายจับ หรือมีการจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติม ยอดของผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับยังอยู่ที่ 77 หมายจับ มีผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวได้แล้ว 46 คน และยังหลบหนีอีก 31 คน โดยในจำนวนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีนั้นมีรายสำคัญหลายคนทั้งที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นและผู้นำท้องถิ่นซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ จ.สตูล โดยทาง พล.ต.อ.เอก ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเดินหน้ากดดันเพื่อจับกุมให้ได้ทั้งหมดหากยังไม่เข้ามอบตัว
และในวันนี้เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัว นายวุฒิ วุฒิประดิษฐ์ อดีตตำรวจสตูล นายศราวุธ พรหมกะหมัด นายทนงศักดิ์ เหมมัน เครือข่ายค้ามนุษย์ใน จ.สงขลา ไปฝากขังที่ศาลจ.สงขลา ผลัดแรกหลังสอบสวนเสร็จและคัดค้านการประกันตัวเหมือนกับผู้ต้องหาคนอื่น ขณะเดียวกันในวันนี้ พล.ต.อ.เอก พร้อมคณะจะเดินทางไปติดตามเหยื่อค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจาที่พักพิงอยู่ที่สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ(ชาย) จ.สงขลา นิคมสร้างตนเองรัตภูมิ รวมทั้งลงพื้นที่พบปะกับชาวบ้านในพื้นที่บ้านคลองต่อ ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ เพื่อขอความร่วมมือในการแจ้งเบาะแสรวมทั้งแก้ปัญหาการค้ามนุษย์เพราะเคยเป็นหนึ่งในพื้นที่เป็นสถานที่ตั้งแคมป์กักตัวชาวโรฮิงญา
ด้าน พล.ต.ต.ปวิณ พงศ์สิริทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 หัวหน้าพนักงานสอบสวนเปิดเผยถึงแนวทางการสอบสวนคดีนี้ว่า เนื่องจากคดีนี้เป็นความผิดที่เข้าลักษณะประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20 และเชื่อมโยงกับหลายพื้นที่ตั้งแต่ บังคลาเทศ พม่า ระนอง นครศรีธรรมราช สตูล สงขลา และมาเลเซีย และมีความสลับซับซ้อนในเรื่องข้อเท็จจริงและผู้ต้องหารวมทั้งพยานบางส่วนอยู่ในต่างประเทศ และการกระทำผิดบางส่วนเกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร ซึ่งอัยการสูงสุดจะเป็นผู้รับผิดชอบ และล่าสุดทางอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งให้พนักงานอัยการมาร่วมทำการสอบสวนกับพนักงานสอบสวนของฝ่ายตำรวย โดยเมื่อวานนี้ได้มีการประชุมร่วมกันแล้วและหลังจากนี้ทางพนักงานอัยการและพนักงานสอบสวนจะร่วมกันสอบสวนควบคู่กันไป พร้อมกับแต่งตั้งให้ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบในคดีนี้